ศบค. เผย ไทยพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ใหม่ 14,653 ราย รักษาหายเพิ่ม 18,262 ราย ผู้เสียชีวิตวันนี้พบเป็นผู้ป่วยอายุ 60 ปีขึ้นไปถึง 167 คน ระบุอัตราการเสียชีวิตในหญิงตั้งครรภ์สูงขึ้น ฉีดวัคซีนเพิ่มเล็กน้อย เร่งติดตามเพื่อเข้ารับวัคซีน โดยในเดือน ก.ย.นี้ ได้รับจัดสรรเพียงพอ ปรับเพิ่มเวลารถขนส่งสาธารณะให้ผู้ที่เดินทางทำงาน
วันนี้ (3 ก.ย.) เวลา 12.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 14,653 ราย โดยแบ่งเป็นติดเชื้อในประเทศ 14,397 ราย จากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 256 ราย สะสม 1,249,140 ราย รักษาหายป่วยเพิ่ม 18,262 ราย สะสม 1,077,185 ราย กำลังรักษาอยู่ 159,800 ราย แบ่งเป็นรักษาในโรงพยาบาล 37,770 ราย และโรงพยาบาลสนาม 122,030 ราย เป็นผู้ป่วยอาการหนัก 4,740 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 1,011 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 271 ราย รวมเสียชีวิต 12,374 คน
ผู้ติดเชื้อรายใหม่แบ่งเป็นผู้ติดเชื้อในประเทศ 14,653 ราย เป็นผู้ติดเชื้อจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 13,160 ราย จากการค้นหาเชิงรุกในชุมชน 1,235 ราย จากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 256 ราย และผู้เดินทางมาจากต่างประเทศเข้า State Quarantine 2 ราย
แนวโน้มในประเทศการพบผู้ป่วยลดลง ในแต่ละพื้นที่จะมีสถานการณ์การระบาดต่างกันไป เช่น ล้งผลไม้, แพปลา, ชุมชน ยังพบรายงานผู้ติดเชื้อจากการรวมกลุ่ม รวมตัวสังสรรค์ ดื่มเหล้าแก้วเดียวกัน ซึ่งรวมถึงในประเพณี อย่างงานศพ งานแต่ง แคมป์ก่อสร้าง มีการรายงานเข้ามา จากการเคลื่อนย้ายแรงงาน อัตราพบผู้ติดเชื้อจาก RT-PCR ที่มีผู้เข้าไปขอรับการตรวจอยู่ราว 20% ซึ่งในเฉพาะ กทม. พบสูงถึง 30% ATK ใน กทม. ยังคงสูงต่อเนื่อง แจ้งระวัง ผลลบลวง (ATK เป็นลบ, RT-PCR เป็นบวก) ซึ่งมีอัตราเกิดได้ราว 10% แนะนำให้ระวังตัวอย่างต่อเนื่อง
สำหรับผู้เสียชีวิตทั้ง 271 ราย ชาย 134 ราย หญิง 137 ราย เป็นชาวไทย 264 ราย เมียนมา 4 ราย กัมพูชา 1 ราย อินเดีย 1 ราย ไม่ระบุ 1 อายุค่ากลาง 67 ปี อายุน้อยสุด 23 ปี อายุมากสุด 96 ปี
แบ่งเป็น กทม. 79 ราย สมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี จังหวัดละ 20 ราย ปทุมธานี สมุทรสาคร จังหวัดละ 19 ราย สระบุรี 12 ราย นครปฐม 8 ราย ระยอง กาญจนบุรี สุพรรณบุรี จังหวัดละ 6 ราย นครนายก อ่างทอง จังหวัดละ 4 ราย พระนครศรีอยุธยา อุดรธานี อุบลราชธานี ตาก นราธิวาส จังหวัดละ 3 ราย สระแก้ว สมุทรสงคราม สิงห์บุรี นครราชสีมา สุรินทร์ ยโสธร พิษณุโลก ตรัง ปัตตานี ยะลา จังหวัดละ 2 ราย ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี ลพบุรี กาฬสินธุ์ ชัยภูมิ บึงกาฬ ศรีสะเกษ บุรีรัมย์ เลย สกลนคร เชียงใหม่ ระนอง สุราษฎร์ธานี จังหวัดละ 1 ราย โรคประจำตัวยังเป็นปัจจัยเสี่ยงความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง พบผู้ป่วยอายุ 60 ปีขึ้นไป 167 ราย อายุน้อยกว่า 60 ปี มีโรคเรื้อรัง 76 ราย ไม่มีประวัติโรคเรื้อรัง 27 ราย ตั้งครรภ์ 1 ราย จ.นราธิวาส เสียชีวิตที่บ้าน/ระหว่างนำส่ง 3 ราย จ.อ่างทอง ฉะเชิงเทรา ระยอง จังหวัดละ 1 ราย ปัจจัยเสี่ยงในการติดเชื้อจากคนรู้จัก คนในครอบครัว
