กระทรวงสาธารณสุข ชี้ การตั้งวงกินอาหาร รวมกลุ่มทำกิจกรรมกันใกล้ชิดเป็นเวลานาน โดยไม่ป้องกันเป็นความเสี่ยงให้เกิดการแพร่เชื้อ พร้อมออกคำแนะนำสูตรฉีดวัคซีนช่วงมกราคม 2565 สำหรับผู้ที่ไม่เคยรับวัคซีน ฉีดเข็ม 2 เข็มกระตุ้น และผู้ที่เคยติดเชื้อ ย้ำทุกจังหวัดเร่งฉีดเชิงรุก โดยเฉพาะกลุ่มเข้าถึงยากทำระบบแจ้งเตือนคนที่ต้องฉีดเข็มกระตุ้น และเตรียมหารือแนวทางฉีดเข็ม 4 ต้นปีหน้า
วันนี้ (16 ธ.ค.) ที่ศูนย์แถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นพ.วิชาญ ปาวัน ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค แถลงสถานการณ์โควิด-19 และการฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มกระตุ้น ว่า ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 3,684 ราย ส่วนใหญ่พบในระบบบริการ รักษาหาย 4,531 ราย เสียชีวิต 29 ราย ผู้ป่วยอาการหนักและใส่เครื่องช่วยหายใจลดลงต่อเนื่อง สำหรับผู้เดินทางเข้าประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 1-15 ธันวาคม 2564 มีจำนวน 111,303 ราย ติดเชื้อ 210 ราย คิดเป็น 0.19% ส่วนใหญ่เป็นระบบ Test&Go ตามด้วยกักตัวและแซนด์บ็อกซ์ ส่วนความเสี่ยงของคลัสเตอร์ “หมูกระทะ” ข้อเท็จจริงคือทุกกิจกรรมที่มีการรวมตัวใกล้ชิดกันเป็นเวลานานโดยไม่ได้ระวังป้องกัน เป็นความเสี่ยงทั้งหมด
สำหรับคำแนะนำในการฉีดวัคซีนโควิดเข็มกระตุ้น โดยคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคกรณีฉีดวัคซีนเชื้อตาย 2 เข็ม (ซิโนแวค/ซิโนฟาร์ม) ให้ฉีดกระตุ้นเข็ม 3 ได้ทั้งแอสตร้าเซนเนก้า ไฟเซอร์ หรือโมเดอร์นา ตั้งแต่ 4 สัปดาห์ขึ้นไปหลังเข็ม 2, กรณีแอสตร้าเซนเนก้า 2 เข็ม ให้ฉีดไฟเซอร์หรือโมเดอร์นา 3 เดือนขึ้นไปหลังเข็ม 2, กรณีฉีด mRNA 2 เข็ม (ไฟเซอร์/โมเดอร์นา) ให้ฉีดวัคซีน mRNA ตัวเดียวกัน 6 เดือนขึ้นไปหลังเข็ม 2, กรณีสูตรไขว้ซิโนแวค/ซิโนฟาร์ม ตามด้วยแอสตร้าเซนเนก้า ให้ฉีดกระตุ้นด้วยแอสตร้าเซนเนก้า ไฟเซอร์ หรือโมเดอร์นา 3 เดือนหลังจากเข็ม 2, สูตรไขว้ซิโนแวค/ซิโนฟาร์ม ตามด้วยไฟเซอร์ ให้ฉีดไฟเซอร์หรือโมเดอร์นา 3 เดือนขึ้นไปหลังเข็ม 2 และกรณีสูตรไขว้แอสตร้าเซนเนก้า ตามด้วยไฟเซอร์/โมเดอร์นา ให้กระตุ้นด้วยไฟเซอร์หรือโมเดอร์นา 6 เดือนขึ้นไปหลังเข็ม 2
