อว. เผยภาพรวมการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของไทย ณ วันที่ 29 ก.ย. ฉีดวัคซีนแล้ว 50,867,498 โดส และทั่วโลกแล้ว 6,199 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 369.8 ล้านโดส โดยจังหวัดของไทยที่ฉีดมากที่สุด คือ กรุงเทพฯ โดยฉีดวัคซีนเข็มแรกกว่า 99.3%
เมื่อวันที่ 29 ก.ย. กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 6,199 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 29.2 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 391 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 185 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว
ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 369.8 ล้านโดส โดยสิงคโปร์ฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (78% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 140.2 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 29 กันยายน 2564 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 50,867,498 โดส โดยฉีดให้กับประชาชนมากที่สุดในสัดส่วนกว่า 59.47%
ในการฉีดวัคซีน จำนวน 6,199 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ
1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 29 กันยายน 2564
จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 51,296,197 คน ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
- เข็มแรก 31,582,548 โดส (47.7% ของประชากร)
- เข็มสอง 18,098,882 โดส (27.3% ของประชากร)
- เข็มสาม 1,186,068 โดส (1.8% ของประชากร)
2. อัตราการฉีดวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ.- 29 ก.ย. 64 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 50,867,498 โดส ฉีดเพิ่มขึ้น 726,805 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 629,070 โดส/วัน)
3. อัตราการฉีดวัคซีน ประกอบด้วย
วัคซีน Sinovac
- เข็มที่ 1 15,835,756 โดส
- เข็มที่ 2 3,505,458 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน AstraZeneca
- เข็มที่ 1 10,319,496 โดส
- เข็มที่ 2 11,316,548 โดส
- เข็มที่ 3 706,246 โดส
วัคซีน Sinopharm
- เข็มที่ 1 5,006,322 โดส
- เข็มที่ 2 2,781,707 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน Pfizer
- เข็มที่ 1 420,974 โดส
- เข็มที่ 2 495,169 โดส
- เข็มที่ 3 479,822โดส
4. การฉีดวัคซีนโควิด-19 แยกตามกลุ่มเป้าหมาย
- บุคลากรการแพทย์/สาธารณสุข เข็มที่ 1 124.1% เข็มที่ 2 117.5% เข็มที่ 3 88.6%
- เจ้าหน้าที่ด่านหน้า เข็มที่ 1 61.2% เข็มที่ 2 48.8% เข็มที่ 3 5.5%
- อสม เข็มที่ 1 71.5% เข็มที่ 2 54.8% เข็มที่ 3 5.4%
- ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค เข็มที่ 1 58.8% เข็มที่ 2 32.7% เข็มที่ 3 0.8%
- ประชาชนทั่วไป เข็มที่ 1 65.6% เข็มที่ 2 35.3% เข็มที่ 3 1.1%
- ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เข็มที่ 1 57.2% เข็มที่ 2 32.8% เข็มที่ 3 0.2%
- หญิงตั้งครรภ์ เข็มที่ 1 18.2% เข็มที่ 2 7.7% เข็มที่ 3 0.1%
รวม เข็มที่ 1 63.2% เข็มที่ 2 36.2% เข็มที่ 3 2.4%
4. จังหวัดที่ฉีดวัคซีน เข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 แบ่งเป็น 2 ชุดข้อมูล
กรุงเทพฯ และปริมณฑล เข็มที่ 1 76.5% เข็มที่ 2 41.3% เข็มที่ 3 2.6% ประกอบด้วย
- กรุงเทพฯ เข็มที่ 1 99.3% เข็มที่ 2 48% เข็มที่ 3 3.4.%
- ปทุมธานี เข็มที่ 1 62% เข็มที่ 2 36.5% เข็มที่ 3 1.1%
- สมุทรปราการ เข็มที่ 1 63.9% เข็มที่ 2 35.3% เข็มที่ 3 1.7%
- สมุทรสาคร เข็มที่ 1 60.4% เข็มที่ 2 37% เข็มที่ 3 2.7%
- นนทบุรี เข็มที่ 1 49.8% เข็มที่ 2 35.4% เข็มที่ 3 1.9%
- นครปฐม เข็มที่ 1 40.1% เข็มที่ 2 23.5% เข็มที่ 3 1.5%
จังหวัดอื่นๆ 71 จังหวัด เข็มที่ 1 34.8% เข็มที่ 2 20.9% เข็มที่ 3 1.4%
- ฉะเชิงเทรา เข็มที่ 1 64.3% เข็มที่ 2 32.5% เข็มที่ 3 1%
- ชลบุรี เข็มที่ 1 64% เข็มที่ 2 35.7% เข็มที่ 3 2.3%
- พระนครศรีอยุธยา เข็มที่ 1 51.9% เข็มที่ 2 32.2% เข็มที่ 3 1.2%
- เพชรบุรี เข็มที่ 1 46.8% เข็มที่ 2 32.5% เข็มที่ 3 2.6%
- ยะลา เข็มที่ 1 45.7% เข็มที่ 2 23.8% เข็มที่ 3 1.1%
- สงขลา เข็มที่ 1 40.9% เข็มที่ 2 25.3% เข็มที่ 3 1.4%
6. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 369,807,696 โดส ได้แก่
1. อินโดนีเซีย จำนวน 140,235,980 (32.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca, Moderna และ Sinopharm
2. ไทย จำนวน 50,867,498 โดส (47.7%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm
3. ฟิลิปปินส์ จำนวน 44,741,741 โดส (21.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V, Moderna, J&J และ AstraZeneca
4. มาเลเซีย จำนวน 43,028,919 (70.9%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac
5. เวียดนาม จำนวน 40,095,031 โดส (32.3%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca, Pfizer, Moderna และ Sinopharm
6. กัมพูชา จำนวน 25,139,926 โดส (78.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca, J&J และ Sinovac
7. พม่า จำนวน 10,935,671 โดส (13.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
8. สิงคโปร์ จำนวน 9,306,870 โดส (78%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Moderna และ Sinovac
9. ลาว จำนวน 4,981,653 โดส (40%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V, Pfizer, J&J, Sinovac และ AstraZeneca
10. บรูไน จำนวน 474,407 โดส (64.9%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร/2 เหมือนกันทุกประเทศ
7. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค
1. เอเชียและตะวันออกกลาง 68.66%
2. ยุโรป 11.35%
3. อเมริกาเหนือ 9.68%
4. ละตินอเมริกาและแคริบเบียน 7.03%
5. แอฟริกา 2.74%
6. โอเชียเนีย 0.54%
8. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 5 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก
1. จีน จำนวน 2,203.19ล้านโดส (78.7% ของจำนวนการฉีดทั่วโลก)
2. อินเดีย จำนวน 876.54ล้านโดส (32%)
3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 391.15 ล้านโดส (61.1%)
4. บราซิล จำนวน 233.26 ล้านโดส (56.5%)
5. ญี่ปุ่น จำนวน 161.06 ล้านโดส (63.8%)
9. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)
1. มัลดีฟส์ (97.8% ของประชากร) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinopharm)
2. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (92.9%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)
3. คิวบา (89.6%) (ฉีดวัคซีนของ Moderna, Pfizer/BioNTech, AstraZeneca/Oxford และ J&J)
4. อุรุกวัย (88.3%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
5. บาห์เรน (86.5%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
6. กาตาร์ (84.1%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
7. อิสราเอล (82.7%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
8. ชิลี (82.6%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, CanSino, Pfizer/BioNTech และ Sinovac
9. จีน (78.7%) (ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sinovac และ CanSino)
10. สิงคโปร์ (78%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ Sinovac)
แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุข
ประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)