โดยอัตราการเสียชีวิตในหญิงตั้งครรภ์สูงขึ้น โดยเฉพาะในเดือน ส.ค. กลุ่มหญิงตั้งครรภ์ที่เสียชีวิต ครึ่งหนึ่งสามารถช่วยชีวิตทารกในครรภ์ไว้ได้ เร่งติดตามหญิงตั้งครรภ์ เข้ารับวัคซีนเพิ่มเติม รวมถึงหลังคลอดไปแล้วด้วย ซึ่งในขณะนี้ มีหญิงตั้งครรภ์ ที่รับวัคซีนเพียง 9.1% เท่านั้น โดยขอให้ผู้ใกล้ชิดแจ้งให้หญิงตั้งครรภ์เข้ารับวัคซีน ที่ผ่านมา วัคซีนอาจจะไม่เพียงพอ ทางศบค.ต้องขอออภัย เดือน ก.ย. นี้มีวัคซีนเข้ามาตามแผน ทำให้จะสามารถฉีดวัคซีนได้มากขึ้น ดังนั้นในกลุ่มเสี่ยงขอให้เข้ารับวัคซีนให้เร็วที่สุด บางพื้นที่ที่กลุ่มเสี่ยงได้รับวัคซีนในระดับที่สูงแล้ว อาจพิจารณาในกลุ่มอื่นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มได้
สำหรับผู้ที่อยู่ในต่างจังหวัดที่ได้เข้ามารับวัคซีนที่สถานีกลางบางซื่อ อาจจะมียอดตกหล่นในเข็มที่ 2 ดังนั้น ให้แต่ละจังหวัดเร่งตรวจสอบ, สำรวจ กลุ่มนี้ ที่จะขอฉีดที่ต่างจังหวัดแทน กลุ่มที่รับวัคซีนในต่างจังหวัดแต่ต้องการรับวัคซีนที่บางซื่อ ก็ขอให้แจ้งเพิ่มเติมได้
ส่วนมาตรการคลายล็อกที่มีปรับปรุงเพิ่มเติม ทาง ศบค. จะมีการเพิ่มรถให้เพียงพอ กับความต้องการ ปรับเพิ่มเวลาขนส่งสาธารณะ วิ่งต่อได้ถึง 22.00 น. เพื่อให้พนักงานผู้ที่ต้องทำงาน สำหรับประชาชนทั่วไป หากกลับได้ก่อน ก็ควรเลี่ยงในช่วงเวลาดังกล่าว
สำหรับสถานประกอบการที่พร้อม สามารถใช้มาตรการผู้ให้บริการ เช่น วัคซีนครบ 2 เข็ม, ตรวจ ATK ทุกสัปดาห์ สามารถดำเนินการได้ก่อน ความเสี่ยงในการติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อน ดังนั้นในทางจังหวัดเตรียมพร้อมในการรับมือ การเกิดการติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อน
สำหรับผู้เดินทางกลับมาจากต่างประเทศวันนี้พบลักลอบเข้าผ่านทางช่องทางธรรมชาติจากมาเลเซีย 1 ราย
10 อันดับ ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศ วันที่ 3 ก.ย. 2564 คือ 1. กรุงเทพมหานคร 3,428 ราย 2. สมุทรปราการ 1,237 ราย 3. สมุทรสาคร 859 ราย 4. ชลบุรี 822 ราย 5. ระยอง 541 ราย 6. นราธิวาส 465 ราย 7. ราชบุรี 340 ราย 8. นครราชสีมา 283 ราย 9. สงขลา 279 ราย 10. นนทบุรี 278 ราย
ขณะที่ยอดรวมผู้ติดเชื้อโควิด-19 ระลอกเดือนเมษายน เริ่มตั้งแต่ 1 เม.ย. 64 เป็นต้นมา พบผู้ติดเชื้อแล้ว 1,220,277 ราย หายป่วยสะสม 1,049,540 ราย เสียชีวิตสะสม 12,280 ราย
สถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทั่วโลกวันศุกร์ที่ 3 กันยายน 2564 เวลา 10.00 น. ยอดผู้ติดเชื้อรวม 219,956,335 ราย อาการรุนแรง 104,722 ราย รักษาหายแล้ว 196,595,478 ราย เสียชีวิต 4,557,084 ราย
อันดับประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด
1. สหรัฐอเมริกา จำนวน 40,513,018 ราย
2. อินเดีย จำนวน 32,902,345 ราย
3. บราซิล จำนวน 20,830,712 ราย
4. รัสเซีย จำนวน 6,956,318 ราย
5. สหราชอาณาจักร จำนวน 6,862,904 ราย
ประเทศไทย อยู่ในอันดับที่ 29 จำนวน 1,249,140 ราย