ส่วนการบริหารจัดการวัคซีนโควิดเดือนมกราคม 2565 ที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข กำหนดให้ 1. ผู้ที่ไม่เคยรับวัคซีนมาก่อน กรณีอายุ 18 ปีขึ้นไป ใช้สูตรแอสตร้าเซนเนก้า 2 เข็ม, แอสตร้าเซนเนก้า-ไฟเซอร์ หรือ ซิโนแวค-แอสตร้าเซนเนก้า ส่วนกลุ่มอายุ 12-17 ปี ใช้สูตรไฟเซอร์ 2 เข็ม 2. ผู้มารับวัคซีนเข็มที่ 2 ให้เป็นไปตามกำหนดที่นัดหมาย 3. ผู้ที่ต้องการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น กรณีฉีดซิโนแวค-แอสตร้าเซนเนก้า เมื่อเดือนสิงหาคม-ตุลาคม 2564 พิจารณาฉีดเข็มกระตุ้นด้วยแอสตร้าเซนเนก้า, ฉีดแอสตร้าเซนเนก้า 2 เข็มช่วง สิงหาคม-ตุลาคม 2564 พิจารณาฉีดด้วยไฟเซอร์ และผู้ที่ฉีดวัคซีนเชื้อตายครบ 2 เข็ม ตั้งแต่ 4 สัปดาห์ขึ้นไป ฉีดกระตุ้นด้วยแอสตร้าเซนเนก้าเป็นหลัก และ 4. ผู้ที่เคยติดเชื้อและต้องการรับวัคซีนเข็มกระตุ้น สามารถใช้แอสตร้าเซนเนก้าเป็นเข็มกระตุ้นได้ โดยให้จังหวัดบริหารจัดการตามวัคซีนที่มีในพื้นที่
นพ.วิชาญ กล่าวต่อว่า วันนี้ปลัดกระทรวงสาธารณสุขได้กำชับทุกจังหวัดจัดบริการฉีดวัคซีนเชิงรุกทุกกลุ่ม ทั้งคนไทยและต่างชาติ เน้นกลุ่มเป้าหมายเข้าถึงยาก เช่น แรงงานประมง ผู้ป่วยติดเตียง พื้นที่ทุรกันดาร และแรงงานต่างด้าวตามชายแดน และให้จัดทำแผนขอรับการสนับสนุนวัคซีนรายเดือนไปยังกองตรวจราชการสาธารณสุข ส่วนการแจ้งเตือนให้มารับวัคซีนเข็มกระตุ้น จะมีความชัดเจนภายในสัปดาห์นี้ โดยจะใช้ระบบ “หมอพร้อม” จึงขอให้ผู้ฉีดวัคซีนแล้วดาวน์โหลดและลงทะเบียนหมอพร้อมไว้ ส่วนผู้ที่เข้าไม่ถึงหมอพร้อม ให้จังหวัดใช้ข้อมูลจาก Moph IC ดำเนินการนัดหมาย โดยหน่วยบริการฉีดวัคซีนต้องออกแบบกระบวนการนัดหมายให้เหมาะสม กับแต่ละพื้นที่ สำหรับ กทม.มีความซับซ้อนและมีหลายหน่วย ได้ประสานสำนักอนามัย กทม. วิเคราะห์จัดทำแผนเพื่อทำระบบแจ้งเตือน และเชิญชวนประชาชนมาฉีด ซึ่งเบื้องต้น กทม.จัดไว้ 6-7 จุด ทั้งนี้ ไม่จำเป็นต้องวอล์กอิน แต่ขอให้รอระบบแจ้งเตือนและนัดหมายก่อน เนื่องจากต้องทราบจำนวนผู้ที่จะฉีดเพื่อกระจายวัคซีนได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม
“สำหรับคนที่ฉีดกระตุ้นเข็ม 4 โดยทิ้งระยะห่างจากเข็ม 3 เพียง 1 เดือน ถือว่าไม่มีประโยชน์ เนื่องจากการสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกายต้องใช้ระยะเวลาที่เหมาะสม จึงขอให้ฟังคำแนะนำจากคณะกรรมการด้านวิชาการ โดยเดือนมกราคม 2565 คณะกรรมการจะพิจารณาการฉีดเข็ม 4 และวัคซีนเด็ก” นพ.วิชาญ กล่าว