กรุงเทพมหานคร เผยได้รับวัคซีนไฟเซอร์แล้ว จำนวน 7,660 โดส โดยจะฉีดบูสให้บุคลากรด่านหน้าครบจำนวนที่ได้รับจัดสรรเท่านั้น ย้ำเดินหน้าเร่งจัดซื้อ “โมเดอร์น่า-ซิโนฟาร์ม” ให้เร็วที่สุด
วันนี้ (6 ส.ค.) ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร(กทม.) ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษก กทม. นพ.สุขสันต์ กิตติศุภกร ผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ และพญ.ป่านฤดี มโนมัยพิบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักอนามัย ร่วมกันแถลงข่าวออนไลน์สรุปการบริหารสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพฯ ผ่านระบบ Webex Meet
ร.ต.อ.พงศกร กล่าวว่า สำหรับการประเมินสถานการณ์ช่วง ส.ค.ทั้งประเทศคาดว่าจะมีตัวเลขสูงตามที่ กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ประเมิน โดยพิจารณาจทกการล็อกดาวน์และการฉีดวัคซีน โดยในกรุงเทพฯ พบผู้ป่วยสูงขึ้นแต่ละสัปดาห์ บวกกับการค้นหาผู้ป่วยเชิงรุกมากขึ้นในโรงพยาบาลในกรุงเทพฯ ทั้งชุดตรวจ Antigen Test Kit (ATK) และวิธี RT-PCR โดยในเดือน ส.ค. กทม.จะดำเนินการ 3 เรื่อง 1.ลดอัตราการเคลื่อนย้าย จากผู้ติดเชื้อที่สูงมากขึ้น 2.ปรับให้ทุกโรงพยาบาลรับกลุ่มผู้ป่วยสีเหลือง และสีแดง ส่วนกลุ่มสีเขียวจะให้กักตัวที่บ้านหรือศูนย์พักคอย ซึ่งมีการเพิ่มศูนย์พักคอยกึ่งโรงพยาบาลแล้ว 7 แห่ง และ 3.การฉีดวัคซีนจากการจัดสรรวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า 7.5 แสนโดสไปยังศูนย์ฉีดวัคซีน 25 แห่ง
ร.ต.อ.พงศกร กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ในการจัดสรรวัคซีนของ กทม.นั้น จะมีการแยกยอดบริหารวัคซีนใน 25 จุด และยอดเป็นจะไปฉีดในชุมชน โรงพยาบาล โดยที่ผ่านมากระทรวง สธ.ได้ส่งวัคซีนตรงไปที่ศูนย์โดยไม่ได้ผ่าน กทม. แต่ในการบริหารวัคซีน 7.5 แสนโดสจะใช้ใน 25 ศูนย์ ทั้งนี้ ยืนยันว่าตามนโยบาย กทม.ถ้ามีวัคซีนเมื่อไหร่จะฉีดให้เร็วที่สุด ส่วนการจัดหาวัคซีนทางเลือกของ กทม.ทั้งวัคซีนโมเดอร์นาและซิโนฟาร์ม อยู่ในขั้นตอนการจองและจัดซื้อให้ได้มากที่สุด โดยในเรื่องวัคซีนซิโนฟาร์มอยู่ในขั้นตอนจะดำเนินการได้เร็วที่สุดเพื่อนำไปให้กลุ่มเปราะบาง
ร.ต.อ.พงศกร กล่าวเพิ่มเติมว่า ส่วนกรณีการกักตัวที่บ้านหลายประเทศใช้รูปแบบนี้จากสาเหตุโรงพยาบาลไม่เพียงพอ เพื่อใช้สำหรับในกลุ่มที่มีอาการป่วยไม่มากที่จะรักษาตัวที่บ้าน แต่หากพื้นที่ไหนหรือบ้านใดไม่พร้อมก็ให้มาที่ศูนย์พักคอยที่ กทม.จัดตั้งไว้ โดยในเรื่องการกักตัวที่บ้านนั้น ผู้ว่าฯกทม.ได้สั่งให้มีเบอร์ประจำเขตทั้ง 50 แห่ง หากประชาชนต้องหากต้องการเข้ามาศูนย์พักคอยหรือไปที่โรงพยาบาล แต่หากกักตัวที่บ้านสำนักงานเขตจะเข้าไปดูแลทันที
ด้านพญ.ป่านฤดี กล่าวว่า สำหรับในเรื่องวัคซีนไฟเซอร์ที่รับจัดสรรมานั้น สำนักอนามัยได้สำรวจบุคลากรการแพทย์ที่รับซิโนแวควัคซีน 2 เข็ม แล้วประสงค์จะรับวัคซีนเข็ม 3 ต่อไปเพื่อนำไปฉีดให้กับบุคลากรกลุ่มนี้โดยเร็ว ซึ่งขณะนี้ในหลายโรงพยาบาลได้มารับวัคซีนไฟเซอร์ไปแล้ว พร้อมกับกำชับอย่าให้คนนอกกลุ่มมาฉีดเด็ดขาดเพื่อให้การฉีดวัคซีนเป็นของบุคลากรด่านหน้าเท่านั้น
ขณะที่ นพ.สุขสันต์ กล่าวว่า สำหรับการจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์เพื่อนำมาบูสเข็ม 3 ให้บุคลากรแพทย์ด่านหน้าที่เคยได้รับวัคซีนไปแล้ว 2 เข็ม ขณะนี้ได้รับการจัดสรรมาแล้วเมื่อวันที่ 5 ส.ค.มีตัวเลขเบื้องต้นประมาณ 7,660 โดส และจะได้จัดสรรเข้ามาเพิ่มเติม โดยในส่วนของ กทม.มีจำนวนบุคคลกรแพทย์ด่านหน้า 7 พันกว่าคน แต่หากรวมสายงานอื่นอยู่ที่ประมาณ 1 หมื่นคน อย่างไรก็ตาม สำนักการแพทย์ขอรับบริจาคตู้คอนเนอร์ 4 ตู้เพื่อนำมาตั้งที่โรงพยาบาลเวชการุณย์รัศมิ์ เขตหนองจอก เพื่อใช้สำหรับรองรับผู้ป่วยที่มาตรวจ