รมว.ศึกษาธิการไทย ร่วมถกวาระอนาคตประเทศสมาชิกซีมีโอ เพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนแห่งสหประชาชาติ ภายในปี ค.ศ.2030 เสริมสร้างสมรรถนะของเยาวชนในยุคอัลฟ่า ไทยนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆมาพลิกโฉมระบบการศึกษา ฝ่าวิกฤตโควิด-19
น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ( รมว.ศธ.) เปิดเผยว่า ในการประชุม SEAMEO Congress 2021 หัวข้อ “Transforming Southeast Asian Education, Science and Culture in the Digital Age” ผ่านระบบการประชุมทางไกล ซึ่งมีผู้เข้าร่วมประชุมประมาณ 9,500 คน จาก 11 ประเทศสมาชิกขององค์การรัฐมนตรีศึกษาแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ ซีมีโอ (SEAMEO) เมื่อเร็วๆ นี้ ตนได้กล่าวถึงความสำคัญของเทคโนโลยีดิจิทัลต่อชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในช่วงการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) รวมถึงความท้าทายของโลกในยุค VUCA ได้แก่ Volatility – ความผันผวนสูง, Uncertainty – ความไม่แน่นอนสูง, Complexity – ความซับซ้อน และ Ambiguity – ความคลุมเครือ ที่มีการผันผวนเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งส่งผลกระทบต่อการพัฒนาประเทศในทุกมิติ รวมถึงการปฏิวัติอุตสาหกรรม ครั้งที่ 4 หรืออุตสาหกรรม 4.0 ที่ก่อให้เกิดปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI โดยมีความเป็นไปได้ในการนำ AI มาใช้แทนการทำงานของมนุษย์ และเพื่อให้โลกดำรงอยู่ได้อย่างยาวนานและมีความยั่งยืน เราต้องร่วมมือกันในการสำรวจทิศทางและนวัตกรรมใหม่ๆ สำหรับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ อีกทั้งโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบอย่างมากต่อภาคการศึกษา และเป็นอุปสรรคต่อนักวิชาการ นักวิจัย และบุคลากรทางการศึกษา ดังนั้น เราจำเป็นต้องพิจารณาแสวงหาแนวทางที่จะส่งเสริมการพัฒนาสังคมและสร้างความตระหนักรู้เพื่อนำไปสู่ การบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ ตนยังได้กล่าวในการประชุมเต็มคณะ ช่วงที่ 5 หัวข้อ “Southeast Asian Education and Future’s Agenda” ถึงการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และสังคม ซึ่งเป็นวาระอนาคตของประเทศสมาชิกซีมีโอเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนแห่งสหประชาชาติ ภายในปี ค.ศ.2030 ด้วยว่า ไทยให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพการศึกษาในทุกระดับ ซึ่งรวมถึงการเข้าถึงโอกาสทางการศึกษาของเด็กด้อยโอกาสและเด็กที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษ โดยเฉพาะการเน้นผู้เรียนเป็นเป้าหมายแห่งการพัฒนา หรือ Student Centricity โดย ศธ.มีแนวทางปรับปรุงหลักสูตรแกนกลางที่เน้นการจัดการเรียนการสอนแบบ active learning เพื่อให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการคิด ทำ และเกิดการเรียนรู้พร้อมนำไปปฏิบัติในสถานการณ์จริงได้ รวมทั้งส่งเสริมการเรียนในรายวิชาประวัติศาสตร์ไทยและหน้าที่พลเมือง เพื่อสร้างผู้เรียนให้มีทักษะความเป็นพลเมืองโลก ตลอดจนพัฒนาด้านอาชีวศึกษาให้มีคุณภาพยิ่งขึ้นเพื่อเสริมสร้างทักษะอาชีพให้กับเยาวชนในการหารายได้เลี้ยงชีพ สามารถพึ่งพาตนเองและแข่งขันกับผู้อื่นได้ในระดับโลก
