กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) เผยผลเฝ้าระวังพฤติกรรมสุขภาพ ในกลุ่มเด็กนักเรียน พบมีพฤติกรรมล้อมวงกินอาหารร่วมกับเพื่อน และคนในครอบครัวสูงถึงร้อยละ 87.9 ซึ่งเสี่ยงต่อการติดและกระจายเชื้อโควิด-19 แนะควรเว้นระยะห่างในการรับประทานอาหาร ไม่ใช้ภาชนะร่วมกันในการรับประทานอาหาร ล้างมือให้สะอาดก่อนรับประทานอาหาร รับประทานอาหารสุกใหม่ และแยกสำรับเฉพาะแต่ละคน
วันนี้ (8 พ.ย.) นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่าจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในปัจจุบัน มีมาตรการในการผ่อนคลายให้ประชาชนได้ทำกิจกรรมต่างๆ มากขึ้น อย่างไรก็พฤติกรรมด้านสุขภาพในการป้องกัน และความรู้ด้านสุขภาพเป็นสิ่งที่สำคัญในการให้ประชาชนมีความรู้และพฤติกรรมที่ดีในการป้องกันโรคโควิด-19 โดยต้องปฏิบัติตามมาตรการ Universal Prevention การป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาล กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ โดยกองสุขศึกษาได้ดำเนินการเฝ้าระวังพฤติกรรมสุขภาพ เรื่อง ความรอบรู้ด้านสุขภาพ และพฤติกรรมการป้องกันโรคโควิด-19 โดยดำเนินการระหว่างวันที่ 21 กรกฎาคม – 31 สิงหาคม 2564 ซึ่งได้รับความอนุเคราะห์เผยแพร่เครื่องมือของกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ โดยทำการสำรวจในกลุ่มนักเรียนทั่วประเทศจำนวน 56,267 คน
ด้านทันตแพทย์อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่าเพิ่มเติมว่า จากการสำรวจพบว่านักเรียนได้รับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับโรคโควิด 19 ผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์เป็นส่วนใหญ่ สำหรับสถานการณ์พฤติกรรมการป้องกันโรคโควิด 19 พบว่า ผู้ตอบแบบเฝ้าระวังฯ มีพฤติกรรมในการป้องกันโรคโควิด 19 ที่ควรปรับปรุง คือ เรื่อง พฤติกรรมการล้อมวงรับประทานอาหารร่วมกับเพื่อนหรือคนในครอบครัว ปฏิบัติเป็นประจำ/ปฏิบัติบางครั้งสูงถึง ร้อยละ 87.9 จากผลการสำรวจดังกล่าว จึงมีข้อแนะนำการปฏิบัติตัวเพื่อลดความเสี่ยงการแพร่กระจายและติดเชื้อโควิด 19 จากการรับประทานอาหาร คือ ควรเว้นระยะห่างในการรับประทานอาหาร ไม่ใช้ภาชนะร่วมกันในการรับประทานอาหาร ล้างมือให้สะอาดก่อนรับประทานอาหาร รับประทานอาหารสุกใหม่ และแยกสำรับเฉพาะแต่ละคน ทั้งนี้ กองสุขศึกษา ศูนย์สนับสนุนบริการสุขภาพที่ 1-12 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน สำนักการศึกษา กรุงเทพมหานคร สถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย และสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย มีแนวทางในการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนกลุ่มวัยเรียน เลี่ยงพฤติกรรมการรวมกลุ่ม การรับประทานอาหารร่วมกับเพื่อน คนในครอบครัว ในระยะการระบาดของโรคโควิด-19 ที่รุนแรง และให้ตระหนักถึงการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโควิด-19 ต่อไป