xs
xsm
sm
md
lg

กทม.กำชับสถานศึกษาทุกระดับประเมินความปลอดภัยผ่านระบบ Thai Stop COVID+

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



วันนี้ (2 ก.ค.) นายชวินทร์ ศิรินาค รองปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 กรณีเกิดการระบาดในสถานศึกษา โดยมี ผู้แทนสำนักอนามัย สำนักการศึกษา สำนักพัฒนาสังคม สำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว ประธานกลุ่มเขต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 15 อาคารธานีนพรัตน์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 2 ดินแดง

เนื่องด้วยขณะนี้ในพื้นที่กรุงเทพมหานครพบผู้ติดเชื้อโควิด-19รายใหม่อย่างเนื่อง ประกอบกับพบการติดเชื้อในกลุ่มเด็กที่อยู่ในความดูแลของศูนย์เด็กเล็กในพื้นที่ต่างจังหวัดเป็นกลุ่มก้อน (Cluster) กรุงเทพมหานครจึงจำเป็นต้องเตรียมพร้อมแผนการดำเนินการเพื่อรองรับหากมีคำสั่งเปิดสถานศึกษาในอนาคต ทั้งนี้พบว่าในช่วงระหว่างวันที่ 10 เม.ย.-30 มิ.ย. 64 ที่ผ่านมา จำนวนสัดส่วนผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่เข้าระบบของศูนย์เอราวัณ สำนักการแพทย์ กทม. มีจำนวนทั้งสิ้น 20,755 ราย หากจำแนกตามกลุ่มอายุ ระหว่าง 0-20 ปี มีจำนวน 3,151 ราย แบ่งเป็น อายุ 0-5 ปี จำนวน 558 ราย อายุ 6-11 ปี จำนวน 608 ราย อายุ 11-15 ปี จำนวน 702 ราย และอายุ 16-20 ปี จำนวน 1,283 ราย กรุงเทพมหานคร โดยสำนักอนามัย สำนักการศึกษา สำนักพัฒนาสังคม สำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว ซึ่งมีสถานศึกษาในความดูแล ทั้งโรงเรียน ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กและโรงเรียนกีฬาได้จัดเตรียมแผนพร้อมรองรับหากพบการติดเชื้อในสถานศึกษา รวมทั้งได้เตรียมความพร้อมโรงพยาบาลทั้งในและนอกสังกัด กทม. เพื่อรับดูแลนักเรียนที่ติดเชื้อในพื้นที่แบ่งออกเป็น 6 กลุ่มโซน โดยศูนย์เอราวัณ กทม.จะทำหน้าที่รับส่งผู้ป่วยทั้งหมด รวมทั้ง สำนักอนามัย ได้จัดทำคำแนะนำสำหรับผู้ปกครองซึ่งจะได้เร่งประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือประชาชนปฏิบัติตามแนวทางดังนี้ 1. ติดตามข้อมูลข่าวสารของโรค Covid-19 จากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ 2. สำรวจอาการป่วยของบุตรหลาน หากมีอาการไข้ ไอ น้ำมูก ให้รีบไปพบแพทย์ และแยกเด็กไม่ให้ไปเล่นกับคนอื่น ให้พักผ่อนอยู่บ้านจนกว่าจะหายเป็นปกติ 3. หมั่นทำความสะอาดของใช้ส่วนตัวของบุตรหลานทุกวัน 4. สร้างสุขนิสัยที่ดี จัดหาสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์ ดูแลกำกับบุตรหลานให้ล้างมือบ่อย ๆ 5. หลีกเลี่ยงการพาบุตรหลานไปในสถานที่เสี่ยงต่อการติดโรค 6. ส่งเสริมให้กินอาหารร้อน สะอาด ครบ 5 หมู่ ออกกำลังกาย และนอนหลับอย่างเพียงพอเพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน 7. กรณีมีการจัดการเรียนการสอนออนไลน์ ให้ผู้ปกครองร่วมมือกับครูในการดูแลการจัดการเรียนการสอนแก่นักเรียน 8. หากมีอาการฉุกเฉิน โทรสายด่วน 1669 ศูนย์เอราวัณ สำนักการแพทย์

ในส่วนของสำนักการศึกษา ซึ่งได้มีประกาศเปิดภาคเรียนตั้งแต่วันที่ 14 มิ.ย. เป็นต้นมา ได้มอบหมายให้โรงเรียนในสังกัดพิจารณาจัดการเรียนการสอนตามความพร้อมของผู้เรียน ประกอบด้วย Online On-Air On Hand และ On School Line งดการเรียนการสอนแบบเรียนในห้องเรียนหรือ On Site ทั้งหมด นอกจากนี้ได้ฉีดวัคซีนให้แก่ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในโรงเรียนแล้วกว่า 12,510 คน คิดเป็นร้อยละ 87.27 ซึ่งจะดำเนินการให้ครบถ้วนต่อไป สำหรับการมอบค่าอาหารกลางวันและอาหารเช้าให้แก่ผู้ปกครองเพื่อใช้ดูแลบุตรหลานในขณะนี้นั้น ได้กำชับให้สถานศึกษาใช้รูปแบบการโอนเงินผ่านทาง Internet Banking เพื่อเพิ่มความสะดวกให้แก่ผู้ปกครอง ลดปัญหาการเดินทางและป้องกันการรวมกลุ่มตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค สำหรับสำนักพัฒนาสังคม ได้นำเสนอแนวทางและการดำเนินการตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 กรณีเกิดการระบาดในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก โดยในพื้นที่กรุงเทพมหานคร มีศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก จำนวน 289 ศูนย์ ตั้งอยู่ในพื้นที่ 45 เขต มีอาสาสมัครผู้ดูแลเด็ก จำนวน 1,988 คน มีเด็กเล็กในความดูแล จำนวน 19,041 คน ขณะนี้อาสาสมัครผู้ดูแลเด็กได้รับวัคซีนโควิด-19 แล้ว 826 คน คิดเป็นร้อยละ 85 สำหรับรูปแบบการสอนที่ใช้ในขณะนี้คือการสอนออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน zoom line และการจัดส่งสื่อการเรียนส่งถึงบ้าน โดยระหว่างที่เด็กยังไม่สามารถมาเรียนได้ อาสาสมัครผู้ดูแลเด็กได้ทำความสะอาดศูนย์พัฒนาเด็กเล็กด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรคสูตรสกัดจากธรรมชาติและปรับปรุงพื้นที่โดยรวมให้ถูกต้องตามหลักสุขาภิบาลสม่ำเสมอ

ทั้งนี้ ที่ประชุมกำชับให้สถานศึกษาทุกระดับ รวมทั้งศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก เร่งประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ผู้ปกครองตามแนวทางของสำนักอนามัยอย่างเคร่งครัด รวมทั้งหมั่นทำความสะอาดสถานศึกษาสม่ำเสมอ และให้เข้าสู่ระบบประเมินมาตรฐานความปลอดภัย Thai Stop COVID+ ตามแนวทางของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เพื่อตรวจสอบมาตรการป้องกันโควิด-19 ไม่ให้มีการแพร่เชื้อ อันจะเป็นการสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ปกครอง นักเรียน ตลอดจนบุคลากรทางการศึกษาทุกคน ซึ่งจะจัดทำคู่มือเพื่อให้สถานศึกษาแต่ละแห่งได้นำไปปฏิบัติได้อย่างถูกต้องและเป็นไปในทิศทางเดียวกันต่อไป












กำลังโหลดความคิดเห็น