กรมควบคุมโรค ตอบชัด เลือกซื้อซิโนแวค เพราะยังมีประสิทธิภาพ ป้องกันป่วยรุนแรงและตายได้ และเป็นตัวที่ซื้อตอนนี้แล้วมีส่ง ส่วนตัวอื่นยังต้องรออีกนาน ยืนยันวัคซีนซิโนแวคมีประสิทธิผลป้องกันโรคโควิด-19 แม้ไม่สูงมาก
วันนี้ (8 ก.ค.) นพ.เฉวตสรร นามวาท ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า วัคซีนซิโนแวกยังมีประสิทธิผลในการป้องกันโรคโควิด-19 แม้ประสิทธิผลอาจไม่สูงมากนัก แต่มีผลวิจัยยืนยันป้องกันการ เสียชีวิต และป่วยอาการรุนแรงได้ 100% ซึ่งมีการใช้งานจริงในหลายประเทศ เช่น ที่อินโดนีเซียสามารถป้องกันการป่วยที่มีอาการรุนแรงได้ 94% ป้องกันการป่วยแล้วนอน รพ.ได้ 96% และป้องกันการเสียชีวิตได้ 98%
ทั้งนี้ วัคซีนซิโนแวคยังสามารถป้องกันเชื้อสายพันธุ์อังกฤษได้อย่างอย่างมีประสิทธิผล แต่หากในอนาคตถ้าสายพันธุ์เปลี่ยนไปจึงค่อยมาว่ากันอีกครั้ง แต่สิ่งสำคัญคือเมื่อสั่งซื้อแล้วสามารถจัดส่งให้ได้ทันตามเป้าหมายที่รัฐบาลจะฉีดวัคซีนให้กับ 70% ของประชากร แต่วัคซีนตัวอื่นอาจจะต้องรอไปอีกนาน
“เมื่อมีโอกาสฉีดให้เร็วที่สุด เพราะวัคซีนมีพื้นฐานที่ผ่านการคัดเลือกทางวิชาการคือลดอาการรุนแรง ป้องกันการเสียชีวิต ถ้าท่านรอเนิ่นนานเกินไป เกิดโรคมาถึงตัวท่านก่อน แทนที่จะได้วัคซีนที่ป้องกันรักษาชีวิตไว้ได้ก็อาจช้าเกินไป” นพ.เฉวตสรร กล่าว
ส่วนความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.- 7 ก.ค. 64 ได้ฉีดให้ประชาชนทั่วประเทศแล้วรวม 11,619,618 โดส มีจำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 สะสม 8,494,230 ราย (จำนวนผู้ได้รับวัคซีนทั้งหมด) และจำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 2 สะสม 3,125,388 ราย (จำนวนผู้ได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์) โดยเป็นวัคซีนซิโนแวก 6,744,401 โดส แอสตร้าเซนเนก้า 4,713,963 โดสและซิโนฟาร์ม 161,254 โดส
สำหรับเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์หลังมีการฉีดวัคซีนไปแล้ว 10,777,748 โดส เมื่อวันที่ 4 ก.ค. 64 พบ 3,008 ราย (27.91% ต่อแสนโดส) ได้แก่ เข้าเกณฑ์ร้ายแรง 1,129 ราย (10.48% ต่อแสนโดส) เสียชีวิต 173 ราย (1.61% ต่อแสนโดส) ผู้ป่วยในอื่นๆ เช่น มีไข้ 1,706 ราย (15.83% ต่อแสนโดส) ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการฉีดวัคซีนยังอยู่ในระดับปลอดภัย
โดยผู้เชี่ยวชาญได้พิจารณาข้อมูลดังกล่าวแล้วเสร็จ 398 รายและอยู่ระหว่างติดตามข้อมูล 913 ราย ซึ่งจากข้อมูลที่พิจารณาแล้วเสร็จ ได้แก่ เกี่ยวกับวัคซีน 67 ราย เช่น อาการแพ้วัคซีน ซึ่งทุกรายสามารถรักษาหาย, เกี่ยวกับการฉีดวัคซีน 235 ราย เช่น อาการปวดบวม, เหตุการณ์ร่วมที่ไม่เกี่ยวกับการฉีดวัคซีน เช่น เจ็บป่วยรักษาหาย 29 ราย เสียชีวิต 58 ราย และไม่สามารถสรุปได้ว่าเกี่ยวข้องกับวัคซีนหรือไม่ 9 ราย
