ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในรอบ 24 ชั่วโมง ที่ผ่านมา พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 1,583 ราย ในจำนวนผู้ที่ยังรักษาอยู่ มีอาการหนัก 871 คน ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ 250 คน เสียชีวิตอีก 15 คน ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 65,153 ราย จำนวนผู้เสียชีวิตนับแต่เริ่มระบาดรวม 203 ราย
วันนี้ (30 เม.ย.) เมื่อเวลา 07.00 น. ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมของประเทศไทย ประจำวันที่ 30 เมษายน 2564 ดังนี้
พบจํานวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่เพิ่มขึ้น 1,583 ราย จำนวนผู้ติดเชื้อสะสม 65,153 ราย มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 15 คน ยอดสะสม 203 ราย
ทำให้การระบาดระลอกใหม่ตั้งแต่เดือนเมษายน 2564 ตั้งแต่ 1 เมษายน - 29 เมษายน 2564 มีผู้ป่วยยืนยันสะสม 36,290 ราย เสียชีวิตสะสม 109 ราย
ต่อมาเมื่อเวลา 11.30 น. แพทย์หญิงพรรณประภา ยงค์ตระกูล ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด-19 หรือ
ทั้งนี้ จำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมในประเทศ ล่าสุดอยู่ที่ 65,153 ราย แบ่งเป็น ผู้ป่วยที่ติดเชื้อภายในประเทศ 39,758 ราย ตรวจคัดกรองเชิงรุก 22,087 ราย ส่วนผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 3,308 ราย โดยมีผู้ป่วยรักษาหายแล้ว 36,254 ราย เพิ่มขึ้น 860 ราย กำลังรับการรักษา 28,696 ราย อาการหนัก 871 ราย ยอดเสียชีวิตสะสมเพิ่มเป็น 203 ราย
โดยผู้เสียชีวิตแบ่งเป็นผู้ป่วยชาย 9 ราย และผู้ป่วยหญิง 6 ราย แบ่งเป็น กรุงเทพมหานคร 9 ราย ชลบุรี พัทลุงสุราษฎร์ธานี นครปฐม ราชบุรี และประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดละ 1 ราย พบโรคประจำตัวความเสี่ยง คือ ความดันโลหิตสูง 8 ราย, เบาหวาน 4 ราย,โรคหัวใจ 4 ราย,ไขมันในเลือดสูง 1 ราย, โรคหลอดเลือดสมอง 3 ราย ปอดเรื้อรัง 1 ราย, อ้วน 1 ราย ไตเรื้อรัง 3 ราย,เป็นผู้ป่วยติดเตียง 2 ราย ติดบ้าน 1 ราย และปฏิเสธโรคไม่ทราบสาเหตุจำนวน 2 ราย ปัจจัยเสี่ยงต่อการติดเชื้อ คือ ใกล้ชิดสมาชิกครอบครัวที่ติดเชื้อ 6 ราย, สัมผัสใกล้ชิดเพื่อนร่วมงาน 2 ราย, สัมผัสผู้ติดเชื้อในสถานบันเทิง 2 ราย, สัมผัสผู้ดูแลผู้ป่วยติดเตียงที่ติดเชื้อ 2 ราย และไม่ทราบประวัติเสี่ยง 3 ราย
ซึ่งผู้ติดเชื้อรายใหม่แบ่งเป็นผู้ติดเชื้อในประเทศ 1,579 ราย เป็นผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจากต่างประเทศเข้า State Quarantine 4 ราย เป็นการค้นหาเชิงรุก/โรงงาน 213 ราย และเข้าระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯ 1,366 ราย
ทั้งนี้ ยอดการฉีดวัคซีนในประเทศไทยสะสม 1,411,614 โดส แบ่งเป็นฉีดวัคซีนเข็มแรก 1,075,756 เพิ่มขึ้น 16,0035 ราย และเข็มที่สองจำนวน 335,858 ราย เพิ่มขึ้น 50,933 ราย