ศบค.หารือถึง“คลัสเตอร์ รพ.บ้านโป่ง” จ.ราชบุรี ที่มีการติดเชื้อในโรงพยาบาล โดยผู้ติดเชื้อรายแรกที่พบ เป็นหญิงอายุ 31 ปี เป็นญาติของผู้ป่วยที่เข้าไปเฝ้าแม่ในวอร์ดของผู้ป่วยอายุรกรรมหญิง ทำให้ผู้ป่วยรายอื่น เจ้าหน้าที่ และญาติเจ้าหน้าที่ติดเชื้อรวมกันแล้ว 30 ราย ปัจจัยเสี่ยงไม่มีการแยกผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจ เสนอมาตรการปิดวอร์ดถึงวันที่ 24 พ.ค. และให้มีการทบทวนเรื่องการคัดแยกผู้ป่วย
วันนี้ (16 พ.ค.) พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์ประจำวันตอนหนึ่งระบุว่า เปิดเผยถึงสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ใน จ.ราชบุรี กรณีคลัสเตอร์ ตึกอายุรกรรมหญิง โรงพยาบาลบ้านโป่ง ใน จ.ราชบุรี ซึ่งมีจุดเริ่มจาก Index case หรือ ผู้ป่วยยืนยันรายแรก ซึ่งเป็นหญิงอายุ 73 ปี ซึ่งมีอาการป่วย ถ่ายเหลว เข้ารับการรักษาเมื่อวันที่ 22 เมษายน ต่อมาในวันที่ 30 เมษายน ทราบว่า ลูกชายกลับจากนนทบุรี ตรวจพบเชื้อ แต่ในระหว่างนั้น หญิงวัย 62 ปี ซึ่งรับจ้างมาเฝ้าไข้ มักพูดคุยกับญาติและผู้ป่วยเตียงอื่นๆ ทำให้มีการติดเชื้อไปยังญาติที่มาเฝ้ารายอื่นๆ เจ้าหน้าที่ และผู้ป่วย 12 ราย ส่งผลให้กลุ่มก้อนแรกมีการติดเชื้อ 17 ราย ต่อมามีรายงานเพิ่มเติมเชื่อมโยงไปยังคนอื่นๆ ส่งผลให้มีผู้ติดเชื้อรวม 30 ราย เสียชีวิต 4 ราย จึงเสนอมาตรการปิดวอร์ดถึงวันที่ 24 พ.ค. 2564 และให้มีการทบทวนเรื่องการคัดแยกผู้ป่วย โดยเฉพาะผู้ป่วยทางเดินทางหายใจออกจากผู้ป่วยอื่น
ทั้งนี้ จากกรณีที่เกิดขึ้น มีปัจจัยเสี่ยง คือ ไม่มีการแยกผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจกับผู้ป่วยทั่วไป จำนวนเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอทำให้จำเป็นต้องมีญาติเฝ้าผู้ป่วยทุกเตียง ญาติบางเตียงมีการเดินไปพูดคุยกับผู้ป่วย ญาติเตียงอื่น และเจ้าหน้าที่หลายราย รวมทั้งมีการรับประทานอาหารร่วมกันที่ระเบียงหอผู้ป่วย สิ่งแวดล้อมในหอผู้ป่วยค่อนข้างแออัด