xs
xsm
sm
md
lg

ชะตาพลิกผัน - จากวัยรุ่นสู่วัยทำงาน/ดร.สรวงมณฑ์ สิทธิสมาน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สถานการณ์วิกฤติโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อลูกชายดิฉันทั้งสองคนที่ไม่สามารถกลับไปเรียนที่เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ได้มาราวๆ ปีครึ่งแล้ว และทำท่าจะไม่ได้กลับง่ายๆ ทำให้แผนชีวิตของพวกเขาผิดแผนไปหมด โดยเฉพาะลูกชายคนโต "สรวง สิทธิสมาน" ที่เป็นมนุษย์ที่มักจะวางแผนชีวิตและวาดความฝันของตัวเองเสมอ แต่เมื่อถูกสถานการณ์บีบบังคับ เขาก็ไม่จำนนต่อโชคชะตา แปรวิกฤติเป็นโอกาสแห่งการเรียนรู้ผ่านคอลัมน์นี้ 
…………..

เป็นเยาวชนอยู่ดี ๆ ก็กลายเป็นผู้ใหญ่ไปเสียอย่างนั้น…

เมื่อสถานการณ์ในโลกปัจจุบันบีบบังคับให้เยาวชนต้องแบกรับภาระหน้าที่มากกว่าที่เคย บทเพลงชีวิตของผมจึงกำลังเข้าสู่ท่อนฮุค อันเป็นท่อนที่จะตัดสินคุณค่าของชีวิตของตัวเองนับจากนี้เป็นต้นไป…

ยังไม่ทันหมดวัยเรียนก็เข้าสู่วัยทำงานเสียแล้ว สำหรับผมที่ชีวิตอย่างเป็นทางการกำลังศึกษาอยู่มหาวิทยาลัยในมหานครเซี่ยงไฮ้ แต่เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ไม่สามารถกลับไปเรียนในคลาสได้ จำต้องเรียนออนไลน์อยู่ที่ไทยจนถึงปัจจุบันเป็นเวลาเกือบ 2 ปีแล้ว 
ผมเป็นเยาวชนอายุ 23 ปีที่ยังเรียนไม่จบปริญญาตรี ในช่วงแรกที่โควิด-19 เริ่มระบาด ยังเรียนไม่จบปี 2 เลยครับ ซึ่งในตอนนั้นได้วางแผนการใช้ชีวิตแบบเด็กมหาวิทยาลัยล่วงหน้าเอาไว้ถึงวันที่เรียนจบ ทั้งการตั้งเป้าหมายในการคว้าเกียรตินิยมอันดับ 1 วางแผนการทำโปรเจกต์กิจกรรมต่าง ๆ ในมหาวิทยาลัย รวมถึงวางแผนการเดินทางเชิงทัศนศึกษาไปในสถานที่ท่องเที่ยวระดับท็อปของประเทศจีนให้ครบ….

แต่ทุกอย่างเป็นได้แค่แผนเท่านั้น เพราะสุดท้ายก็ต้องพับเก็บเข้าลิ้นชักไว้ก่อน เมื่อการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสทำให้กลับจีนไม่ได้ การเรียนออนไลน์ก็ทำให้เหนื่อยใจเหลือเกิน นอกจากจะทำให้ผิดแผนชีวิตแล้ว ยังทำให้พัฒนาการของทักษะด้านภาษาชะลอตัวลง ทำเอาผมเกือบหมด Passion กับชีวิตไปพักหนึ่ง

แต่ไม่ทันไรครับ เมื่อต้องเรียนออนไลน์อยู่ที่ไทย มันก็ทำให้มีเวลาทำอย่างอื่นมากขึ้น ซึ่งก็เป็นโอกาสสำหรับผมในการเริ่มทำงานอื่น ๆ ควบคู่ไปกับการเรียนออนไลน์ เริ่มต้นจากการเป็นคอลัมนิสต์ ตามมาด้วยการเป็นผู้จัดรายการพอดแคสต์ มีงานเพื่อสังคมเข้ามาเป็นฤดูกาล จนกระทั่งเข้าไปมีบทบาทในการทำสำนักข่าวออนไลน์ในปัจจุบัน

ผมกลับมามี Passion กับชีวิตอีกครั้ง…

แต่ไม่ใช่กับการเรียนมหาวิทยาลัยแล้ว แต่คือการทำงาน…

ก่อนหน้านี้ผมไม่เคยคิด และพยายามไม่กดดันตัวเองให้รีบทำงานประจำจนกว่าจะเรียนจบ เพราะมันก็เป็นอย่างที่เขียนเอาไว้ตอนต้นนั่นแหละครับ ผมวางแผนที่จะทำให้ชีวิตมหาวิทยาลัยของตัวเองสมบูรณ์แบบที่สุด เที่ยวเล่นบ้างเที่ยวจริงบ้างตามประสาวัยรุ่นสายลุยคนหนึ่ง เรื่องงานเอาไว้หลังเรียนจบค่อยว่ากัน

