วันนี้ (12 พ.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์ประจำวัน ตอนหนึ่งระบุว่า ที่ประชุมยังได้มีการสรุปเรื่องการฉีดวัคซีน โดยกระทรวงอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ได้รายงานว่า วันที่ 10 พ.ค.มีผู้ฉีดวัคซีนไปแล้ว 1,809,894 โดส เข็มที่ 2 มีประชาชนได้รับวัคซีนไปแล้ว 513,454 ราย
พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ในสัปดาห์นี้จะมีการระดมอาชีพสาธารณะผู้ที่ขับขี่รถ เรือ เครื่องบิน ครู พนักงานเก็บขยะ จะมีการระดมให้ฉีดวัคซีนในช่วงระยะแรกไปพร้อมกับผู้สูงอายุและผู้มีประวัติมีโรคประจำตัว โดย พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะ ผอ.ศปก.ศบค.ได้ย้ำนโยบายที่นายกรัฐมนตรีได้ประกาศไว้ก่อนหน้านี้ คือ คนไทย 70% จะได้รับวัคซีนภายในเดือน ธ.ค. 64 โดยรวมแล้วคือประชาชน 50 ล้านคน ทางกระทรวงสาธารณสุขจัดหาวัคซีนเตรียมไว้ 100 ล้านโดส พร้อมเน้นย้ำไปยังกระทรวงมหาดไทยให้ส่งถึงผู้ว่าราชการจังหวัด และคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ทั้งรัฐและเอกชน ให้กระจายวัคซีนให้ได้ตามแผน
ดังนั้น ตอนนี้ทุกจังหวัดเริ่มมาตรการนี้แล้ว โดยแยกตามประชากรของแต่ละจังหวัด และรวมถึงประชากรแฝงในพื้นที่ที่อาจจะมีบ้างด้วย ดังนั้น โดยคร่าวๆ ในเดือน ก.ย.จังหวัดจะดำเนินการฉีดวัคซีนแล้วเสร็จ 70% และฉีดเข็มที่ 2 ให้ทันในเดือน ธ.ค.โดยทาง ศบค.จะติดตามการกระจายวัคซีนให้เป็นไปตามแผนการป้องกันการแพร่ระบาดของกระทรวงสาธารณสุข
เมื่อถามถึงข้อห่วงใยของสถานที่ให้บริการฉีดวัคซีนที่ค่อนข้างมีความแออัด และไม่มีการจัดระเบียบ จึงเป็นห่วงว่าจะทำให้เกิดผลกระทบอื่นๆ ตามมา พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ทาง ศบค.ได้แจ้งไปทาง กทม.และสำนักงานเขตแล้ว ซึ่งทุกภาคส่วนได้รับเรื่องและให้คำมั่นว่าจะมีการจัดการให้เป็นระบบที่ดียิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม ขอฝากประชาชนให้เฝ้าระวังตัวเองด้วย เวลาที่เข้าไปรับบริการตรวจหาเชื้อหรือไปฉีดวัคซีน ถ้าเห็นการจัดการที่อาจจะไม่เหมาะสม หรือคิดว่าน่าจะสามารถพัฒนาให้ดีกว่านี้ได้ ขอให้รายงานเข้ามา สิ่งเหล่านี้ถือเป็นการที่เราต้องช่วยกันพัฒนาให้เกิดความราบรื่น เพื่อให้ประชาชนได้รับการดูแลให้ปลอดภัย ทั้งนี้ เชื่อว่า แต่ละเขตจะสามารถจัดการให้ดีขึ้นนับจากนี้ได้