นับตั้งแต่ที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) ได้ประกาศปฏิรูปยกระดับอุดมศึกษาไทย (Reinventing University) ให้ทัดเทียมระดับสากลเพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ยุค 4.0 นั้น มหาวิทยาลัยมหิดลในฐานะสถาบันอุดมศึกษาระดับแนวหน้าของไทยได้สนองรับนโยบายดังกล่าวด้วยการวางยุทธศาสตร์ที่ตอบโจทย์อุตสาหกรรมโลก ซึ่งหนึ่งในยุทธศาสตร์ที่สำคัญนั้น คือ การพัฒนาหุ่นยนต์ทางการแพทย์ (Medical Robotic) ขับเคลื่อนโดย คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล นำโดย รองศาสตราจารย์ ดร.จักรกฤษณ์ ศุทธากรณ์ คณบดีฯ ผู้ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งประธานสภาคณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์แห่งประเทศไทยคนปัจจุบันเมื่อเร็วๆ นี้
จากผลงานที่โดดเด่นด้านการเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมหุ่นยนต์ทางการแพทย์ จนได้ร่วมกับ ศูนย์ความเป็นเลิศด้านวิทยาศาสตร์ (TCELS) ก่อสร้างอาคารหน่วยปฏิบัติการหุ่นยนต์ทางการแพทย์ขั้นสูง (Advanced Medical Robotics Center) เพื่อการทดสอบ ตรวจประเมิน และผลักดันสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์หุ่นยนต์ทางการแพทย์สู่ภาคอุตสาหกรรมระดับโลก ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปีพ.ศ.2565 ซึ่งเป็นโอกาสที่ มหาวิทยาลัยมหิดล โดย
คณะวิศวกรรมศาสตร์ จะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันหุ่นยนต์ระดับโลก RoboCup 2022 รองศาสตราจารย์ ดร.จักรกฤษณ์ ศุทธากรณ์ ได้แสดงวิสัยทัศน์ที่พร้อมจะบรรลุเป้าหมายแห่งยุทธศาสตร์ที่จะขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ความเป็นเลิศด้านหุ่นยนต์ทางการแพทย์ระดับโลก
ล่าสุด รองศาสตราจารย์ ดร.จักรกฤษณ์ ศุทธากรณ์ ได้บรรลุความสำเร็จในการผลักดันให้ มหาวิทยาลัยมหิดล โดย
คณะวิศวกรรมศาสตร์ ได้เป็นแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย ที่เข้ากระบวนการการรับรองมาตรฐานการศึกษาวิศวกรรมศาสตร์ระดับโลก ABET (Accreditation Board for Engineering and Technology) จาก The Engineers' Council for Professional Development (ECPD) ประเทศสหรัฐอเมริกา ครบเกือบทุกด้าน
และเมื่ออาคารหน่วยปฏิบัติการหุ่นยนต์ทางการแพทย์ขั้นสูง (Advanced Medical Robotics Center) ซึ่งเป็นหน่วยงานระดับชาติที่มีสถานที่ตั้ง ณ มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา ก่อสร้างแล้วเสร็จในอนาคตอันใกล้นี้ จะเป็นจิ๊กซอว์ตัวสำคัญที่ทำให้งานวิจัยและนวัตกรรมสู่การใช้ประโยชน์ได้จริง ซึ่งจะไม่ได้ตอบโจทย์แค่ระดับในประเทศ แต่จะขยายผลสู่ระดับโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านหุ่นยนต์ทางการแพทย์ที่เป็น Active Medical Device หรือ อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่มีการเคลื่อนไหวด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยมุ่งที่จะทำให้หุ่นยนต์ทางการแพทย์ไทย ได้มีที่ยืนบนแผนที่โลก เฉกเช่นเดียวกับ มหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลก อาทิ Johns Hopskin University ประเทศสหรัฐอเมริกา Imperial College London สหราชอาณาจักร University of Tokyo ประเทศญี่ปุ่น Shanghai Jiao Tong University (SJTU) สาธารณรัฐประชาชนจีน National Chengkung University ประเทศไต้หวัน ฯลฯ ซึ่งเป็นเครือข่ายยักษ์ใหญ่ที่จะเปิดประตูมหาวิทยาลัยไทยสู่ระดับโลก
นอกจากนี้ การที่ มหาวิทยาลัยมหิดลโดย คณะวิศวกรรมศาสตร์ จะได้เป็นเจ้าภาพจัดแข่งขัน RoboCup 2022 ซึ่งเป็นการแข่งขันหุ่นยนต์ครั้งยิ่งใหญ่ ที่จะมีการเปิดตัวหุ่นยนต์ทางการแพทย์ประกอบเข้าไปด้วยเป็นครั้งแรกของโลกนั้น จะเป็นเวทีตั้งต้นที่จะมาเสริมกับการที่จะมีหน่วยปฏิบัติการหุ่นยนต์ทางการแพทย์ขั้นสูง ซึ่งต่อยอดมาจากความเป็นผู้นำทางด้านการศึกษาวิศวกรรมศาสตร์ที่ได้มาตรฐานโลกของ มหาวิทยาลัยมหิดล โดย คณะวิศวกรรมศาสตร์ ซึ่งจะเป็นการนำร่องให้กับสถาบันอุดมศึกษาชั้นนำแห่งอื่นของไทยพร้อมก้าวสู่ระดับโลกไปด้วยกัน เพื่อการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ยุค 4.0 ได้อย่างแท้จริงในที่สุด