กรมอนามัยลงพื้นที่คุมเข้มสนามกอล์ฟ ย้ำมาตรการป้องกัน ตัดความเสี่ยงโควิด-19

กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่คุมเข้มย้ำมาตรการป้องกันโควิด-19 ในสถานประกอบการสนามกอล์ฟ เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ผู้ใช้บริการ ในการป้องกันการแพร่เชื้อโควิด-19

วันนี้ (21 พ.ค.) นายแพทย์สราวุฒิ บุญสุข รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยภายหลังการลงพื้นที่ติดตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ในสถานประกอบการสนามกอล์ฟ ณ สนามกอล์ฟปัญญาอินทรากอล์ฟคลับ กรุงเทพมหานคร ว่า กรมอนามัยมีแผนการรณรงค์ “ตัดความเสี่ยง สร้างภูมิคุ้มกัน มุ่งมั่นป้องกันโควิด” โดยมีเป้าหมายเป็นกลุ่มสถานประกอบการต่างๆ ได้แก่ สนามกอล์ฟ สนามฟุตบอล ร้านอาหาร มหาวิทยาลัย ตลาด และศาสนสถาน เป็นต้น เพื่อสนับสนุนให้สถานประกอบการเหล่านี้ลดความเสี่ยง โดยสถานประกอบการต้องประเมินตนเองผ่านแพลตฟอร์ม Thai Stop COVID Plus ร้อยละ 90 ส่วนบุคลากรประเมินตนเองผ่าน Thai save Thai ต้องเป็นผู้เสียงต่ำ ตรวจคัดกรองแบบรวดเร็ว พร้อมทั้งประเมินความรอบรู้ด้านสุขภาพต่อการป้องกันโรคโควิด-19 รวมถึงการสร้างภูมิคุ้มกันโดยการฝึกออกกำลังกายบริหารปอด เน้นเมนูเพิ่มภูมิคุ้มกัน และการรับวัคซีน ซึ่งสนามกอล์ฟปัญญาอินทรากอล์ฟคลับ นับเป็นสถานประกอบการแรกที่กรมอนามัยได้ลงพื้นที่รณรงค์ในครั้งนี้ โดยผลการสำรวจความรอบรู้ด้านสุขภาพต่อการป้องกันโรคโควิด-19 พบว่า ผู้ใช้บริการสนามกอล์ฟ มีความรอบรู้ด้านสุขภาพต่อการป้องกันโรคโควิด-19 ในระดับดี ร้อยละ 88 มีการสวมหน้ากาก ร้อยละ 96 ล้างมือ ร้อยละ 96 และเว้นระยะห่าง ร้อยละ 92 ในส่วนของแคดดี้มีความรอบรู้ด้านสุขภาพต่อการป้องกันโรคโควิด-19 ในระดับเพียงพอ ร้อยละ 69.1 โดยมีการสวมหน้ากาก ร้อยละ 98.8 ล้างมือ ร้อยละ 79 และเว้นระยะห่าง ร้อยละ 83.4

นายแพทย์สราวุฒิ กล่าวต่อไปว่า สนามกอล์ฟทุกแห่งยังคงต้องคุมเข้มมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง โดยจัดให้มีระบบลงทะเบียนก่อนเข้าและออกจากสถานที่ด้วยการใช้แอปพลิเคชันที่ทางราชการกำหนด “ไทยชนะ” พร้อมทั้งชี้แจงพนักงานและให้คำแนะนำกับผู้ใช้บริการสามารถลงทะเบียนก่อนเข้าและออกจากสถานที่ได้ หรือใช้มาตรการควบคุมด้วยการบันทึกข้อมูลและรายงานทดแทน เช่น แบบลงทะเบียนก่อนเข้าและออกจากสถานที่กรณีผู้ใช้บริการไม่มีสมาร์ทโฟน เพื่อประโยชน์ต่อการติดตามกรณีพบผู้ป่วยและผู้สัมผัสที่มาใช้บริการในสถานที่ รวมทั้งจำกัดทางเข้าและออกเพียงช่องทางเดียว และจัดให้มีจุดตรวจ คัดกรองอาการไข้ ไอ หอบเหนื่อย เป็นหวัด และจุดบริการล้างมือด้วยสบู่หรือแอลกอฮอล์เจล 70 เปอร์เซ็นต์ หรือน้ำยาฆ่าเชื้อโรคในบริเวณพื้นที่บริการต่าง ๆ และงดใช้ห้องอาบน้ำและห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า

“นอกจากนี้ ควรมีการตรวจสอบและจัดการพื้นที่ให้บริการ เพื่อคำนวณจำนวนผู้ใช้บริการให้เป็นไปตามมาตรการ ลดความแออัด โดยจำกัดจำนวนผู้ใช้บริการหรือนักกีฬาที่ออกกำลังกายหรือฝึกซ้อม ตามเกณฑ์ขนาดพื้นที่ให้บริการอย่างน้อย 5 ตารางเมตรต่อผู้ใช้บริการ 1 คน และผู้ใช้บริการหรือนักกีฬาที่ไม่ได้ออกกำลังกายหรือฝึกซ้อม ตามเกณฑ์ขนาดพื้นที่ให้บริการ อย่างน้อย 4 ตารางเมตรต่อผู้ใช้บริการ 1 คน จำกัดระยะเวลาในการเข้าใช้บริการไม่เกิน 2 ชั่วโมงต่อคน และควรจัดให้มีการ เหลื่อมเวลาการให้บริการ หรือจัดรอบการเข้าใช้บริการด้วยระบบคิวจองเวลาในการใช้บริการล่วงหน้าแบบออนไลน์ หรือทางโทรศัพท์ โดยถือหลักหลีกเลี่ยงการติดต่อสัมผัสระหว่างกัน โดยมีการรวมกลุ่มไม่เกิน 50 คน” นายแพทย์สราวุฒิ กล่าว

รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวในตอนท้ายว่า สำหรับพนักงาน เจ้าหน้าที่ และแคดดี้ ขณะปฏิบัติงานให้สวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่ให้บริการ หมั่นล้างมือด้วยสบู่และน้ำหรือเจลแอลกอฮอล์หลังจากสัมผัสพื้นผิวต่างๆ และหลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้า ตา ปาก จมูก โดยไม่จำเป็น ในขณะออกรอบ แคดดี้ควรหยิบจับอุปกรณ์บริเวณปลายหัวไม้หรือหัวเหล็กยื่นให้กับผู้ใช้บริการทุกครั้ง เว้นระยะห่างระหว่างผู้ใช้บริการกับผู้ให้บริการอย่างน้อย 1-2 เมตร ในส่วนของผู้ใช้บริการควรลงทะเบียน กรอกประวัติทุกครั้ง ขณะใช้บริการต้องสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย ไม่ควรจับกลุ่มพูดคุยกันเป็นเวลานานๆ และหากมีไข้ ไอ จาม มีน้ำมูก หรือเหนื่อยหอบ ควรงดใช้บริการ ทั้งนี้ ขอให้สถานประกอบการประเภทสนามกอล์ฟทุกแห่งประเมินตนเองผ่านแพลตฟอร์ม Thai Stop COVID Plus ด้วย