รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ติดตามการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จ.นนทบุรี พร้อมให้กำลังใจชาวบ้านชุมชนริมน้ำสุเหร่าพระนั่งเกล้า และชุมชนวัดแจ้งศิริสัมพันธ์ เน้นย้ำสำนักงานสาธารณสุขทุกจังหวัดที่อยู่บนเส้นทางน้ำไหลผ่าน เฝ้าระวังโรคที่มากับน้ำท่วมและหลังน้ำลด
วันนี้ (1 ต.ค.) ที่ อ.เมือง จ.นนทบุรี ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายสุจินต์ ไชยชุมศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี และผู้บริหารส่วนท้องถิ่น ลงพื้นที่ติดตามการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์น้ำท่วมในชุมชนริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ชุมชนหลังสุเหร่าพระนั่งเกล้า และชุมชนวัดแจ้งศิริสัมพันธ์ เยี่ยมประชาชน ผู้ป่วยติดบ้านติดเตียง พร้อมมอบชุดยาสามัญประจำบ้าน หน้ากากอนามัย ให้กับผู้นำชุมชน และอสม. เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับประชาชนในชุมชน
ดร.สาธิตให้สัมภาษณ์ว่า ชุมชนริมแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมเป็นประจำจากการปรึกษากับผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี คาดว่าปีนี้ระดับน้ำไม่น่าจะสูงมากนัก แต่ยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิด สิ่งที่กังวลคือโรคที่มากับน้ำท่วมและหลังน้ำลด เช่น ตาแดง น้ำกัดเท้า ท้องร่วง ฉี่หนู เป็นต้น ได้มอบหมายให้กรมอนามัยและสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี รวมถึงจังหวัดที่อยู่บนเส้นทางน้ำไหลผ่าน ให้ความรู้ประชาชนในการปฏิบัติตัวช่วงน้ำท่วมและหลังน้ำลด ประสานชุมชนในการเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำและโรคติดต่อที่อาจเกิดขึ้น จัดเตรียมยาที่จำเป็นไว้รองรับ และต้องขอขอบคุณส่วนท้องถิ่น และทหารที่เข้ามาช่วยดูแลเคลื่อนย้ายผู้ป่วย/ผู้สูงอายุที่ได้รับผลกระทบ
ดร.สาธิตกล่าวต่อว่า สำหรับ 2 ชุมชนที่ลงพื้นที่วันนี้ มีประมาณ 1,100 หลังคาเรือน ประชาชนได้รับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 แล้วประมาณร้อยละ 80-90 ส่วนผู้ป่วยติดบ้านติดเตียงที่มีอยู่ประมาณ 30 คน ได้จัดหน่วยเข้าไปฉีดวัคซีนให้ถึงบ้าน และยังมีบางส่วนที่ไม่ได้ฉีดจากเหตุผลและความกังวลส่วนตัว ได้มอบให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพยายามสื่อสารทำความเข้าใจให้กลุ่มดังกล่าวเข้ารับการฉีดวัคซีนโดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงให้ฉีดได้มากที่สุด เนื่องจากจังหวัดนนทบุรีเป็นพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดสูง จำเป็นต้องเร่งรัดการฉีดวัคซีนให้เกิดความครอบคลุมเพื่อให้สามารถผ่อนคลายกิจการกิจกรรม และประชาชนใช้ชีวิตได้ปกติแบบวิถีใหม่
ทั้งนี้ ขณะนี้มีสถานการณ์น้ำท่วมใน 18 จังหวัด โดยจังหวัดที่ระดับน้ำเพิ่มขึ้น ได้แก่ ชัยภูมิ นครราชสีมา อุบลราชธานี นครสวรรค์ ชัยนาท สระบุรี สุพรรณบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง และจังหวัดที่ระดับน้ำลดลง/ท่วมขังพื้นที่ลุ่มต่ำ ได้แก่ สุโขทัย พิษณุโลก เพชรบูรณ์ พิจิตร กำแพงเพชร ขอนแก่น อุทัยธานี ลพบุรี พระนครศรีอยุธยา ส่วนสถานบริการสาธารณสุขได้รับผลกระทบ 71 แห่ง (รพ. 5 แห่ง สสอ. 1 แห่ง รพ.สต. 65 แห่ง) ปิดให้บริการ 28 แห่ง เปิดให้บริการบางส่วน 8 แห่ง เปิดให้บริการปกติ 35 แห่ง