ใกล้สำเร็จ 2 วัคซีนโควิดฝีมือคนไทย “ChulaCov-19 mRNA” กับ “ใบยา” โดยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ครม.อนุมัติงบ 3,625 ล้านบาท ให้ผลิตและทดสอบระยะที่ 3 ปลัด อว.เผย รัฐบาลสนับสนุนงบเต็มที่ให้ขึ้นทะเบียนและนำมาใช้ได้กลางปี 65
วันนี้ (4 พ.ย.) ศ.ดร.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติงบประมาณในส่วนโครงการของ อว.จำนวน 2 โครงการ ที่เกี่ยวกับการผลิตวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่พัฒนาโดยนักวิจัยไทย โครงการแรก ได้แก่ โครงการวิจัยและพัฒนาวัคซีน ChulaCov-19 mRNA ของคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อทำการทดสอบทางคลินิกระยะที่ 3 และการผลิตเพื่อขึ้นทะเบียนวัคซีน ซึ่งคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ให้ความเห็นชอบ วงเงิน 2,316.8 ล้านบาท และโครงการวิจัยและพัฒนาวัคซีนป้องกันวัคซีนจากใบยา (Baiya SARS-CoV-2 VAX1) ที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยนักวิจัยไทย จากบริษัท ใบยาไฟโตฟาร์ม จำกัด และคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อดำเนินการผลิตและทดสอบวัคซีนทางคลินิกในมนุษย์ระยะที่ 3 วงเงิน 1,309 ล้านบาท รวมสองโครงการเป็นเงิน 3,625.8 ล้านบาท ซึ่งหลังจากนี้ จุฬาฯ จะเร่งดำเนินการพัฒนา ผลิตและทดสอบให้ผ่านในระยะต่างๆ ตามเกณฑ์มาตรฐานสากลต่อไป
“รัฐบาลได้สนับสนุนงบเต็มที่ให้สามารถที่จะผลิตวัคซีนโควิดในประเทศได้ รวมทั้งทดสอบประสิทธิภาพ ขึ้นทะเบียน และนำมาใช้ได้ครบวงจรในทุกขั้นตอน โดยวัคซีนทั้งสองชนิดนี้ จะช่วยเสริมความมั่นคงทางวัคซีนของประเทศ มีเป้าจะขึ้นทะเบียนได้ประมาณกลางปี 2565 ซึ่งคาดว่า จะผลิตได้ไม่น้อยกว่า 60 ล้านโดส แน่นอนว่า เมื่อเราสามารถพัฒนาวัคซีนและผลิตด้วยตัวเองในทุกระยะ รวมทั้งสามารถดัดแปลงและปรับวัคซีนให้ครอบคลุมเชื้อซึ่งจะกลายพันธุ์ต่อไปเรื่อยๆ ประเทศไทยก็จะสามารถรับมือกับสถานการณ์โรคระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 หรือเชื้ออื่นๆ ได้ในอนาคต” ปลัด อว.กล่าว