ภาระลูกหลาน จากหลอดพลาสติก

จากการประเมินจากการจัดกิจกรรม เก็บขยะชายหาดสากล (International Coastal Cleanup-ICC) ที่จัดขึ้นเป็นประจําในเดือนกันยายนของทุกปี และในปี 2563 เก็บได้ทั้งสิ้น 128,563 ชิ้น น้ำหนักรวม 11,337 กิโลกรัม หรือประมาณ 11 ตัน เมื่อมาจำแนกจากขยะที่เก็บได้ จึงคาดการณ์ว่า ขยะที่ยังตกค้างใต้พื้นสมุทรมากที่สุด คือ ถุงพลาสติก เศษโฟม ขวดพลาสติก ถุงอาหาร เสื้อผ้า/รองเท้า ฝาจุกขวด และหลอดตกค้างอยู่ในสิ่งแวดล้อม

ที่ผ่านมามีการรณรงค์เกี่ยวกับการลดการใช้พลาสติกในกิจกรรมต่างๆ ตั้งแต่การใช้หลอดพลาสติกยาวไปจนถึงถุงพลาสติก เช่น ในหลายประเทศมีการประกาศยกเลิกการใช้หลอดพลาสติก หรืองดรับถุงพลาสติกหากซื้อของเพียงไม่กี่ชิ้น ซึ่งการลดการใช้พลาสติกถือเป็นเรื่องที่ดีต่อโลก
 
จากการเก็บข้อมูลในอดีตพบว่าคนส่วนใหญ่จะคุ้นชินกับการใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกประเภทใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้งทำให้เกิดปัญหาขยะตามมา แต่เราสามารถช่วยลดปัญหานี้ได้ง่ายๆ เพียงแค่เริ่มต้นเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของตัวเอง อย่างเช่นการพกแก้วหรือกระติกน้ำที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ สามารถพกพาได้สะดวก แค่นี้ก็สามารถช่วยลดปริมาณการเกิดขยะพลาสติกได้มากแล้ว ยกตัวอย่างในการซื้อกาแฟ 1 แก้ว จะก่อให้เกิดขยะพลาสติกคือ แก้ว ฝาปิด หลอดพลาสติก ถุงหูหิ้วพลาสติก ซึ่งก็จะเกิดเป็นขยะพลาสติกอย่างน้อย 4 ชิ้นเข้าไปแล้ว และจะคงค้างอยู่บนโลกไปอีกอย่างน้อย 450 ปี

นอกจากนี้ในช่วงสถานการณ์ที่โควิด-19 กำลังแพร่ระบาด มีรายงานออกมาว่าความเสี่ยงในการแพร่กระจายของผู้ติดเชื้อบางครั้งจะเกิดจากการที่มีการใช้ภาชนะสำหรับดื่มน้ำร่วมกัน การที่เราพกแก้วน้ำหรือขวดน้ำเป็นของตัวเองนอกจากจะเป็นการช่วยโลกจากปัญหาขยะพลาสติกได้อีกวิธีหนึ่งแล้วยังสามารถป้องกันตนเองจากโควิด-19 ได้อีกด้วย สามารถรับชมเรื่องราวดีๆ ได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=enwsSKhUR6I