รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ร่วมประชุมทางไกลกับรัฐมนตรีสาธารณสุขอาเซียน แลกเปลี่ยนประสบการณ์ของไทยในการตอบโต้โควิด 19 และแผนการฉีดวัคซีนของไทย ยืนยันความพร้อมในการร่วมมือกับอาเซียนฟื้นฟูภูมิภาคหลังโควิด-19
วันนี้ (25 ก.ค.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2564 ได้ร่วมประชุมผ่านระบบวิดีโอทางไกลร่วมกับรัฐมนตรีสาธารณสุขอาเซียนสมัยพิเศษว่าด้วยการโต้ตอบโรคโควิด 19 ของอาเซียน ภายหลัง 1 ปี (2021 Special Video Conference of ASEAN Health Ministers Meeting : ‘ASEAN COVID-19 Response After One Year) โดยมีรัฐมนตรีสาธารณสุขของประเทศสมาชิกอาเซียน 10 ประเทศ ได้แก่บรูไนดารุสซาลาม กัมพูชา อินโดนีเซีย ลาว มาเลเซีย เมียนมา ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และเวียดนาม รวมทั้งเลขาธิการอาเซียน ผู้อำนวยการสำนักงานองค์การอนามัยโลกภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิกตะวันตก เข้าร่วมประชุมแลกเปลี่ยนสถานการณ์และประสบการณ์การจัดการโรคโควิด-19 รวมทั้งแผนการฉีดวัคซีน และการเฝ้าระวังการกลายพันธุ์ของโรค เพื่อร่วมกันลดการแพร่ระบาดของโรคในภูมิภาค
นายอนุทินกล่าวว่า ประเทศไทย ให้ความสำคัญกับความร่วมมือของทุกภาคส่วนในการร่วมกันแก้ปัญหาการระบาดของโควิด- 19 โดยเน้นย้ำมาตรการด้านสาธารณสุขในการป้องกันการติดเชื้อ การตรวจหาเชื้อซึ่งประเทศไทยได้อนุญาตให้มีการใช้ Rapid test รู้ผลตรวจในเวลาอันรวดเร็ว การปรับแผนการดูแลรักษาเพื่อรองรับจำนวนผู้ป่วย โดยให้ผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรงกักตัวที่บ้านหรือชุมชน และการเฝ้าระวังเกี่ยวกับการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัสอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งประเทศไทยพร้อมสนับสนุนกลไกการดำเนินงานในระดับภูมิภาคเพื่อฟื้นฟูความมั่นคงของภูมิภาค โดยเฉพาะกรอบการจัดการของอาเซียนในการเดินทางระหว่างประเทศ (ASEAN Travel Corridor Arrangement) และการจัดตั้งศูนย์อาเซียนด้านภัยฉุกเฉินด้านสาธารณสุขและโรคติดต่อ (ACPHEED) โดยไทยได้เสนอตัวเป็นที่ตั้งของศูนย์นี้ และเรียกร้องให้ทุกประเทศร่วมมือในการป้องกันโรคระบาดอย่างจริงจัง และดำเนินการตามแผนปฏิบัติการของภูมิภาคว่าด้วยการสร้างความมั่นคงทางวัคซีน (Regional Strategic and Action Plan for Vaccine Security and Self-Reliance) เพื่อลดการพึ่งพาวัคซีนและเวชภัณฑ์ที่จำเป็นจากภูมิภาคอื่น
ทั้งนี้ ในช่วงท้ายของการประชุมฯ รัฐมนตรีสาธารณสุขอาเซียนได้รับรองแถลงการณ์ร่วม (Joint statement) ในการร่วมมือกันควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 และเตรียมความพร้อมในการตอบโต้ภัยสาธารณสุข ในอนาคต สนับสนุนการเข้าถึงวัคซีนและการใช้ข้อริเริ่มของอาเซียนด้านสาธารณสุข ตลอดจนร่วมมือกับประเทศคู่เจรจาและองค์การระหว่างประเทศอื่น ๆ ในการจัดการผลกระทบด้านสุขภาพจากโควิด รวมทั้งปัญหาสุขภาพจิต