"ศ.นพ.ยง" ระบุโควิด-19 สายพันธุ์อินเดียยังไม่เข้าไทย เตือนไทยเกิดระบาดหนักอาจกลายพันธุ์ ทำให้ประสิทธิภาพของวัคซีนลดลง ระบุการระบาดในไทยขณะนี้ร้อยละ 98 เป็นสายพันธุ์อังกฤษ ส่วน จ.สมุทรสาคร ลดน้อยลงมาก
วันนี้ (25 เม.ย.) ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ระหว่างร่วมแถลงสถานการณ์โรคโควิด-19 ว่า ถ้าไวรัสมีการแพร่ระบาดมาก ทั้งอังกฤษ อินเดีย บราซิล และแอฟริกา เมื่อมีการแตกลูกหลานมากเท่าไร โอกาสเกิดการผ่าเหล่า แหวกแนวก็มีสูง
การป้องกันการกลายพันธุ์ได้ดีคืออย่าให้ระบาด ยิ่งระบาดมากก็กลายพันธุ์ได้มาก อย่างอังกฤษ มีการระบาดมากในช่วงเดือนธันวาคม 2563 จึงเกิดสายพันธุ์อังกฤษขึ้นมา โดยกลายพันธุ์ในตำแหน่งที่จับกับเซลล์มนุษย์ได้เร็วขึ้น อย่างเช่น จากเดิมไวรัสต้องลอยมา 100 ตัว จึงจะติดเชื้อ แต่สายพันธุ์อังกฤษ อาจเหลือแค่ 50 ตัว ก็ติดเชื้อได้ ทำให้ติดง่ายขึ้น เราก็เฝ้าระวังอยู่ เพราะเรารู้ว่าหลังจากระบาดอังกฤษ เข้ายุโรป อเมริกา ทำให้ยุโรปเกิดระลอก 2 และ 3 จนมีล็อกดาวน์ในฝรั่งเศส และเยอรมนี แต่สายพันธุ์อังกฤษก็ยังเล็ดลอดมาบ้านเรา จากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งการระบาดในไทยบอกได้ว่าร้อยละ 98 เป็นสายพันธุ์อังกฤษ ส่วน จ.สมุทรสาคร ลดน้อยลงมาก
ศ.นพ.ยงกล่าวเพิ่มเติมว่า ส่วนสายพันธุ์อินเดียไม่เหมือนสายพันธุ์อังกฤษ เพราะตำแหน่งที่ทำให้เกิดการแพร่ระบาดง่ายในสายพันธุ์อินเดีย ไทยยังไม่พบ แต่สายพันธุ์อินเดียพบว่า มี 2 ตำแหน่งที่ทั่วโลกให้ความสนใจ คือ ทำให้ประสิทธิภาพของวัคซีนลดลง ซึ่งจับตามองกันอยู่ แต่ยังไม่ได้พิสูจน์ว่าจริงหรือไม่ ทั้งนี้ทฤษฎีตำแหน่งนี้อาจมีผลให้ลดลงได้ ดังนั้น จึงจำเป็นต้องเฝ้าระวัง
ศ.นพ.ยง กล่าวว่า อย่างทุกคนที่เดินทางมาจากอินเดียก็เข้าสถานที่รัฐจัดให้ (Quanrantine) ทั้งหมด รวมทั้งชายแดน หากมีการป้องกันดีก็จะไม่หลุดมา แต่ขณะเดียวกันก็ต้องเฝ้าระวังสายพันธุ์กลายพันธุ์ในบ้านเราเองด้วย อย่างกรณีหากระบาดมาก จากรุ่นลูกไปลูกหลาน ส่งต่อจากคนที่ 1 ไปคนที่ 2 คนที่ 2 แพร่ไปคนที่ 3 และไปติดคนที่ 4 พอไปถึงคนที่ 5 และ 6 ก็อาจมีการกลายพันธุ์ก็ได้ หากการกลายพันธุ์แพร่ง่ายก็จะยิ่งกระจายไปกว่าสายพันธุ์ดั้งเดิม
"หากจะลดการกลายพันธุ์ได้ คือทุกคนต้องช่วยกันด้วยการมีระเบียบวินัยอย่างเคร่งครัด สวมหน้ากากอนามัย 100% ก็ต้องทำจริง กำหนดไม่ให้มีการรวมกลุ่มคนจำนวนมากก็ต้องปฏิบัติตาม หมั่นล้างมือ ซึ่งการจะยุติโรคระบาดได้ต้องร่วมกันทุกคน สิ่งสำคัญสิ่งหนึ่งที่จะมาช่วยได้คือวัคซีน เมื่อถึงคิวการฉีดขอให้ช่วยกันไปฉีด เพราะหากเราป้องกันได้ เราก็จะสามารถป้องกันคนรอบข้างเราได้" ศ.นพ.ยงกล่าว ทิ้งท้าย