รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ชื่นชม จังหวัดนครราชสีมา ทุกภาคส่วนรวมใจเป็นหนึ่งเดียวจัดระบบบริการวัคซีนโควิด ใช้ 2 ห้างดัง เป็นที่ฉีดวัคซีน วางระบบหมุนเวียนเข้ารับบริการดี 600 คนต่อชั่วโมง ชื่นชมให้เป็นโมเดล ปรับใช้กับจังหวัดอื่นๆ ด้านชาวโคราช มั่นใจ พร้อมใจฉีดวัคซีนถ้วนหน้า
วันนี้ (22 พ.ค.) ที่ จังหวัดนครราชสีมา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา และผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข ตรวจเยี่ยมจุดบริการวัคซีนโควิดให้กับประชาชน โดย นายอนุทิน กล่าวว่า จากการตรวจเยี่ยมจุดบริการวัคซีนโควิดจังหวัดนครราชสีมา ได้รับการสนับสนุนพื้นที่จากห้างสรรพสินค้าทั้ง 2 แห่ง คือ เซ็นทรัลพลาซ่า นครราชสีมา และเดอะมอลล์โคราช เป็นที่น่าพอใจมาก ซึ่งเป็นระบบริการนอกสถานพยาบาลที่ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมาได้วางไว้ โดยได้ความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้ง โรงพยาบาลจากทุกสังกัดในจังหวัด ฝ่ายปกครอง สถาบันการศึกษา และภาคเอกชน มีการบูรณาการการทำงานร่วมกัน อย่างเห็นได้ชัด วางระบบ One way เข้าออกทางเดียว ทำให้เกิดการหมุนเวียนของผู้เข้ารับบริการไม่แออัด มีความสามารถในการฉีดได้ 600 คนต่อชั่วโมงต่อแห่ง ซึ่งจะให้ระบบนี้เป็นโมเดลหนึ่งที่จะนำมาปรับใช้ยังหน่วยบริการต่างๆ เมื่อวัคซีนมีมากขึ้น พร้อมผลักดันให้ประชาชนในประเทศได้รับการฉีดวัคซีนโดยเร็วที่สุด
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ด้านประชาชนในจังหวัดนครราชสีมา ให้ความร่วมมือพร้อมใจเข้ารับบริการฉีดวัคซีนกันถ้วนหน้า เช่น จุดบริการที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลพลาซา นครราชสีมา ที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาเป็นผู้บริหารจัดการ เปิดบริการประชาชนตั้งแต่วันที่ 19-21 พฤษภาคม 2564 รวม 3 วัน มีประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีนแล้ว 10,002 คน ส่วนที่ ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ก็มีประชาชนหลั่งไหลเข้ารับบริการจำนวนมาก ภาพรวมของจังหวัดมีประชาชนที่ฉีดเข็ม 1 แล้วจำนวน 30,651 คน เข็มที่ 2 จำนวน 19,372 คน ซึ่งเป็นไปตามจำนวนของวัคซีนที่ได้จัดสรรมา และในช่วงที่วัคซีนมามากขึ้นได้ตั้งเป้าหมายไว้ว่า จะต้องฉีดวัคซีนให้กับประชาชนชาวโคราชให้ได้ร้อยละ 70 ของประชากร หรือประมาณ 1,885,023 คน โดยจะฉีดให้ได้วันละประมาณ 30,000 คนในส่วนกลุ่มผู้ป่วยติดบ้านติดเตียงที่มีอยู่ในระบบประมาณ 11,000 คน จะมีทีมแพทย์ รวมถึงระบบ 3 หมอคอยดูแลให้เข้าถึงการฉีดวัคซีน หากเป็นไปตามแผน 50 วันจะครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะได้รับการฉีดวัคซีนแล้วยังมีโอกาสที่จะติดเชื้อได้อยู่ แต่จะไม่มีอาการที่รุนแรง และไม่เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ขอให้ยังคงเข้มมาตรการป้องกันตัวเอง สวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่างล้างมือบ่อยๆ เพื่อความปลอดภัยของทุกคน
นอกจากนี้ นายอนุทิน ได้ให้กำลังใจบุคลากรการแพทย์และเจ้าหน้าที่ จิตอาสา ที่ปฏิบัติหน้าที่ให้บริการประชาชน ณ จุดฉีดวัคซีนโควิด-19 ว่า ภารกิจนี้แม้ว่าจะเป็นหน้าที่ที่จำเป็นต้องทำ แต่สำคัญกว่านั้นคือความเสียสละความอดทนในการที่จะให้บริการฉีดวัคซีนประชาชน เพื่อที่จะทำให้ทุกคนผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปได้ สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติโดยเร็วที่สุด