แต่พอมาในวันนี้…เมื่อมองไปรอบตัว…

สถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในสังคมมันตรึงเครียดไปหมด อย่าว่าแต่ผมเลยครับ เพื่อน ๆ หลายคนที่เรียนอยู่ที่จีนก็เจอปัญหาคล้าย ๆ กัน บางคนที่ควรจะได้เงินจากทุนรัฐบาลแต่กลับไปเซ็นต์รับที่จีนไม่ได้ ก็ต้องขาดรายได้ประจำเดือนไป จนต้องหางานพิเศษทำจนกระทบกับเวลาการเข้าเรียน บางคนที่ธุรกิจทางบ้านได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ก็ต้องดรอปเรียนเพื่อเอาเวลาไปช่วยงานที่บ้าน บางคนถึงกับลาออกแล้วจากมหาวิทยาลัยที่จีน และกลับมาเรียนมหาวิทยาลัยในไทยเพราะเรียนออนไลน์ไม่ไหว แต่สุดท้ายแม้จะเรียนที่ไทยก็ยังต้องเรียนออนไลน์อยู่ดี…เศร้ามั้ยล่ะ…

ทุกอย่างมันเครียดไปหมดเลยครับ ทั้งปัญหาการเมือง ปัญหาวัคซีน และปัญหาอื่น ๆ ที่เมื่อเปิดดูข่าวช่องไหน หรือเข้าแอพพลิเคชั่นอะไร ก็จะมีแต่ข้อมูลที่ทำให้รู้สึกสิ้นหวังอยู่ตลอดเวลา เหมือนกับว่าเราทุกคนกำลังอยู่ในยุคสมัยแห่งความสิ้นหวัง

ผมนี่ยังดีนะครับ ที่เรียนยังไม่จบแต่มีงานทำแล้ว เพื่อนหลายคนอายุรุ่นราวคราวเดียวกับผม บางคนเพิ่งเรียนจบในปีนี้ ในปีที่โควิด-19 ระบาดหนัก มีมาตรการกึ่งล็อคดาวน์เศรษฐกิจตกต่ำ ทำให้ยังยังหางานทำไม่ได้เลยด้วยซ้ำ เพื่อนคนหนึ่งเครียดมาก แถมยังรู้สึกอับอายที่แม้จะเรียนจบมาแล้วแต่ยังต้องขอเงินพ่อแม่ใช้

ตัวผมและเด็ก ๆ สมัยนี้น่าสงสารกันจริง ๆ ครับ เพราะต้องตื่นนอนขึ้นมาพร้อมกับความรับผิดชอบที่เกินตัว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการรับผิดชอบตัวเองในการป้องกันเชื้อโควิด-19 ที่ถึงแม้จะไม่ใช่กลุ่มเสี่ยงหลัก แต่ก็ยังต้องระมัดระวังการเป็นพาหะนำเชื้อมาให้คนในบ้านที่เป็นกลุ่มเสี่ยงหลักติด แทนที่จะได้ใช้ชีวิตออกไปเล่นกับเพื่อนข้างนอก ไปเรียนรู้การเข้าสังคม แต่กลับต้องมาใช้ชีวิตอยู่แต่ในที่ร่ม ในห้องแอร์ จมอยู่แต่กับเกมและโลกโซเชียลมีเดียที่นับวันมีแต่จะ Toxic มากยิ่งขึ้น
 
การเป็นผู้ใหญ่คืออะไร ?

เราควรจะเริ่มเป็นผู้ใหญ่กันจริง ๆ ตอนอายุสัก 25 ปีไม่ใช่หรือ ?

ตอนนี้อายุยังไม่ถึง 25 เลย แต่กลับต้องเจอโลกแห่งความเป็นจริงที่หนักหนาสาหัสและทำให้เครียดมากขนาดนี้เชียวหรือ ?


ผมว่าหลาย ๆ คนก็คิดเหมือนผม เป็นเยาวชนอยู่ดี ๆ ก็ถูกบังคับให้ต้องกลายเป็นผู้ใหญ่ไปเสียอย่างนั้น

นี่หรือคือชะตากรรมของเด็กรุ่นเรา ?

แต่ก็อีกนั่นแหละ ผมเองก็คงจะต้องมองโลกให้ดีที่สุดเท่าที่จะดีได้ อย่างน้อยถ้าหากอยู่รอดจนผ่านช่วงนี้ไปได้ โควิด-19 หยุดระบาดลงแล้ว ทุกอย่างกลับมาเป็นเหมือนเดิมเมื่อไหร่ เราก็จะแกร่งขึ้น ถึงเวลานั้นแล้ว ก็อย่าลืมให้รางวัลตัวเองกันนะครับ
 
แต่ก่อนจะถึงวันนั้น วันนี้เราต้องอดทน และพยายามประคองตัวเองเข้าไว้ให้ได้

สู้ ๆ นะวัยรุ่น !


กำลังโหลดความคิดเห็น