xs
xsm
sm
md
lg

กรมอนามัย เผยผลโพล ประชาชน 92.4 % ใน 17 จังหวัดท่องเที่ยว ยังกังวลเปิดประเทศ ย้ำคนไทย - นักท่องเที่ยว เข้มมาตรการป้องกันตนเอง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เผยผลอนามัยโพล เปิดเมือง เปิดประเทศ 1 พฤศจิกายน 2564 นี้ พบประชาชน ร้อยละ 92.4 พื้นที่ท่องเที่ยวใน 17 จังหวัด ยังกังวลกับการเปิดประเทศ พร้อมเน้นย้ำให้ทุกคนเข้มตามมาตรการ Universal Prevention เพื่อลดเสี่ยงการแพร่กระจายของโควิด-19

วันนี้ (27 ต.ค.) นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากสถานการณ์การติดและแพร่เชื้อโควิด-19 มีแนวโน้มไปในทางที่ดีขึ้น ด้วยผู้ติดเชื้อรายใหม่มีจำนวนในระดับคงที่ต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลาหนึ่ง และผู้ป่วยได้รับการรักษาจนหายเป็นปกติมีแนวโน้มเพิ่มจำนวนมากขึ้น การเปิดพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว 17 จังหวัด จึงเป็นปัจจัยเอื้อให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเข้ามาประเทศได้มากขึ้น เป็นการกระตุ้นในระบบเศรษฐกิจและการจ้างงานในภาพรวมของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคธุรกิจท่องเที่ยวและภาคธุรกิจบริการที่เกี่ยวเนื่อง แต่จากข้อมูลการสำรวจอนามัยโพล พบว่า ประชาชนในพื้นที่นำร่องท่องเที่ยวใน 17 จังหวัด ร้อยละ 92.4 มีความกังวลกับการเปิดเมืองเปิดประเทศ 1 พฤศจิกายน 2564 นี้ โดยเรื่องที่กังวลมากที่สุดคือ กังวลว่าจะเกิดการระบาดระลอกใหม่ ร้อยละ 75.8 ประชาชนการ์ดตกและไม่ป้องกันตนเอง ร้อยละ 49.7 และ สถานประกอบการ สถานที่ท่องเที่ยวไม่ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัดร้อยละ 45.10 ตามลำดับ สำหรับ สถานประกอบการ/กิจการที่ประชาชนกังวลว่าจะเป็นคลัสเตอร์ใหม่หลังจากเปิดเมือง เปิดประเทศ มากที่สุดคือ สถานบันเทิง ผับ บาร์ ถึงร้อยละ 89.2 รองลงมาคือ ขนส่งสาธารณะ ร้อยละ 43.1 และ สถานที่ท่องเที่ยว ร้อยละ 39.8 โดยมาตรการ ที่ประชาชนคิดว่าควรเพิ่มเพื่อทำให้เชื่อมั่นว่าเปิดเมือง เปิดประเทศ แล้วจะปลอดภัยมากที่สุดคือ เร่งฉีดวัคซีนให้ทุกคนทั่วประเทศครบ 2 เข็ม ครอบคลุมทุกจังหวัด 70 เปอร์เซ็นต์ ขึ้นไป ร้อยละ 72.53 รองลงมาคือ คุมเข้มการลักลอบเข้าประเทศ อย่างผิดกฎหมายตามแนวชายแดน ร้อยละ 60.58

นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวต่อไปว่า ตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน เป็นต้นไป ภายหลังการเปิดเมือง เปิดประเทศ กรมอนามัย ได้กำหนดให้มีการดำเนินงานเพื่อกำกับดูแลกิจการประเมิน ติดตาม และเฝ้าระวัง สถานประกอบการต่าง ๆ เป็น 3 ส่วนหลักคือส่วนที่ 1 Self Certification : ให้สถานประกอบการทุก Setting ลงทะเบียน ประเมินตนเองบนระบบ Thai Stop COVID Plus เพื่อยกระดับตามมาตรการ COVID Free Setting และให้ทุกสถานประกอบการติด E-Certificated ในจุดที่ผู้ใช้บริการเห็นเด่นชัด ส่วนที่ 2 People Voice : ประชาชนสามารถประเมิน แนะนำ ติชม ร้องเรียน สถานประกอบการในพื้นที่ COVID Free Area/Zone ผ่านช่องทาง QR Code ใน E-Certificate , Website Thai Stop COVID Plus และ เฟซบุ๊ก “ผู้พิทักษ์อนามัย (COVID Watch)” และส่วนที่ 3 Active Inspection : จัดตั้งคณะกรรมการ ร่วมตรวจ กำกับ COVID Free Area/Zoneภาครัฐและภาคประชาชน ตรวจประเมินทุก 2 สัปดาห์ กำกับมาตรการตาม พรบ.การสาธารณสุข และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง จัดทำ Checklist และเป้าหมาย โดยตรวจสอบข้อมูลบน Thai Stop COVID Plus ให้คำแนะนำ ตักเตือน กิจการที่ปฏิบัติไม่ถูกต้องให้ปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด (พรบ.การสาธารณสุข พรบ.โรคติดต่อ พรบ.สถานบริการ และ พรก.ฉุกเฉิน)

“ทั้งนี้ การป้องกันตนเองหลังเปิดประเทศ ประชาชนและะนักท่องเที่ยวทุกคนต้องปฏิบัติเข้มตามมาตรการ Universal Prevention เปิดบ้าน เปิดเมือง เปิดประเทศ โดยควรเลือกไปสถานที่ที่มีสัญลักษณ์ CFS, SHA+ ขอความร่วมมือแสดงการได้รับวัคซีนหรือผลการตรวจว่าไม่ติดเชื้อก่อนเข้าสถานที่ ให้ปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่างอย่างน้อย 1 - 2 เมตร ในทุกสถานที่ หลีกเลี่ยงการเข้าไปยังสถานที่แออัด หรือระบายอากาศไม่ดี และงดใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกัน สวมหน้ากาก (ถูกต้อง) ตลอดเวลา ทั้งขณะออกนอกที่พักและอยู่ในที่พักร่วมกับนักท่องเที่ยวอื่น ๆ ล้างมือบ่อย ๆ ทุกครั้งก่อน และหลังรับประทานอาหาร เข้าห้องน้ำ ไอ จาม หรือสัมผัสสิ่งของที่ใช้ร่วมกัน หากสงสัยว่ามีความเสี่ยง หรือมีอาการ ควรงดออกจากที่พัก ตรวจตนเอง ด้วย ATK และปรึกษาสถานพยาบาลใกล้เคียง” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว




กำลังโหลดความคิดเห็น