ศบค.รายงานพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่ม 2,070 ราย ติดเชื้อภายในประเทศ 2,062 ราย ตรวจพบในระบบเฝ้าระวังและบริการ 1,902 ราย ค้นหาเชิงรุก 160 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 8 ราย ยอดสะสม 50,183 ราย เสียชีวิตเพิ่มอีก 4 คน รักษาหายป่วย 341 ราย
วันนี้ (23 เม.ย.) เวลา 11.35 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ ว่า พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 2,070 ราย เป็นผู้ติดเชื้อภายในประเทศ 2,062 ราย มาจากการตรวจในระบบเฝ้าระวังและบริการ 1,902 ราย และจากการค้นหาคัดกรองเชิงรุกในชุมชน 160 ราย จากผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานกักกัน 8 คน ส่วนผู้ป่วยรักษาหายเพิ่ม 341 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 4 คน
ส่งผลให้มีจำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมล่าสุดอยู่ที่ 50,183 ราย เป็นผู้ป่วยที่ติดเชื้อภายในประเทศ 46,929 ราย ติดเชื้อค้นหาคัดกรองเชิงรุกในชุมชน 21,074 ราย ผู้เดินทางจากต่างประเทศ 3,254 ราย สถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ 2,625 ราย ส่วนผู้ป่วยรักษาหายแล้วเพิ่มอีก 341 ราย รวมเป็น 30,189 ราย กำลังรักษาอยู่ในโรงพยาบาล 19,873 ราย โดยยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 121 ราย
โดยรายละเอียดผู้ป่วยยืนยันสะสมระลอกใหม่ตั้งแต่ 1-23 เม.ย. 2564 อยู่ที่ 21,320 ราย ติดเชื้อภายในประเทศ 16,151 ราย ค้นหาคัดกรองเชิงรุกในชุมชน 5,012 ราย ผู้เดินทางจากต่างประเทศ 157 ราย ยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 27 ราย
สำหรับตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่วันนี้ ถือเป็นสถิติยอดผู้ติดเชื้อรายวันที่สูงที่สุดตั้งแต่มีการระบาดของโควิด-19 เมื่อแยกยอดผู้ติดเชื้อรายจังหวัด สูงที่สุดคือ กรุงเทพมหานคร มีผู้ติดเชื้อถึง 740 คน รองลงมาคือ เชียงใหม่ 237 คน ชลบุรี 125 คน สมุทรปราการ 79 คน นครราชสีมา 69 คน สมุทรสาคร 48 คน ประจวบคีรีขันธ์ 44 คน ปทุมธานี 41 คน สุราษฎร์ธานี และระยอง ส่วนผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ พบว่า มีชาวอินเดียเข้าประเทศไทยและอยู่ในสถานกักกัน จนตรวจพบว่าติดเชื้อถึง 5 คน
สำหรับรายละเอียดผู้เสียชีวิต รายที่ 118 ชายไทย อายุ 72 ปี อยู่ที่ กทม. ปฎิเสธโรคประจำตัว เมื่อวันที่ 9-12 เม.ย.ไปจังหวัดภูเก็ต / วันที่ 13 เม.ย.เริ่มมีไข้ ไอ เจ็บคอ และถ่ายเหลว วันที่ 17 เม.ย. อาการไม่ดีขึ้นไปรับการรักษาที่โรงพยาบาล พบปอดอักเสบ / วันที่ 18 เม.ย. ผลตรวจพบติดเชื้อ มีอาการเหนื่อยหอบ แพทย์ใส่ท่อช่วยหายใจ และเสียชีวิตในวันที่ 20 เม.ย.
รายที่ 119 ชายไทย อายุ 74 ปี อยู่ที่สงขลา มีโรคประจำตัวความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ มีประวัติสัมผัสผู้ป่วยยืนยันเมื่อวันที่ 6 เม.ย. วันที่ 10 เม.ย.ผลตรวจพบว่าติดเชื้อ และเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเมื่อวันที่ 11 เม.ย. วันที่ 15 เม.ย.เอ็กซเรย์ปอดพบว่าอักเสบมากขึ้น วันที่ 22 เม.ย.หัวใจหยุดเต้น แพทย์ทำการกู้ชีพ และเสียชีวิตในวันเดียวกัน
รายที่ 120 หญิงไทย อายุ 29 ปี อยู่ที่สมุทรปราการ มีโรคประจำตัวโรคอ้วน มีประวัติสัมผัสผู้ป่วยยืนยันรายก่อนหน้าเมื่อวันที่ 10 เม.ย. เริ่มมีอาการไอ มีเสมหะ หอบเหนื่อย ในวันที่ 12 เม.ย. วันที่ 16 เม.ย.ผลตรวจพบเชื่อ วันที่ 18 เม.ย.เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล ต่อมามีภาวะหัวใจล้มเหลว ปอดอักเสบติดเชื้อรุนแรง และเสียชีวิตในวันที่ 22 เม.ย.
รายที่ 121 ชายไทย อายุ 83 ปี อยู่ที่สมุทรปราการ มีโรคประจำตัวเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไตเรื้อรัง และโรคหัวใจ มีประวัติสัมผัสผู้ป่วยยืนยัน และเข้ารับการตรวจหาเชื้อเมื่อวันที่ 8 เม.ย มีอาการไอ มีเสมหะ วันที่ 9 เม.ย.ผลตรวจพบว่าติดเชื้อ เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล วันที่ 10 เม.ย.อาการไม่ดีขึ้น พบปอดอักเสบรุนแรง ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ และเสียชีวิตเมื่อวันที่ 22 เม.ย.
จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด 10 อันดับแรก ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ได้แก่ กรุงเทพฯ 740 ราย เชียงใหม่ 237 ราย ชลบุรี 125 ราย สมุทรปราการ 79 ราย นครราชสีมา 69 ราย สมุทรสาคร 48 ราย ประจวบคีรีขันธ์ 44 ราย ปทุมธานี 41 ราย สุราษฎร์ธานี 38 ราย และระยอง 35 ราย