xs
xsm
sm
md
lg

บุหรี่ไฟฟ้าชื่อดัง ชิงยอมความจ่ายเงิน 40 ล้านเหรียญ หลังถูกฟ้อง 2 ข้อหา พุ่งเป้าเด็ก-อ้างว่าปลอดภัยกว่าบุหรี่ธรรมดา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บ.บุหรี่ไฟฟ้าชื่อดัง ชิงยอมความจ่ายเงิน 40 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หลังถูกอัยการรัฐนอร์ทแคโรไลนา ฟ้อง 2 ข้อหา พุ่งเป้าการตลาดที่เด็ก-อ้างบุหรี่ไฟฟ้าปลอดภัยกว่าบุหรี่ธรรมดา อัยการ สั่งหยุดทำการตลาดอ้างว่าปลอดภัย-ทำการตลาดในกลุ่มเด็กเยาวชน ห้ามผลิตบุหรี่ไฟฟ้าแต่งกลิ่น ปรุงรส แฉงานวิจัยบุหรี่ไฟฟ้ามีผลประโยชน์ทับซ้อนเกือบ 70%

เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม พญ.ดร.เริงฤดี ปธานวนิช ภาควิชาเวชศาสตร์ชุมชน คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี เปิดเผยว่า บริษัทบุหรี่ไฟฟ้า Juul Lab ยอมความก่อนการตัดสินของศาลในคดีที่อัยการรัฐนอร์ทแคโรไลนา สหรัฐอเมริกา ฟ้องศาลในข้อหาบริษัทบุหรี่ไฟฟ้า Juul Lab ทำการตลาดพุ่งเป้าไปที่เด็ก และสร้างความเข้าใจผิดให้แก่สังคมถึงอันตรายของบุหรี่ไฟฟ้า โดยบริษัทบุหรี่ไฟฟ้ายอมจ่ายเงิน 40 ล้านดอลลาร์ (1,282.8 ล้านบาท) ให้แก่รัฐนอร์ทแคโรไลนา และข้อตกลงยอมความได้ห้ามบริษัท อ้างว่า บุหรี่ไฟฟ้า Juul ดีกว่าต่อสุขภาพหรือปลอดภัยกว่าบุหรี่เผาไหม้ธรรมดา ต้องหยุดทำการตลาดที่พุ่งเป้าไปที่เด็ก ห้ามผลิตบุหรี่ไฟฟ้าที่มีรสมิ้นต์ รสแมงโก้ หรือเติมสารปรุงแต่งชนิดอื่น ๆ ห้ามใช้อินฟลูเอนเซอร์ ในการส่งเสริมการขายบุหรี่ไฟฟ้า ส่วนการใช้พรีเซนเตอร์ในการโฆษณาต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 35 ปี ส่วนเงินที่บริษัทบุหรี่ไฟฟ้าจ่ายให้รัฐนอร์ทแคโรไลนา จะนำไปรักษาเยาวชนที่ติดบุหรี่ไฟฟ้าให้เลิกสูบบุหรี่ และป้องกันเด็กจากการติดบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งอัยการสูงสุดรัฐนอร์ทแคโรไลนา กล่าวว่า ถือเป็นการสร้างความแตกต่างให้กับเด็กนับพันคนของรัฐที่ตกเป็นเหยื่อของบุหรี่ไฟฟ้า

พญ.ดร.เริงฤดี กล่าวต่อว่า รัฐนอร์ทคาโรไลนา เป็นรัฐแรกในสหรัฐอเมริกาที่ฟ้องบริษัทบุหรี่ไฟฟ้า และน่าจะเป็นคดีแรกของโลก ที่มีการฟ้องบริษัทบุหรี่ไฟฟ้าด้วยข้อหาดังที่ปรากฏในข่าว ข้อตกลงยอมความที่สำคัญที่สุดคือ การยอมรับว่าบริษัทบุหรี่ไฟฟ้า ได้ทำการตลาดที่พุ่งเป้าไปที่เด็กและเยาวชนจริง และการห้ามบริษัทบุหรี่ไฟฟ้า อ้างว่าบุหรี่ไฟฟ้าปลอดภัยกว่าบุหรี่ชนิดเผาไหม้ธรรมดา ซึ่งเป็นสิ่งที่บริษัทบุหรี่ และเครือข่ายบุหรี่ไฟฟ้ารวมทั้งในประเทศไทย อ้างอยู่ตลอดเวลา ทั้ง ๆ ที่องค์การอาหารและยาสหรัฐฯ ได้มีข้อห้ามว่าห้ามอ้างเช่นนั้น

“บริษัทบุหรี่ทุ่มทุนมหาศาลในการวิจัย และส่งเสริมการขายบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งงานวิจัยที่สนับสนุนโดยบริษัทยาสูบมีแนวโน้มที่จะสรุปได้ว่า บุหรี่ไฟฟ้าไม่อันตรายถึง 66.9 เท่า เมื่อเปรียบเทียบกับงานวิจัยที่ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนกับบริษัทยาสูบ ที่สำคัญที่ผ่านมากระบวนการสื่อสาร ประชาสัมพันธ์ ที่ให้ข้อมูลโดยบริษัทบุหรี่ไฟฟ้า เครือข่าย และนักวิชาการที่มีผลประโยชน์ทับซ้อน ส่งผลให้เด็กและเยาวชนในสหรัฐฯ 43.13% เชื่อว่า บุหรี่ไฟฟ้าปลอดภัยกว่าบุหรี่ธรรมดา ทำให้เกิดการทดลองสูบ และเสพติดบุหรี่ไฟฟ้า ที่สำคัญงานวิจัยยังพบว่า วัยรุ่นอเมริกาที่เริ่มต้นด้วยการสูบบุหรี่ไฟฟ้า เมื่อติดตามต่อมาพบว่า มีโอกาสที่จะเริ่มสูบบุหรี่ธรรมดาสูงกว่าเด็กที่ไม่ได้สูบบุหรี่ไฟฟ้าถึง 4 เท่า” พญ.ดร.เริงฤดี กล่าว




กำลังโหลดความคิดเห็น