สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ เผยว่า มะเร็งตับ พบมากเป็นอันดับ 1 ของมะเร็งที่พบทั้งหมดในคนไทย แต่ละปีจะมีผู้เสียชีวิตราว 16,000 ราย
เมื่อวันที่ 17 ก.ย. นายแพทย์ณัฐพงศ์ วงศ์วิวัฒน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีผู้ป่วยมะเร็งทั้งหมดประมาณ 139,000 ราย จากข้อมูลทะเบียนมะเร็งประเทศไทย รายงานผู้ป่วยมะเร็งตับและท่อน้ำดีรายใหม่ 22,213 ราย ในจำนวนนี้มีผู้เสียชีวิต 16,288 ราย ซึ่งมะเร็งตับที่พบมากในประเทศไทยมี 2 ชนิด คือ มะเร็งของเซลล์ตับและมะเร็ง ท่อน้ำดีตับ สาเหตุของมะเร็งเซลล์ตับอาจเป็นผลมาจากการมีภาวะตับแข็ง การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดบี และการดื่มสุรา ส่วนสาเหตุของมะเร็งท่อน้ำดีอาจเกิดจากการติดเชื้อพยาธิใบไม้ตับจากการรับประทานปลาน้ำจืดดิบ รวมถึงการมีภาวะท่อน้ำดีอักเสบเรื้อรัง เป็นต้น
นายแพทย์จินดา โรจนเมธินทร์ ผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กล่าวเกี่ยวกับอาการของมะเร็งตับ ว่า ผู้ป่วยแต่ละรายอาจมีอาการแสดงแตกต่างกัน ซึ่งโดยทั่วไปมักไม่มีอาการในระยะแรก อาการส่วนใหญ่ที่พบ คือ แน่นท้อง ท้องอืดท้องเฟ้อเรื้อรัง อ่อนเพลีย น้ำหนักลด ปวดหรือเสียดชายโครงขวา อาจคลำพบก้อนในช่องท้อง ตัวเหลือง ตาเหลือง ท้องโต และมีอาการบวมบริเวณขาทั้ง 2 ข้าง เป็นต้น
ผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กล่าวเสริมว่า การป้องกันโรคทำได้โดยการให้วัคซีนไวรัสตับอักเสบชนิดบีในเด็กแรกเกิดทุกคน ปรับเปลี่ยนวิถีการดำเนินชีวิตและพฤติกรรมสุขภาพ เช่น หลีกเลี่ยงการดื่มสุรา รับประทานอาหารที่ถูกต้องตามหลักโภชนาการ เช่น ไม่รับประทานปลาน้ำจืดดิบ และหลีกเลี่ยงอาหารที่มีสารก่อมะเร็ง เช่น อาหารที่อาจปนเปื้อนสารอะฟลาทอกซิน หากสงสัยว่ามีความเสี่ยงต่อมะเร็งตับควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัย โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคตับเรื้อรังหรือมีประวัติเป็นโรคตับอักเสบ ควรรับการตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอเพื่อสามารถพบรอยโรคได้เร็ว ทำให้การรักษามีประสิทธิภาพและลดอัตราการเสียชีวิตจากโรคมะเร็งตับลงได้