ศบค.รายงานผู้ติดเชื้อมากที่สุด ยังคงเป็นกรุงเทพมหานคร ติดเชื้อ 3,080 ราย จับตาปริมณฑล ชลบุรี ฉะเชิงเทรา สระบุรี และอยุธยา ผู้ติดเชื้อสะสม อันดับที่ 37 ของโลก การแพร่ระบาดคงที่และบางจังหวัดลดลงเล็กน้อย พบติดเชื้อในครอบครัว ชุมชน โรงงาน ตลาด ศาสนสถาน เป็นส่วนมาก ผู้ติดเชื้อจากต่างประเทศเข้ามาตามแนวชายแดน“เมียนมา-มาเลเซีย” ต่อเนื่อง
วันนี้ (8 ส.ค.) ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทย ว่า วันนี้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ ผู้ป่วยรายใหม่ 19,983 ราย จำแนกเป็น ผู้ติดเชื้อทั่วไปในประเทศ 19,627 ราย ผู้ป่วยรายใหม่จากระบบเฝ้าระวังและบริการ 16,780 ราย จากการค้นหาเชิงรุกในชุมชน 2,847 ราย จากเรือนจำ 350 ราย และผู้เดินทางมาจากต่างประเทศเข้าสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ 6 ราย
ทำให้มียอดผู้ป่วยยืนยันสะสม 727,642 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสมตั้งแต่ปี 2563 รวม 756,505 ราย หายป่วยเพิ่มวันนี้ 18,503 ราย หายป่วยสะสม 508,089 ราย หายป่วยยืนยันสะสมตั้งแต่ปี 2563 รวม 535,515 ราย
วันนี้ มีผู้เสียชีวิต 138 คน เสียชีวิตสะสม 6,110 คน เสียชีวิตสะสมตั้งแต่ปี 2563 รวม 6,204 คน ส่วนผู้ป่วยรักษาอยู่ 214,786 ราย แบ่งเป็นรักษาในโรงพยาบาล 73,966 ราย โรงพยาบาลสนาม / HI-CI 140,820 ราย โรงพยาบาลสนาม / Hospitel 71,965 ราย Home / Community Isolation 59,466 ราย อื่นๆ / ไม่ระบุ 9,389 ราย
ทั้งนี้ มีผู้ป่วยอาการหนัก 5,157 ราย และใส่เครื่องช่วยหายใจ 1,070 ราย
รายงานระบุต่อว่า สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่ 18,027 ราย แบ่งเป็น ติดเชื้อในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ไม่รวมเรือนจำ 7,605 ราย 4 จังหวัดภาคใต้ 1,050 ราย จังหวัดอื่นๆ (67 จังหวัด) 10,972 ราย และเรือนจำ/ที่ต้องขัง 350 ราย ส่วนผู้เสียชีวิต 138 ราย แบ่งเป็น ชาย 68 คน หญิง 70 คน โดยกรุงเทพมหานครเสียชีวิตสูงสุดถึง 60 คน
ทั้งนี้ ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่มีโรคประจำตัว หรือปัจจัยเสี่ยงต่อความรุนแรง เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง โรคไต โรคหัวใจ เป็นต้น ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19 ยังคงติดจากคนในครอบครัว เพื่อนร่วมงาน การเข้าไปสถานที่แออัด พลุกพล่าน พื้นที่ระบาด เป็นต้น
ส่วนผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 6 ราย เป็นเพศชาย 1 ราย อายุ 19 ปี อาชีพ รับจ้าง มาจากประเทศมาเลเซีย เข้ามาทางช่องทางธรรมชาติ เพศหญิง 5 ราย มาจากประเทศเมียนมา เป็นคนไทยราย อายุ 21-46 ปี ทั้งหมดเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติ ระหว่างวันที่ 4-5 สิงหาคม 2564
รายงานระบุต่ออีกว่า สำหรับ 10 อันดับจังหวัดที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศรายใหม่สูงสุด อันดับ 1 ยังคงเป็นกรุงเทพมหานคร (กทม.) ติดเชื้อรายใหม่วันนี้ 3,080 ราย ยอดสะสม 181,990 ราย อันดับ 2 ชลบุรี 1,476 ราย ยอดสะสม 36,335 ราย อันดับ 3 สมุทรสาคร 1,391 ราย ยอดสะสม 40,992 ราย อันดับ 4 สมุทรปราการ 1,137 ราย ยอดสะสม 48,091 ราย อันดับ 5 นนทบุรี 757 ราย ยอดสะสม 29,823 ราย อันดับ 6 ปทุมธานี 662 ราย ยอดสะสม 23,300 ราย อันดับ 7 นครปฐม 578 ราย ยอดสะสม 15,947 ราย อันดับ 8 ฉะเชิงเทรา 449 ราย ยอดสะสม 13,933 ราย อันดับ 9 สระบุรี 396 ราย ยอดสะสม 9,815 ราย อันดับ 10 พระนครศรีอยุธยา 393 ราย ยอดสะสม 10,636 ราย
โดยวันนี้พบคลัสเตอร์ใหม่เพิ่ม 8 คลัสเตอร์ ประกอบด้วย จังหวัดชลบุรี ที่บริษัทอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ อ.บางปะกง จำนวน 19 ราย จังหวัดสมุทรสาคร ที่บริษัทผลิตรองเท้า อ.เมือง จำนวน 65 ราย จังหวัดสมุทรปราการ ที่บริษัทภาชนะพลาสติก อ.บางพลี จำนวน 10 ราย จังหวัดสมุทรปราการ ที่โรงงานผลิตเสื้อผ้าเด็ก อ.บางพลี จำนวน 16 ราย จังหวัดปทุมธานี ที่บริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้า อ.เมือง จำนวน 9 ราย จังหวัดฉะเชิงเทรา ที่โรงงานไก่ อ.พนมสารคาม จำนวน 10 ราย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่บริษัทชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ อ.วังน้อย จำนวน 11 ราย จังหวัดจันทบุรี โรงชำแหละสัตว์ อ.ท่าใหม่ จำนวน 31 ราย
ขณะที่จำนวนผู้รับวัคซีนสะสมตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์-วันที่ 7 สิงหาคม รวม 20,478,635 โดส ใน 77 จังหวัด จำนวนผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 สะสม 15,843,283 ราย (จำนวนผู้ได้รับวัคซีนทั้งหมด) เข็มที่ 2 สะสม 4,438,168 (จำนวนผู้ได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์) และเข็มที่ 3 จำนวนผู้ได้รับวัคซีน สะสม 197,184 ราย
ภาพรวมยอดฉีดวัคซีน วันที่ 7 สิงหาคม 2564 ยอดฉีดทั่วประเทศ ยอดฉีดทั่วประเทศ 198,527 โดส เข็มที่ 1 155,992 ราย เข็มที่ 2 31,445 ราย เข็มที่ 3 11,090 ราย
สำหรับตัวเลขผู้ติดเชื้อทั่วโลก 202,978,883 ราย อาการรุนแรง 98,545 ราย รักษาหายแล้ว 182,314,293 ราย เสียชีวิต 4,299,649 ราย
อันดับประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด 1. สหรัฐอเมริกา จำนวน 36,518,948 ราย 2. อินเดีย จำนวน 31,933,553 ราย 3. บราซิล จำนวน 20,151,779 ราย 4. รัสเซีย จำนวน 6,424,884 ราย 5. ฝรั่งเศส จำนวน 6,284,708 ราย
ประเทศไทย อยู่ในอันดับที่ 37 จำนวน 756,505 ราย