กรุงเทพมหานคร โดยสำนักอนามัย สำนักงานเขต ศูนย์บริการสาธารณสุขทั้ง 69 แห่ง ร่วมกับฝ่ายความมั่นคง ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (ศปม.) องค์กรเครือข่ายภาคประชาชน อาสาสมัครสาธารณสุข และจิตอาสาพระราชทาน 904 นำทีมปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาโควิด-19 เชิงรุก Bangkok Comprehensive Covid-19 Response Team (Bangkok CCRT) เคาะประตูบ้าน ปูพรมตรวจเชิงรุกตามชุมชน คัดกรองผู้ป่วยออกจากครอบครัวให้เร็วที่สุด เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการรักษาตามอาการต่อไป นับเป็นอีกหนึ่งปฏิบัติการที่มีเป้าหมาย เพื่อลดการแพร่เชื้อได้ดีอีก วิธีหนึ่ง
“การตรวจเชิงรุกเช่นนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่สำคัญอย่างมากในเวลานี้ เพราะนอกจากจะช่วยค้นหาผู้ป่วยในชุมชนที่ยังตกค้างได้แล้ว ยังสามารถลดความแออัดจากการเดินทางไปตรวจ ณ สถานที่ตรวจเชิงรุก ที่เสี่ยงติดหรือแพร่เชื้ออีกทางหนึ่ง ทั้งยังถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของประชาชนทั่วไป รวมทั้งกลุ่มเปราะบาง ให้สามารถเข้ารับการตรวจได้อย่างมีประสิทธิภาพ” พล.ต.อ. อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าว
Bangkok CCRT กว่า 166 ทีม กระจายลงพื้นที่ตามชุมชนต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ ในชุมชน 6 กลุ่มเขต ได้แก่ กลุ่มกรุงเทพเหนือ กลุ่มกรุงเทพกลาง กลุ่มกรุงเทพตะวันออก กลุ่มกรุงเทพใต้ กลุ่มกรุงธนเหนือ กลุ่มกรุงธนใต้ โดยพุ่งเป้าไปที่ชุมชนเสี่ยง รวมถึงกลุ่มเสี่ยงสูงอย่างผู้สูงอายุผู้ที่มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรค และหญิงตั้งครรภ์ ด้วยชุดตรวจ Antigen Test Kit ซึ่งจะทราบผลภายใน 30 นาที
“ในกรณีที่ตรวจพบเชื้อและสามารถแยกกักตัวที่บ้านเองได้ (HI :Home Isolation) ก็จะให้คำแนะนำ พร้อมมอบยาและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็น ทั้งสมุนไพรฟ้าทะลายโจร เครื่องวัดอุณหภูมิ เครื่องวัดออกซิเจน และชุด HI สำหรับผู้ติดเชื้อ ที่แยกกักที่บ้าน รวมทั้งชุด Home Quarantine ให้แก่ผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่ต้องกักตัว” ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวเพิ่มเติม
ด้านผู้ป่วยที่ไม่สามารถกักตัวที่บ้านได้ก็จะส่งต่อสู่โรงพยาบาล โรงพยาบาลสนาม หรือ ศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อ (Community Isolation) ที่กรุงเทพมหานคร เปิดรองรับกว่า 58 ศูนย์ ใน 50 เขต ส่วนกลุ่มที่มีผลตรวจเป็นลบก็จะมีการสื่อสารทำความเข้าใจเกี่ยวกับการป้องกันโรคโควิด-19 รวมทั้งให้บริการฉีดวัคซีนแก่กลุ่ม “608” เพื่อลดอาการป่วยรุนแรง และลดการเสียชีวิตในชุมชน เนื่องจากกลุ่มนี้มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่ายและรุนแรงกว่ากลุ่มอื่นๆ
