อว. เผยฉีดวัคซีนทั่วโลกแล้ว 1,280 ล้านโดส ใน 195 ประเทศ-เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 35.19 ล้านโดส ไทยฉีดแล้วมากกว่า 1.74 ล้านโดส
เมื่อวันที่ 9 พ.ค. กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 1,259 ล้านโดส ใน 195 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 19.4 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อพิจารณารายประเทศพบว่าอิสราเอลได้ฉีดวัคซีนครอบคลุมเกินครึ่งของประชากรแล้ว ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 257 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 113 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว
ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 33.4 ล้านโดส โดยสิงคโปร์ฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (19.5% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 21.97 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 9 พฤษภาคม 2564 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 1,743,720 โดส โดยฉีดให้กับบุคลากรการแพทย์และสาธารณสุขมากที่สุดในสัดส่วนกว่า 49.5%
ในการฉีดวัคซีน จำนวน 1,259 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ
1. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 3 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 60% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก
1. จีน จำนวน 308.23 ล้านโดส (11% ของจำนวนการฉีดทั่วโลก)
2. สหรัฐอเมริกา จำนวน 257.35 ล้านโดส (40.1%)
3. สหภาพยุโรป จำนวน 170.59 ล้านโดส (19.2%)
2. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)
1. อิสราเอล (58% ของประชากร) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
2. มัลดีฟส์ (57.6%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford และ Sinopharm )
3. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (51.8%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)
4. บาห์เรน (45.4%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
5. ชิลี (40.8%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
6. สหรัฐอเมริกา (40.1%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ Johnson&Johnson)
7. สหราชอาณาจักร (39.2%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford Moderna และ Pfizer/BioNTech)
8. ฮังการี (33.8%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
9. ภูฏาน (32.3%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford)
10. กาตาร์ (32%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech)
3. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค
1. เอเชียและตะวันออกกลาง 49.47%
2. อเมริกาเหนือ 23.31%
3. ยุโรป 18.31%
4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 7.01%
5. แอฟริกา 1.66%
6. โอเชียเนีย 0.24%
4. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 22,984,902 โดส ได้แก่
1. สิงคโปร์ จำนวน 2,213,888 โดส (19.5% ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer และ Moderna
2. กัมพูชา จำนวน 2,826,589 โดส (8.2% ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm
3. อินโดนีเซีย จำนวน 21,975,503 โดส (4% ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac
4. ลาว จำนวน 458,488 โดส (3.1% ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm
5. มาเลเซีย จำนวน 1,727,268 โดส (2.6% ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer และ Sinovac
6. ไทย จำนวน 1,743,720 โดส (1.3% ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac และ AstraZeneca
7. บรูไน จำนวน 10,715 โดส (1.2% ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca
8. ฟิลิปปินส์ จำนวน 2,395,494 โดส (1.1% ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac และ AstraZeneca
9. พม่า จำนวน 1,040,000 โดส (1% ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca
10. เวียดนาม จำนวน 801,957 โดส (0.4% ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca
5. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 9 พฤษภาคม 2564
จัดสรรวัคซีนแล้วทั้งหมด 2,427,452 โดส
จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 1,743,720 คน ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
-เข็มแรก 1,273,666 โดส
-เข็มสอง 470,054 โดส