กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข แนะกินผักผลไม้ สีเขียวและสีแดง เฉลิมฉลองในเทศกาลคริสต์มาส ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรงและมีสุขภาพดี
วันนี้ (24 ธ.ค.) นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า การเฉลิมฉลองในเทศกาลคริสต์มาส ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ยังคงต้องขอความร่วมมือทุกครอบครัวคุมเข้มและเฝ้าระวังอย่างเข้มข้น ซึ่งนอกจากแต่ละครอบครัวจะปรุงอาหารที่เป็นเมนูหลักกินร่วมกันแบบเว้นระยะห่าง มีอุปกรณ์ส่วนตัวแล้ว การสร้างบรรยากาศ เพื่อให้เข้ากับช่วงเทศกาลคริสต์มาส ด้วยผัก ผลไม้สีเขียวและสีแดงที่ช่วยสร้างสีสันและยังส่งผลให้ร่างกายแข็งแรงด้วย เพราะผักผลไม้สีเขียวจะมีสารที่เรียกว่า คลอโรฟิลล์ (chlorophyll) ซึ่งเป็นสารสีเขียวที่อยู่ในคลอโรพลาสต์ พบมากในผักสีเขียวเข้ม ลูทีน (Lutein) และซีแซนทีน (Zeaxanthin) ชะลอการเสื่อมของจอประสาทตาช่วยลดความเสี่ยงโรคมะเร็ง นอกจากนี้ ผักใบเขียวยังมีใยอาหารสูงช่วยในการขับถ่ายลดอาการท้องผูกได้ดีอีกด้วย ผักใบเขียว เช่น กะหล่ำปลีเขียว บรอกโคลี คะน้า หน่อไม้ฝรั่ง ผักโขม ถั่วลันเตา ตำลึง บวบ และผลไม้สีเขียว เช่น ฝรั่ง องุ่น แอปเปิลเขียว ชมพู่ เป็นต้น
นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวต่อไปว่า ผักผลไม้สีแดง มีสารสำคัญ คือ ไลโคปีน (Lycopene) เบตาไซซีน (Betacycin) และสารแอนโทไซยานิน (Anthocyanin) โดยเฉพาะไลโคปีนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระชั้นดีช่วยยับยั้งเซลล์มะเร็ง ทำให้ลดความเสี่ยงของโรคมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งปอด และมะเร็งปากมดลูก ช่วยลดปริมาณไขมันไม่ดีชนิด (LDL-cholesterol) ชะลอการเกิดโรคหัวใจหลอดเลือดลดความดันโลหิต และลดการแข็งตัวของหลอดเลือด อีกทั้งยังช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ ทำให้ผิวพรรณสดใส อ่อนเยาว์ ผักสีแดง เช่น มะเขือเทศ พริกแดง หอมแดง บีทรูท และผลไม้สีแดง เช่น แอปเปิลแดง สตรอว์เบอรี่ ทับทิม แตงโม องุ่นแดง เชอรี่ แครนเบอร์รี่ ราสเบอร์รี่ เป็นต้น
“ทั้งนี้ การกินอาหารนอกเหนือจากช่วงเทศกาล ควรกินให้ครบ 5 หมู่ หลากหลายในปริมาณเหมาะสมตามวัย ลดอาหารหวาน มัน เค็ม ที่สำคัญควรจะต้องมีผักและผลไม้ในทุกมื้ออาหาร ให้ได้มากกว่า 400 กรัม หรือประมาณ 2 ทัพพีต่อวันขึ้นไปตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก เพราะผักและผลไม้เป็นอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามิน เกลือแร่ ใยอาหาร สารต้านอนุมูลอิสระ ดังนั้น การกินผักและผลไม้เป็นประจำ จะช่วยให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงและกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้มีสุขภาพดีในระยะยาว” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว