รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ยันวันที่ 7 มิ.ย.เป็นต้นไป ไทยเดินหน้าฉีดวัคซีนโควิด 19 มีทั้งแอสตร้าเซนเนก้า และซิโนแวค ตามการจัดสรรแต่ละช่วงเวลา กระจายลงพื้นที่ จังหวัด หรือหน่วยงานต่างๆ ตามการพิจารณาของ ศบค. อนาคตอาจมีวัคซีนอื่นเพิ่ม เผยสถาบันบำราศนราดูรฉีดวัคซีนได้ปกติไม่มีเลื่อนนัด
วันนี้ (26 พ.ค.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ และ นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ โดยนายอนุทินให้สัมภาษณ์ว่า วันที่ 7 มิถุนายน 2564 เป็นต้นไป ทุกคนจะได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ตามความสมัครใจ ซึ่งตอนนี้ประเทศไทยมีการใช้วัคซีน 2 ยี่ห้อ คือ แอสตร้าเซนเนก้า และ ซิโนแวค ส่วนการฉีดขึ้นกับวันเวลาที่ได้รับการจัดสรรวัคซีนตัวใด ซึ่งบางที่จัดส่งทุกวัน ทุก 3 วัน หรือสัปดาห์ละครั้ง แต่วัคซีนทุกชนิดที่ฉีดให้กับประชาชนมีมาตรฐาน ผ่านการพิจารณาจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และฉีดได้ในคนอายุ 18 ปีขึ้นไปได้เหมือนกัน นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างเจรจาจัดหาวัคซีนเพิ่มเติม เช่น ไฟเซอร์ และ จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ที่อยู่ในขั้นการตกลงเงื่อนไขสัญญาจัดซื้อจัดหาโดยวัคซีนที่จัดหาต้องมีความปลอดภัยนำมาใช้เพื่อลดการติดเชื้อ การแพร่เชื้อ ลดอาการรุนแรงและเสียชีวิต
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า กรณีสถาบันบำราศนราดูรมีการประกาศเลื่อนฉีดวัคซีนโควิด-19 ยืนยันว่า มีการฉีดตามกำหนดนัดหมายเหมือนเดิม ที่มีการโพสต์ไปว่าขอเลื่อนไปก่อนนั้น เป็นเพราะเจ้าหน้าที่มือไวไปหน่อย อาจจะเป็นเพราะว่าเครียดกับงาน สำหรับการชะลอลงทะเบียนฉีดวัคซีนผ่านหมอพร้อมเป็นนโยบายของทาง ศบค. โดยให้แต่ละจังหวัดไปจัดทำระบบลงทะเบียนของตัวเอง แต่คนที่ลงทะเบียนผ่านหมอพร้อมแล้วยังได้รับการฉีดวัคซีนแน่นอน กระทรวงสาธารณสุขมีหน้าที่จัดหาและกระจายจัดส่งวัคซีนไปยังพื้นที่ จังหวัด หรือหน่วยงานต่างๆ ตามที่ ศบค.พิจารณากำหนด ส่วนการฉีดให้กลุ่มเป้าหมายเป็นการพิจารณาของแต่ละจังหวัด อย่างไรก็ตาม หลังการฉีดวัคซีนจำนวนมากการติดเชื้อย่อมลดลง