ด้าน นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร ได้ให้ข้อมูลถึงผลการดำเนินงานของทีม Bangkok CCRT ที่ผ่านมาว่า
“สำหรับผลการดำเนินงาน Bangkok CCRT ระหว่างวันที่ 15-24 กรกฎาคม 2564 ได้จัดทีมลงพื้นที่ชุมชนแล้ว 1,317 แห่ง มีประชาชนเข้ารับบริการแล้ว 57,767 ราย ให้บริการฉีดวัคซีนแล้ว 42,080 ราย ในกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว และ หญิงตั้งครรภ์”
โดยกลุ่ม 608 ดังกล่าว ประกอบไปด้วย ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ผู้ที่มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรค ได้แก่ โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไตวายเรื้อรัง โรคหลอดเลือดสมอง โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน และโรคอ้วน และกลุ่มสุดท้ายคือ หญิงตั้งครรภ์ ที่มีอายุครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป
ด้าน นาวาอากาศตรีหญิง ปอฤทัย บุรพรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์บริการสาธารณสุข 6 สโมสรวัฒนธรรมหญิง ได้กล่าวถึงภารกิจในครั้งนี้ ไว้ว่า เนื่องจากการทำงานเชิงรุกนั้น เป็นหนึ่งในนโยบายของผู้บริหารกรุงเทพมหานคร และอยู่ในมิติของการควบคุมโรคที่สำนักอนามัยทำมาตลอด จึงมองว่า การตรวจเชิงรุก รวมไปถึงการฉีดวัคซีนตามชุมชนนั้น เป็นประโยชน์อย่างมากเนื่องจากการเข้าถึงจุดตรวจหรือจุดฉีดวัคซีนสำหรับบางกลุ่ม โดยเฉพาะผู้สูงอายุนั้นค่อนข้างลำบาก
อย่างไรก็ตาม การปฏิบัติงานท่ามกลางสถานการณ์เช่นนี้ ก็ไม่ได้สร้างความกังวลให้แต่อย่างใด แต่ทั้งนี้ก็ยังต้องมีการเน้นย้ำกับเจ้าหน้าที่ให้ระมัดระวังตัวในการปฏิบัติงาน โดยเฉพาะในสถานที่ที่คนมารวมตัวเป็นจำนวนมาก ซึ่งการรักษาระยะห่างก็ยังเป็นสิ่งที่สำคัญอยู่
“นอกจากเรื่องการระมัดระวังตัว ก็มีเรื่องการนัดหมาย การให้ความรู้กับประชาชน รวมไปถึงการตรวจในแต่ละครั้งด้วย
ที่เราจะเน้นย้ำกับเจ้าหน้าที่เป็นพิเศษ” นาวาอากาศตรีหญิง ปอฤทัย บุรพรัตน์ กล่าวเพิ่มเติม
ในส่วนของ “ด่านหน้า” อย่าง นางสืบสิริ บุญสม พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ (ศูนย์บริการสาธารณสุข 6 สโมสรวัฒนธรรมหญิง) ก็ได้กล่าวถึงการปฏิบัติงานในครั้งนี้ว่า ไม่ได้มีความกังวลในการทำงาน เนื่องจากตลอดการปฏิบัติงานได้รับการสนับสนุนจากท่านผู้บริหารของกรุงเทพมหานคร ชุมชน หน่วยงานต่างๆ และที่จะขาดไม่ได้ ก็คือ ประชาชนในพื้นที่ที่ให้ความสนใจในการมารับบริการ พร้อมฝากคำแนะนำให้ประชาชนดูแลตนเองอยู่เสมอ ใส่หน้ากากอนามัย กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ และรักษาระยะห่างแม้กระทั่งตอนอยู่บ้าน
