ผู้ว่าฯ อัศวิน ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมหน่วยบริการวัคซีนนักเรียนสังกัดสำนักการศึกษา กทม. โดยวันนี้นำวัคซีนไฟเซอร์ที่ได้รับจัดสรรจากกระทรวงสาธารณสุข ฉีดให้กับนร.ชั้นม.4-6 ที่ประสงค์ฉีดวัคซีนรวม 3,796 คน ซึ่งสำนักอนามัยและศูนย์บริการสาธารณสุขกระจายจุดฉีดวัคซีน 6 จุด
วันนี้ (4 ต.ค.) เวลา 10.00 น. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมหน่วยบริการวัคซีนนักเรียนสังกัดสำนักการศึกษา กรุงเทพมหานคร ณ โรงเรียนมัธยมประชานิเวศน์ เขตจตุจักร โดยมี นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ผู้บริหารสำนักอนามัย ผู้บริหารสำนักการแพทย์ ผู้บริหารสำนักการศึกษา ผู้บริหารสำนักงานเขตจตุจักร และผู้เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า วันนี้เป็นวันแรกที่กระทรวงสาธารณสุขได้จัดสรรวัคซีนไฟเซอร์สำหรับฉีดให้เด็กนักเรียนอายุระหว่าง 12–18 ปี เป็นวันแรก ซึ่งเด็กนักเรียนอายุ 12–18 ปี ในพื้นที่กรุงเทพฯ ทุกสังกัดมีทั้งหมดมากกว่า 400,000 คน เบื้องต้นกรุงเทพมหานครได้รับการจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์มาทั้งหมด 135,000 โดส จึงได้กำหนดฉีดวัคซีนให้เด็กนักเรียนระดับมัธยมปลายทุกสังกัดในพื้นที่กรุงเทพฯ ก่อน ส่วนระดับมัธยมต้นเมื่อได้รับวัคซีนเพิ่มเติมก็จะดำเนินการจัดฉีดวัคซีนให้ต่อไป ซึ่งคาดว่าภายในเดือน ต.ค. นี้ กระทรวงสาธารณสุขจะจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์สำหรับฉีดให้เด็กนักเรียนอายุ 12–15 ปีเพิ่มเติมและสามารถฉีดวัคซีนให้เด็กนักเรียนได้ครบทุกคนทั่วประเทศภายในเดือนนี้ ซึ่งเด็กที่ได้รับวัคซีนเข็มแรกในวันนี้จะได้รับวัคซีนไฟเซอร์เข็มที่สองในอีก 3 สัปดาห์ คือ วันที่ 25 ต.ค. 64 โดยเด็กนักเรียนที่รับการฉีดวัคซีนแล้วให้งดออกกำลังกาย 7 วัน และยังคงต้องปฏิบัติตนตามมาตรการป้องกันโควิด–19 เหมือนเดิม เนื่องจากถึงแม้ว่าจะรับการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้วก็ตามยังสามารถติดเชื้อโควิด–19 ได้ ทุกคนจึงต้องปฏิบัติตัวตามมาตรการป้องกันโควิด–19 อย่างเคร่งครัดต่อไป เมื่อดำเนินการจัดฉีดวัคซีนให้เด็กนักเรียนครบตามที่แจ้งความประสงค์แล้ว ในส่วนของการเปิดภาคเรียนนั้นจะอยู่ในการพิจารณาของกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงศึกษาธิการ และกรุงเทพมหานคร ในการหารือแนวทางดำเนินการร่วมกัน โดยคำนึงถึงความปลอดภัยจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด–19 เป็นสำคัญ ทั้งนี้หากสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น จำนวนผู้ติดเชื้อลดลง และมีจำนวนผู้ป่วยน้อยลง ก็อาจจะสามารถกลับมาเปิดเรียนตามปกติได้ หรือผ่อนคลายกิจการอื่นๆ เพิ่มเติมได้ ซึ่งในการเปิดโรงเรียนตามปกตินั้นจะต้องมีความพร้อมและมีความปลอดภัยตามเกณฑ์กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงศึกษาธิการ ในด้านต่างๆ อาทิ ด้านกายภาพ เรื่องการฉีดวัคซีนครบตามเกณฑ์ 85% ทั้งบุคลากรและนักเรียน รวมถึงเงื่อนไขด้านอื่น ๆ โดยจะต้องมีการหารือระหว่างและอยู่ในการพิจารณาของกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงศึกษาธิการ และกรุงเทพมหานคร รวมถึงดุลยพินิจของแพทย์ด้วย จากนั้นก็จะต้องนำมาตรการต่างๆ เข้าหารือใน ศบค. ก่อนว่าสามารถเปิดโรงเรียนตามปกติได้ไหม
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับเด็กนักเรียนสังกัดกรุงเทพมหานครระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1–6 มีทั้งหมดประมาณ 37,500 คน ประสงค์เข้ารับวัคซีนประมาณ 33,000 คน คิดเป็นประมาณ 88% นั้น จะต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองก่อน ในส่วนที่หายไปประมาณ 12% นั้น อาจเกิดจากความไม่พร้อมหรือผู้ปกครองอาจจะยังไม่มั่นใจเลยยังไม่ยินยอมให้บุตรหลานเข้ารับวัคซีน ซึ่งสำหรับการฉีดวัคซีนให้เด็กนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้นหรือเทียบเท่าอายุ 12–15 ปี ทั่วประเทศคาดว่ากระทรวงสาธารณสุขจะจัดสรรวัคซีนให้และสามารถฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มภายในเดือน ต.ค. นี้
ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครมีนักเรียนในสังกัดระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1–6 ทั้งหมด 37,466 คน มีผู้ประสงค์รับวัคซีนไฟเซอร์ (Pfizer) จำนวน 33,048 คน คิดเป็น 88.21% ซึ่งตามแผนจะเริ่มฉีดวัคซีนให้กับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ม. 4–6 ในเดือน ต.ค. 64 โดยมีโรงเรียนในสังกัดที่เปิดสอนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย 9 แห่ง ได้แก่ โรงเรียนมัธยมวัดสุทธาราม เขตคลองสาน โรงเรียนมัธยมประชานิเวศน์ เขตจตุจักร โรงเรียนวิชูทิศ เขตดินแดง โรงเรียนมัธยมบ้านบางกะปิ เขตบางกะปิ โรงเรียนมัธยมปุรณาวาส เขตทวีวัฒนา โรงเรียนนาหลวง เขตทุ่งครุ โรงเรียนมัธยมสุวิทย์เสรีอนุสรณ์ เขตประเวศ โรงเรียนแก่นทองอุปถัมภ์ เขตประเวศ และโรงเรียนมัธยมนาคนาวาอุปถัมภ์ เขตสวนหลวง และมีนักเรียน ม. 4–6 ประสงค์ฉีดวัคซีนรวม 3,796 คน แบ่งเป็น ระดับชั้น ม. 4 จำนวน 1,473 คน ระดับชั้น ม. 5 จำนวน 1,286 คน ระดับชั้น ม. 6 จำนวน 1,037 คน
สำหรับการฉีดวัคซีนให้กับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ในวันนี้ (4 ต.