“การเสียชีวิตจะมีการเก็บข้อมูลไว้ อาจจะเกี่ยวหรือไม่ก็ได้ แต่จะเก็บข้อมูลไว้ก่อน เช่น กรณีสามี-ภรรยาที่จังหวัดยโสธร ที่เสียชีวิต 3 วันหลังฉีดวัคซีนเนื่องจากกินเห็ดพิษเข้าไป ซึ่งจะเห็นสาเหตุการเสียชีวิตมีความชัดเจน” นพ.เฉวตสรร กล่าว
อาการผู้ป่วยในที่พบหลังฉีดวัคซีน
วัคซีนซิโนแวค
- เวียนศีรษะ (21.57%)
- ปวดศีรษะ (15.71%)
- คลื่นไส้ (15.02%)
- อาเจียน (13.03%)
- อ่อนเพลีย (9.10%)
- ผื่น (6.96%)
- ปวดกล้ามเนื้อ (6.75%)
- ถ่ายเหลว (5.93%)
- ไข้สูงกว่า 38 องศาเซลเซียส (4.34%)
- ไม่สบายตัว (4.14%)
วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า
- ไข้สูงกว่า 38 องศาเซลเซียส (26.62%)
- ปวดศีรษะ (25.49%)
- เวียนศีรษะ (22.56%)
- คลื่นไส้ (18.65%)
- อาเจียน (18.20%)
- อ่อนเพลีย (16.39%)
- ปวดกล้ามเนื้อ (15.34%)
- ถ่ายเหลว (8.80%)
- ไม่สบายตัว (8.05%)
- ผื่น (4.81%)
สำหรับการฉีดทั่วโลกนับถึงวันที่ 3 ก.ค. 64 มีจำนวนรวม 3.19 พันล้านโดส โดยมีผู้ที่ได้รับวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 โดส จำนวนกว่า 1.87 พันล้านโดส ซึ่งแสดงให้เห็นว่าวัคซีนที่มีใช้งานอยู่ในขณะนี้มีความปลอดภัย
ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค กล่าวถึงกรณีที่ถูกถามว่า ทำไมถึงซื้อ วัคซีนซิโนแวค ทั้งที่ประชาชนส่วนใหญ่ไม่มั่นใจในประสิทธิภาพวัคซีนชนิดนี้ ว่า การเลือกวัคซีนมาใช้ ผลวิจัยที่ตีพิมพ์มีตัวเลขหลายตัว การป้องกันการป่วยน้อยตัวเลขอาจไม่สูงประมาณ 50% แต่การป้องกันเสียชีวิตหรือป่วยนอน รพ.รุนแรงวิจัย 100% แต่การใช้จริงต้องมาดูด้วย ตอนนี้ใช้หลายประเทศ จีนก้ใช้คุมการระบาดได้ดี และการใช้ในสภาพจริงมีการประเมินว่าวัคซีนออกฤทธิ์จริงหรือไม่
อย่างอินโดนีเซียซิโนแวคป้องกันป่วยมีอาการ 94% ป้องกันป่วยเข้า รพ. 96% และป้องกันเสียชีวิต 98% ชิลีป้องกันป่วยรุนแรง 89% บราซิลป้องกันป่วยมีอาการ 80% ป้องกันป่วยเข้า รพ. 86% และป้องกันเสียชีวิต 95%
ส่วนประเทศไทยทำที่ภูเก็ตประเมินป้องกันติดเชื้อ 90.7% เชียงรายที่บุคลากรทางการแพทย์ป่วยประเมินอยู่ที่ 82% ถือว่ายังมีประสิทธิผลได้ดีตอนนี้ แต่การติดเชื้อตอนนี้เป็นสายพันธุ์อัลฟา อนาคตสายพันธุ์เปลี่ยนตัวเลขก็เปลี่ยน แต่ซิโนแวคหาซื้อตอนนี้และส่งมาทัน ส่วนตัวอื่นต้องรอ ถ้าจะฉีดให้ได้ 70% โอกาสสำเร็จอาจยังไม่ได้วัคซีนและต้องรอไปอีกนาน
ผู้สื่อข่าวถามว่า รพ.เอกชน เปิดจองวัคซีนโมเดอร์นาควรจองไหม และควรฉีดวัคซีนที่รัฐจัดให้ก่อนหรือไม่ นพ.เฉวตสรร กล่าวต่อว่า การจองหรือไม่เป็นสิทธิของท่านที่ต้องติดตามข้อมูลข่าวสาร ส่วนที่ภาครัฐจัดให้ เมื่อมีโอกาสฉีดให้เร็วที่สุดเพราะเรื่องของวัคซีนมีพื้นฐานที่ผ่านการคัดเลือกทางวิชาการป้องกันรุนแรงและเสียชีวิต โดยเฉพาะคนสุงอายุและโรคประจำตัว ถ้ารอนานเกินไป โรคมาถึงตัวก่อนแทนที่วัคซีนจะป้องกันชีวิตไว้ได้อาจจะสายเกินไป