ด้านจิตอาสาพระราชทาน 904 หนึ่งในแรงสนับสนุนจากหลายๆ หน่วยงานก็ได้ส่งตัวแทนเข้ามาร่วมช่วยเหลือการปฏิบัติงานของทีม Bangkok CCRT ในครั้งนี้เช่นกัน โดยหนึ่งในตัวแทนจิตอาสาอย่าง นางจารุพักตร์ กาญจนพิบูลย์ จิตอาสาพระราชทาน หน่วยราชการในพระองค์ 904 และประชาชนจิตอาสาพระราชทานตามแนวพระราชดำริ ได้กล่าวถึงความภูมิใจที่ได้มีเข้ามามีส่วนร่วมช่วยเหลือประชาชนทุกคนให้ห่างไกลจากโควิด-19 ซึ่งประชาชนที่เข้ามารับบริการก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
“ในส่วนของงานจิตอาสา วันนี้เรามาเพื่อมาจัดระเบียบและดูแลความเรียบร้อยให้กับประชาชน เพื่อที่ให้การปฏิบัติงานในทุกๆ ภาคส่วนนั้น ดำเนินไปได้อย่างราบรื่น” นางจารุพักตร์ กาญจนพิบูลย์ กล่าวเพิ่มเติม
ปัจจุบัน Bangkok CCRT ได้เข้าตรวจชุมชนเสี่ยง 100-150 ชุมชนต่อวัน โดยเริ่มดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 15 ก.ค ที่ผ่านมา พร้อมตั้งเป้าลงพื้นที่ 2,016 ชุมชน ภายใน 31 ก.ค. นี้ ให้ครอบคลุมและทั่วถึงมากที่สุด เพื่อผู้ติดเชื้อและกลุ่มเสี่ยงจะได้รับการดูแลรักษาอย่างถูกต้องและรวดเร็วที่สุด
โดยแต่ละชุมชนจะได้รับความร่วมมือจากประธานชุมชน ที่ต้องไปทำความเข้าใจกับลูกบ้าน พร้อมเข้ามามีส่วนร่วมในการคัดกรอง โดย นางสาวเพ็ชรรัตน์ มูลศาล ประธานชุมชนวัดเทวราชกุญชรก็ได้กล่าวถึงการทำงานในครั้งนี้ว่า ตนจะทำการเดินเคาะประตูทุกบ้านที่มีผู้ป่วยติดเตียง ผู้สูงอายุ รวมทั้งผู้ที่ต้องการตรวจและฉีดวัคซีน ซึ่งในฐานะประธานชุมชนก็มีหน้าที่ในการดูแลช่วยเหลือลูกบ้านร่วมกับอาสาสมัครสาธารณสุข (อสส.) อยู่แล้ว
“ขอบคุณทางกรุงเทพมหานครที่ช่วยเหลือในเรื่องการตรวจเชิงรุก และการฉีดวัคซีนให้กับคนในชุมชน ซึ่งทำให้ลูกบ้านได้รับการบริการอย่างทั่วถึง” นางสาวเพ็ชรรัตน์ มูลศาล กล่าวเพิ่มเติม
ด้านประชาชนที่เข้ารับบริการการฉีดวัคซีนอย่าง นางสาวธนาวรรณ เล้าสุวรรณเวช เล่าว่า ตอนนี้ตนเองอายุ 22 ปี และ ตั้งครรภ์ 18 สัปดาห์แล้ว วันนี้มารับบริการฉีดวัคซีนเพราะเคยตรวจแล้วไม่พบเชื้อ แต่ก็คิดว่า มาฉีดเพื่อป้องกันไว้ก่อนดีกว่า
โดยตนเองได้รับการแจ้งจากประธานชุมชนว่า จะมีการให้บริการการฉีดวัคซีน ซึ่งตนมองว่า เป็นเรื่องที่ดีและสะดวกที่มีการตรวจเชิงรุกและการฉีดตามชุมชนแบบนี้
ทั้งนี้ หากประชาชนได้รับการตรวจ และยืนยันว่า มีการติดเชื้อ สามารถประสานสายด่วน 1669, 1668 หรือ 1330 ทั้งสามหมายเลข เพื่อนำเข้าสู่ระบบการรักษาต่อ
ทั้งหมดนี้ต้องยอมรับในความทุ่มเทและเสียสละ ทั้งแรงกาย แรงใจ จากทุกหน่วยงานที่เข้ามาร่วมเป็นพลังในการต่อสู้กับภัยโรคระบาดครั้งนี้ เพื่อป้องกันและบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ด้วยความหวังว่าเราจะผ่านพ้นวิกฤตโควิด-19 ไปด้วยกันโดยเร็วที่สุด