ศบค. รายงานไทยพบผู้ป่วยโควิดรายใหม่ 8,685 ราย ในเรือนจำเกินครึ่งพบที่เรือนจำฯ จ.สุพรรณบุรี 113 ราย ทั้งประเทศพบผู้ป่วยอาการหนักและที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจเพิ่มขึ้น ทั้งในพื้นที่ กทม. ปริมณฑล และต่างจังหวัด ยังคงพบคลัสเตอร์ใหม่ในหลายจังหวัด นนทบุรีพบคลัสเตอร์ใหม่ห้างซูเปอร์มาร์เก็ต ติดเชื้อแล้ว 312 ราย ส่วนในจากคลัสเตอร์เดิมตามโรงงาน ยังคงพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม
วันนี้ (13 ก.ค.) ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 8,685 ราย โดยแบ่งเป็นติดเชื้อในประเทศ 8,539 ราย จากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 146 ราย พบผู้ป่วยยืนยันสะสม 353,712 ราย รักษาหายป่วยเพิ่ม 3,797 ราย สะสม 255,455 ราย กำลังรักษาอยู่ 95,410 ราย แบ่งเป็นรักษาในโรงพยาบาล 53,619 ราย และโรงพยาบาลสนาม 41,791 ราย เป็นผู้ป่วยอาการหนัก 3,042 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 794 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 56 ราย รวมเสียชีวิต 2,847 คน
ผู้ติดเชื้อรายใหม่แบ่งเป็นผู้ติดเชื้อในประเทศ 8,685 ราย เป็นผู้ติดเชื้อจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 6,026 ราย จากการค้นหาเชิงรุกในชุมชน 2,501 ราย จากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 146 ราย และผู้เดินทางมาจากต่างประเทศเข้า State Quarantine 12 ราย
สำหรับผู้เสียชีวิตทั้ง 56 ราย ชาย 25 ราย หญิง 31 ราย กทม. 30 ราย นราธิวาส 4 ราย นครปฐม ปทุมธานี กำแพงเพชร ชลบุรี เพชรบุรี จังหวัดละ 2 ราย ฉะเชิงเทรา ชัยภูมิ ชุมพร ตราด สระบุรี นครราชสีมา ภูเก็ต นครสวรรค์ ปัตตานี มุกดาหาร ศรีสะเกษ หนองบัวลำภู จังหวัดละ 1 ราย โรคประจำตัวยังเป็นปัจจัยเสี่ยงความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง พบ 5 รายไม่มีโรคประจำตัว อายุค่ากลาง 65 ปี อายุน้อยสุด 34 ปี อายุมากสุด 96 ปี เสียชีวิตที่บ้าน 1 ราย ในจ.นราธิวาส โดยตรวจพบเชื้อหลังจากเสียชีวิต
10 อันดับ ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศ วันที่ 13 ก.ค. 2564 คือ 1. กรุงเทพมหานคร 2,631 ราย 2. สมุทรสาคร 561 ราย 3. นนทบุรี 537 ราย 4. สมุทรปราการ 529 ราย 5. ชลบุรี 459 ราย 6. ปทุมธานี 189 ราย 7. นราธิวาส 178 ราย 8. นครปฐม 177 ราย 9. สงขลา 150 ราย 10. อุดรธานี 126 ราย
สถานการณ์ขณะนี้ ภาพรวมทั้งประเทศพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น วันนี้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 146 ราย เกินครึ่งพบในเรือนจำฯ จ.สุพรรณบุรี จำนวน 113 ราย ยังคงต้องเฝ้าระวังเรือนจำฯ อย่างใกล้ชิด โดยเกือบทุกพื้นที่การแพร่ระบาดยังไม่ลดลง ภาคอีสาน ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่เป็นผู้เดินทางกลับภูมิลำเนาและเป็นรับผู้ป่วยกลับจังหวัด ปัจจัยเสี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยโดยเฉพาะในที่ทำงาน การเข้าพื้นที่ชุมชน การเดินทางข้ามจังหวัด อัตราการครองเตียง เพิ่มขึ้นทุกระดับสีในทุกพื้นที่ ภาพรวมทั้งประเทศพบผู้ป่วยอาการหนักและที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจเพิ่มขึ้น ทั้งในพื้นที่ กทม. ปริมณฑล และต่างจังหวัด ส่วนผู้เสียชีวิตภาพรวมทั้งประเทศมีแนวโน้มผู้เสียชีวิตลดลง จำนวนผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ (เกินครึ่ง) ยังเป็นพื้นที่ กทม. อย่างต่อเนื่อง
ส่วนจังหวัดอื่นๆ ยังมีการพบคลัสเตอร์ใหม่
- สมุทรสาคร พบคลัสเตอร์ใหม่ 2 แห่ง คือ โรงงานผลิตภัณฑ์จากโลหะ, โรงงานผลิตอุปกรณ์ล็อค
- นนทบุรี พบคลัสเตอร์ใหม่ คลังห้างซุปเปอร์มาร์เก็ต อ.บางบัวทอง ติดเชื้อแล้ว 312 ราย
- ปัตตานี พบคลัสเตอร์ใหม่โรงเรียนสอนศาสนา ซึ่งกระจายไปแล้ว 3 จังหวัด
- ชลบุรี พบคลัสเตอร์ใหม่โรงงานเฟอร์นิเจอร์ อ.บ้านบึง
ทั้งนี้ หลายจังหวัดยังคงพบการติดเชื้อเพิ่มเติมในคลัสเตอร์เดิม ที่พบต่อเนื่อง เช่น คลัสเตอร์โรงงานสับปะรด ประจวบคีรีขันธ์ คลัสเตอร์โรงงานแปรรูปเนื้อสัตว์ ลพบุรี
ขณะที่ยอดรวมผู้ติดเชื้อโควิด-19 ระลอกเดือนเมษายน เริ่มตั้งแต่ 1 เม.ย. 64 เป็นต้นมา พบผู้ติดเชื้อแล้ว 324,849 ราย หายป่วยสะสม 228,029 ราย เสียชีวิตสะสม 2,753 ราย
สถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทั่วโลก วันอังคารที่ 13 กรกฎาคม 2564 เวลา 10.00 น. ยอดผู้ติดเชื้อรวม 188,066,962 ราย อาการรุนแรง 78,536 ราย รักษาหายแล้ว 172,005,107 ราย เสียชีวิต 4,055,759 ราย
อันดับประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด
1. สหรัฐอเมริกา จำนวน 34,766,404 ราย
2. อินเดีย จำนวน 30,904,734 ราย
3. บราซิล จำนวน 19,106,971 ราย
4. ฝรั่งเศส จำนวน 5,813,899 ราย
5. รัสเซีย จำนวน 5,808,473 ราย
ประเทศไทย อยู่ในอันดับที่ 60 จำนวน 353,712 ราย