“ได้มีการพูดถึงการพลิกโฉมระบบการศึกษาของไทย โดยการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ มาช่วยเอื้อต่อการออกแบบการจัดการเรียนการสอนในห้องเรียนทุกระดับ ซึ่งการศึกษาทางไกล ถือเป็นตัวอย่างหนึ่งที่เปรียบเสมือนเวทีแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิตบนพื้นฐานของการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อส่งเสริมเยาวชนให้มีทักษะดิจิทัลในการดำเนินชีวิตประจำวัน รวมทั้งการจัดการเรียนการสอนโค้ดดิ้ง ที่เน้นให้ผู้เรียนมองเห็นปัญหาจากหลากหลายแง่มุม ซึ่งจะเป็นการยกระดับทักษะการคิดวิเคราะห์ ทั้งนี้ ศธ.ได้มุ่งเสริมสร้างศักยภาพครูด้านทักษะภาษาและทักษะดิจิทัล โดยคัดเลือกครูแกนนำที่มีทักษะคอมพิวเตอร์อยู่ในระดับดี เข้าร่วมโครงการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาศักยภาพครูในเรื่องการรู้ดิจิทัลแล้ว” น.ส.ตรีนุช กล่าว
รมว.ศธ.กล่าวด้วยว่า ตนชื่นชมการดำเนินงานของสำนักงานเลขาธิการซีมีโอภายใต้ข้อริเริ่มโครงการ SEAMEO CARES และแผนยุทธศาสตร์ใหม่ของซีมีโอ (ปี 2564-2573) ซึ่งเน้นย้ำถึงการดำเนินข้อพันธกิจร่วมกันของประเทศสมาชิกซีมีโอในการปรับรูปแบบการพัฒนาของภูมิภาคให้ปรากฎเป็นจริงขึ้นมาได้ในยุคหลังโควิด-19 ซึ่งสิ่งสำคัญประการหนึ่ง คือ การเตรียมความพร้อมให้แก่เยาวชนด้านการศึกษาในชีวิตวิถีใหม่ หรือ New Normal in education โดยสามารถเข้าถึงการศึกษาได้อย่างครอบคลุมและเติบโตเป็นผู้ที่มีความรู้คู่คุณธรรม ซึ่งจะเป็นการเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี ทั้งนี้ หากมีแนวทางปฏิบัติที่ถูกต้อง การนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้จะไม่ใช่อุปสรรคต่อการพัฒนา แต่จะช่วยให้เกิดมิติใหม่ทางด้านการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมที่เสริมสร้างสมรรถนะของเยาวชนและผู้เรียนในยุคอัลฟา (Alpha generation learners) ให้มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ที่ดีขึ้น และแน่นอนว่า การลงทุนด้านการศึกษาอย่างต่อเนื่องนั้น สำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาอนาคตของผู้เรียนในยุคอัลฟ่า และขอให้มั่นใจว่า ผู้เรียนจะต้องได้กลับเข้าเรียนในโรงเรียนดังเดิมโดยเร็วที่สุด
รมว.ศธ. กล่าวอีกว่า ตนได้แสดงความยินดีในโอกาสเปิดตัวศูนย์ระดับภูมิภาคของซีมีโอแห่งใหม่ ในไทย จำนวน 2 ศูนย์ ได้แก่ ศูนย์ระดับภูมิภาคว่าด้วยปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อความยั่งยืนของซีมีโอ และศูนย์ระดับภูมิภาคว่าด้วยสะเต็มศึกษาของซีมีโอ ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการ จะส่งเสริมให้ทั้ง 2 ศูนย์มีบทบาทสนับสนุนพัฒนาการศึกษาของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตลอดจนผลักดันการดำเนินงานด้านการศึกษาให้สอดรับกับความท้าทายของโลกในศตวรรษที่ 21 และเชื่อมั่นว่า ศูนย์และเครือข่ายระดับภูมิภาคของซีมีโอทั้ง 6 แห่งในประเทศไทย ได้แก่ ศูนย์ซีมีโอไรเฮด ศูนย์ซีมีโอสปาฟา ศูนย์ซีมีโอทรอปเมด ศูนย์ซีมีโอเซฟส์ ศูนย์ซีมีโอสะเต็มเอ็ด และเครือข่ายซีมีโอทรอปเมด จะสามารถช่วยเหลือและสนับสนุนการดำเนินโครงการและกิจกรรมต่าง ๆ ของสำนักงานเลขาธิการซีมีโอได้อย่างเต็มที่