นอกจากการรับประทานอาหารเพื่อให้ร่างกายของเราได้รับสารอาหารครบถ้วน วิตามินก็เป็นส่วน ประกอบสำคัญที่ช่วยเสริมให้การทำงานของร่างกายเป็นไปอย่างสมบูรณ์ยิ่งขึ้น วิตามินดี (Vitamin D) คือ วิตามินที่หลายคนมักจะหลงลืมไป เพราะคิดว่าเราอาศัยอยู่ในประเทศเมืองร้อน แดดแรง ได้รับวิตามินดีเพียงพอ กับที่ร่างกายต้องการอยู่แล้ว แต่ที่จริงแล้ว ร่างกายของเราได้รับวิตามินดีเพียงพอจริง ๆ หรือเปล่า พญ.นภาพร ธรรมพัฒนากูล (หมอแชมป์) แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเวชศาสตร์ชะลอวัย และผู้ก่อตั้ง Vitalia Wellness Clinic จะมาตอบข้อสงสัยของพวกเรากัน
วิตามินดี (Vitamin D) ที่จำเป็นต่อร่างกายของเรา แบ่งออกเป็น 2 ชนิด ได้แก่
วิตามินดี2 (Vitamin D2) เป็นวิตามินดีที่ร่างกายของเราไม่สามารถสังเคราะห์ได้เอง พบได้ในพืชชนิดต่าง ๆ และยีสต์
วิตามินดี3 (Vitamin D3) เป็นวิตามินดีที่ร่างกายของเราสามารถผลิตได้เองหลังจากที่ผิวหนังได้รับแสงแดด จากอาหารที่รับประทาน และจากการเสริมด้วยอาหารเสริม
ประโยชน์ของวิตามินดี3 (Vitamin D3)
1. เสริมภูมิคุ้มกัน (Boost Immunity)
การรับประทานวิตามินดี3 (Vitamin D3) อย่างต่อเนื่องจะช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกายของเราได้ เมื่อร่างกายของเรา ได้รับวิตามินดี3 จะกระตุ้นเม็ดเลือดขาวซึ่งทำหน้าเปรียบเสมือนทหาร ทำหน้าที่ต่อสู้กับเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส และ เชื้อราที่เข้ามาทำอันตรายเรา จึงทำให้ภูมิคุ้มกันของเราดีขึ้น แข็งแรงมากขึ้น
2. เสริมการทำงานของแคลเซียม
ผู้ที่มีปัญหากระดูกพรุน เสื่อมบาง ควรรับประทานวิตามินดี3 (Vitamin D3) ควบคู่กับแคลเซียมเพราะแคลเซียม ไม่สามารถทำงานเพียงลำพังได้ เมื่อร่างกายได้รับแคลเซียม แคลเซียมจะล่องลอยอยู่ในกระแสเลือด รอให้วิตามินดีเข้ามาจับ และนำพาไปที่กระดูก เพื่อเสริมสร้างให้กระดูกแข็งแรงมากขึ้น มีความหนามากขึ้น ลดความเสี่ยงของมวลกระดูกพรุน
3. ช่วยเสริมความแข็งแรงในการออกกำลังกาย
ช่วยให้ร่างกายฟิตมากขึ้น แข็งแรงมากขึ้น ไม่เหนื่อยง่าย ไม่เพลียง่าย ลดอาการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อ เนื่องจากวิตามินดี3 (Vitamin D3) ช่วยให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้นทำให้กล้ามเนื้อที่ได้รับบาดเจ็บจากการ ออกกำลังกาย ได้รับการซ่อมแซมมากขึ้น และกลับมาใช้งานได้ปกติไวกว่าคนที่ขาดวิตามินดี 3 (Vitamin D3)
4. ลดความเครียด ช่วยในการนอนหลับ และฟื้นฟูผิว
วิตามินดี3 (Vitamin D3) กระตุ้นให้ร่างกายหลั่งสารเคมีในสมองชื่อ “ซีโรโตนิน” ซึ่งช่วยลดความเครียด ลดความเสี่ยงที่ทำให้เกิดอาการซึมเศร้า ช่วยให้นอนหลับสบายมากขึ้น เมื่อเรานอนพักผ่อนเพียงพอ ร่างกายของเราก็จะผลิตโกรทฮอร์โมน (Growth Hormone) ได้เพียงพอ ซึ่งทำให้เรามีผิวพรรณอ่อนกว่าวัย เปล่งปลั่ง เนียน ชุ่มชื่น ลดความเสื่อมของเซลล์ผิว และช่วยให้อารมณ์ดีอีกด้วย
5. ลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็ง
เมื่อร่างกายของเราได้รับวิตามินดี3 (Vitamin D3) ในปริมาณที่เพียงพอ จะช่วยลดความเสี่ยงของการ เกิดมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งลำไส้ มะเร็งเต้านม และมะเร็งต่อมลูกหมาก
แหล่งพลังงานของวิตามินดี (Vitamin D)
1. ร่างกายสามารถสังเคราะห์วิตามินดี3 (Vitamin D3) จากการสัมผัสแสงแดด ตั้งแต่เวลา 8.00-10.00 น. อย่างน้อย 30 นาที จนถึง 2 ชั่วโมง โดยการสัมผัสแสงแดด 1 ครั้ง ร่างกายจะได้รับวิตามินดี3 ประมาณ 100 IU แต่วิธีการสังเคราะห์วิตามินดีแบบนี้ อาจได้ของแถมเป็นปัญหาผิวคล้ำเสีย ฝ้า กระ ตามมาได้
2. การรับประทานอาหารที่มีวิตามินดี3 (Vitamin D3) สูง ได้แก่ ปลาที่มีไขมันสูง เช่น ปลาทูน่า ปลาแซลมอน ปลาทู ปลาแมคเคอเรล ปลาซาร์ดีน ไข่ และนมบางชนิดที่มีการเติมวิตามินดี3 เข้าไปเพิ่ม จะช่วยให้ร่างกาย ของเราได้รับวิตามินดี3 เพิ่มมากขึ้นได้
3. วิตามินดี3 (Vitamin D3) ชนิดรับประทานเสริมและแบบฉีดเข้ากล้ามเนื้อ แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ
1) คนที่ไม่เคยตรวจระดับวิตามินดี3 (Vitamin D3) ในเลือด ควรรับประทานวิตามินดี3 ประมาณ 500 – 800 IU ต่อวัน ต่อเนื่องเป็นเวลา 3 – 6 เดือนขึ้นไป ก็เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายแล้ว
2) คนที่เคยตรวจระดับวิตามินดี3 (Vitamin D3) ในเลือด แล้วพบว่ามีระดับวิตามินดี3 ในเลือดต่ำกว่า 20-30 IU ควรรับประทานวิตามินดี3 ประมาณ 1000 IU ต่อเนื่องเป็นเวลา 3 เดือน และหากพบว่ามีระดับวิตามินดี3 ในเลือดต่ำกว่า 20 IU ซึ่งเป็นปริมาณที่น้อยมาก ควรได้รับการเสริมวิตามินดี3 อย่างเร่งด่วน ควรรับประทาน วิตามินดี3 วันละ 5000 - 8000 IU ต่อเนื่องเป็นเวลา 3 เดือน และลดปริมาณเหลือ 1000 IU ต่อเนื่องอีก 6 เดือน หรือรับการฉีดวิตามินดี3 เข้ากล้ามเนื้อที่ต้นแขนหรือสะโพก โดยการฉีด 1 ครั้ง จะได้รับวิตามินดี 300,000 IU ต่อ 1 โดส หรือ 1 เข็ม จะทำให้ร่างกายของเราได้รับวิตามินดี3 เพิ่มขึ้นประมาณ 10 – 20 IU ภายใน 1 สัปดาห์ อย่างรวดเร็ว เพื่อช่วยเสริมสร้างให้ร่างกายของเรามีภูมิต้านทานสูงขึ้น แข็งแรงขึ้น และยังช่วยให้ผิวสวยสุขภาพผิวดีจากภายใน ผิวสวยไวมากยิ่งขึ้น
“ในสถานการณ์เช่นนี้ การเสริมภูมิคุ้มกันในร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ คือ วิธีการดูแลสุขภาพเบื้องต้น เพื่อให้เราห่างไกลโควิดการรับวิตามินดีให้เพียงพอกับความต้องการของร่างกายจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ควรใส่ใจ มาเสริมภูมิคุ้มกัน สร้างสุขภาพดีให้ตัวเราและคนที่เรารักแข็งแรง สดใสจากภายในถึงภายนอกกันค่ะ” หมอแชมป์กล่าวเพิ่มเติม