ค. 64) ดำเนินการในรูปแบบ School–based มีสำนักอนามัยและศูนย์บริการสาธารณสุขเป็นผู้ดำเนินการฉีดวัคซีน และสำนักการแพทย์สนับสนุนด้านการแพทย์ฉุกเฉิน โดยจัดรถฉุกเฉินประจำตามโรงเรียน ที่เป็นจุดฉีดวัคซีน จำนวน 6 จุด ได้แก่ จุดที่ 1 โรงเรียนมัธยมวัดสุทธาราม เขตคลองสาน ให้บริการสำหรับนักเรียนโรงเรียนมัธยมวัดสุทธาราม จำนวน 429 คน ดูแลโดยศูนย์บริการสาธารณสุข 28 และโรงพยาบาลตากสิน จุดที่ 2 โรงเรียนมัธยมประชานิเวศน์ ให้บริการสำหรับนักเรียนโรงเรียนมัธยมประชานิเวศน์ จำนวน 584 คน ดูแลโดยศูนย์บริการสาธารณสุข 17 และให้บริการสำหรับนักเรียนโรงเรียนวิชูทิศ จำนวน 272 คน ดูแลโดยศูนย์บริการสาธารณสุข 4 โรงพยาบาลกลาง จุดที่ 3 โรงเรียนมัธยมปุรณาวาส ให้บริการสำหรับนักเรียนโรงเรียนมัธยมปุรณาวาส จำนวน 400 คน ดูแลโดยศูนย์บริการสาธารณสุข 67 และโรงพยาบาลราชพิพัฒน์ จุดที่ 4 โรงเรียนนาหลวง ให้บริการสำหรับให้นักเรียนโรงเรียนนาหลวง จำนวน 531 คน ดูแลโดยศูนย์บริการสาธารณสุข 54 และโรงพยาบาลหลวงพ่อทวีศักดิ์ ชุตินฺธโร อุทิศ จุดที่ 5 โรงเรียนมัธยมบ้านบางกะปิ ให้บริการสำหรับนักเรียนโรงเรียนมัธยมบ้านบางกะปิ จำนวน 632 คน ดูแลโดยศูนย์บริการสาธารณสุข 35 และโรงพยาบาลเวชการุณย์รัศมิ์ และจุดที่ 6 โรงเรียนมัธยมสุวิทย์เสรีอนุสรณ์ ให้บริการสำหรับนักเรียนโรงเรียนมัธยมสุวิทย์เสรีอนุสรณ์ จำนวน 493 คน ดูแลโดยศูนย์บริการสาธารณสุข 57 ให้บริการสำหรับนักเรียนโรงเรียนแก่นทองอุปถัมภ์ จำนวน 145 คน ดูแลโดยศูนย์บริการสาธารณสุข 22 และให้บริการสำหรับนักเรียนโรงเรียนมัธยมนาคนาวาอุปถัมภ์ จำนวน 310 คน ดูแลโดยศูนย์บริการสาธารณสุข 37 และโรงพยาบาลสิรินธร
ทั้งนี้ ในพื้นที่กรุงเทพฯ มีนักเรียนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1–6 ทุกสังกัดทั้งหมด 458,257 คน มีเด็กนักเรียนสมัครใจรับวัคซีนไฟเซอร์ จำนวน 356,871 คน เป็นเด็กนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาระดับ ม. 4–6 จำนวน 136,855 คน ซึ่งในวันนี้เป็นแรกของการให้วัคซีนโควิด–19 กับเด็กนักเรียนพร้อมกันทั่วประเทศ สำหรับโรงเรียนสังกัดอื่นในพื้นที่กรุงเทพฯ จะมีการประสานความร่วมมือกับโรงพยาบาลเพื่อจับคู่กับโรงเรียนในการให้บริการวัคซีนแก่เด็กนักเรียนแต่ละแห่งแล้วแจ้งยอดนักเรียนที่รับวัคซีนมายังกรุงเทพมหานคร จากนั้นกรุงเทพมหานครจะจัดสรรวัคซีนที่ได้รับให้แก่โรงพยาบาลตามจำนวนเด็กนักเรียนที่ขอรับวัคซีน
สำหรับนักเรียนที่เข้ารับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์เข็มแรกในวันนี้จะได้รับวัคซีนไฟเซอร์เข็มที่สอง ในวันที่ 25 ต.ค. 64 โดยเว้นช่วงระยะเวลาหลังจากรับเข็มแรก 3 สัปดาห์ ซึ่งกรุงเทพมหานครได้แจ้งประชาสัมพันธ์ให้นักเรียนและผู้ปกครองได้รับทราบข้อมูลดังกล่าว รวมทั้งข้อปฏิบัติหลังรับวัคซีนตามข้อแนะนำจากราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย อาทิ ควรงดออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมที่ใช้แรงมากๆ ในระยะเวลา 1–2 สัปดาห์ หลังได้รับการฉีดวัคซีนเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้หากกรุงเทพมหานครได้รับจัดสรรวัคซีนเพิ่มเติม กรุงเทพมหานครจะเร่งฉีดวัคซีนให้นักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้นต่อไป