วันนี้ (24 ส.ค.) นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อ (Community Isolation : CI) เขตจตุจักร 3 แห่ง ได้แก่ โรงซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าสายสีแดง สถานีกลางบางซื่อ , ศูนย์สร้างสุขทุกวัย (เรือนจำคลองเปรม) ถนนงามวงศ์วาน และ ศูนย์กีฬาประชานิเวศน์ ถนนเทศบาลสงเคราะห์ พร้อมรับมอบเงินสนับสนุนจากธนาคารออมสินจำนวน 2,000,000 บาท เพื่อสนับสนุนการจัดตั้งศูนย์พักคอย (CI) ของกรุงเทพมหานครและเงินสนับสนุนอีกจำนวน 1,000,000 บาท เพื่อสนับสนุนอุปกรณ์ทางการแพทย์ นอกจากนี้ยังรับมอบเครื่องอุปโภคจากบริษัทโอสถสภา มูลค่า 500,000 บาท เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อ ตลอดจนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในการดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19 โดยมี นายสมศักดิ์ ชาติสุขศิริเดช ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้บริหารสำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว ผู้บริหารเขตจตุจักร ร่วมตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ พร้อมรับฟังรายงานผลการดำเนินการของศูนย์ฯ
สำหรับศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อ ณ โรงซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าสายสีแดง สถานีกลางบางซื่อ สามารถรองรับผู้ป่วยได้ 400 เตียง มีผู้ครองเตียงอยู่ในศูนย์ฯ 84 ราย รวมผู้ป่วยที่เข้ารักษาอาการที่ศูนย์ฯแล้วทั้งสิ้น 147 ราย ออกจากศูนย์ฯไปแล้ว 63 ราย เตียงว่าง 316 เตียง ศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อ ณ ศูนย์สร้างสุขทุกวัยจตุจักร (เรือนจำคลองเปรม) ถนนงามวงศ์วาน สามารถรองรับผู้ป่วยได้ 120 เตียง มีผู้ครองเตียงอยู่ในศูนย์ฯ 71 ราย รวมผู้ป่วยที่เข้ารักษาอาการที่ศูนย์ฯแล้วทั้งสิ้น 337 ราย ออกจากศูนย์ฯไปแล้ว 266 ราย เตียงว่าง 49 เตียง (ข้อมูล ณ วันที่ 23 ส.ค.64) และศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อ ณ ศูนย์กีฬาประชานิเวศน์ ถนนเทศบาลสงเคราะห์ สามารถรองรับผู้ป่วยได้ 180 เตียง มีผู้ครองเตียงอยู่ในศูนย์ฯ 99 ราย รวมผู้ป่วยที่เข้ารักษาอาการที่ศูนย์ฯแล้วทั้งสิ้น 406 ราย ออกจากศูนย์ฯไปแล้ว 307 ราย เตียงว่าง 81 เตียง (ข้อมูล ณ วันที่ 23 ส.ค.64)
ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครได้จัดตั้งศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อ (Community Isolation : CI) เพื่อรองรับผู้ป่วยที่มีผลตรวจรับรองว่าติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่ 6 กลุ่มเขต รวมทั้งสิ้นกว่า 70 แห่ง เพื่อแยกผู้ป่วยโควิด-19 ออกมาจากบ้าน นำมาพักคอยที่ศูนย์ฯ มีการคัดกรองอาการและดูแลเบื้องต้น เพื่อรอการส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาล ลดปัญหาการแพร่ระบาดและติดเชื้อของคนในครอบครัวและชุมชน โดยมีทีมแพทย์จากโรงพยาบาลและศูนย์บริการสาธารณสุขบริหารจัดการผู้ป่วย รวมทั้งเจ้าหน้าที่เทศกิจประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ท้องที่และฝ่ายความมั่นคง ร่วมดูแลความปลอดภัยและความเป็นระเบียบเรียบร้อย