กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข แนะผู้อยู่ในระยะเฝ้าระวัง 14 วัน สร้างสุขภาพดีด้วยการออกกำลังกายด้วยวิธีง่ายๆ อยู่กับบ้าน พร้อมเลือกกินอาหารปรุงสุกใหม่ ครบหมู่ เพื่อเสริมภูมิคุ้มกัน หากเลือกสั่งดีลิเวอรีต้องปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด ลดการแพร่และกระจายเชื้อโควิด-19
วันนี้ (19 เม.ย.) นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า ประชาชนที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19 และอยู่ในระยะเฝ้าระวัง 14 วัน ควรหากิจกรรมที่ส่งเสริมต่อการสร้างสุขภาพที่ดีด้วยการออกกำลังกายอยู่กับบ้าน และควรทำความสะอาดอุปกรณ์ทั้งก่อนและหลังใช้ออกกำลังกายทุกครั้งด้วยน้ำสบู่หรือแอลกอฮอล์ 70 เปอร์เซ็นต์ แต่หากไม่มีอุปกรณ์หรือสถานที่ อาจเลือกการออกกำลังกายที่ไม่ต้องใช้อุปกรณ์มาก เช่น การเดินเร็วรอบๆ บ้าน กระโดดเชือก เต้นแอโรบิก โยคะ หรือการออกกำลังกายเพื่อฝึกความแข็งแรงของบอดี้เวท หรือเลือกใช้สิ่งของทดแทน เช่น การยกน้ำหนักโดยใช้ขวดน้ำแทน รวมถึงการทำงานบ้าน การเดิน เปิด YouTube ดูตัวอย่างการออกกำลังกายที่สามารถทำตามได้ทันทีโดยแต่ละครั้ง ขอให้ได้ถึงระดับที่เหนื่อยพอพูดเป็นประโยคสั้นๆ ได้ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 5 วัน วันละ 30 นาที หรือสมัครเข้าร่วมโครงการก้าวท้าใจ Season 3 โดยลงทะเบียนผ่าน Line @Thnvr ก็เป็นอีกหนึ่ง ทางเลือกเพื่อการออกกำลังกายสร้างสุขภาพดี
นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวต่อไปว่า ในส่วนของการกินอาหารในช่วงต้องเฝ้าระวัง 14 วัน นั้น สิ่งสำคัญคือ เลือกกินอาหารปรุงสุกใหม่ ถูกหลักโภชนาการ ยึดหลักการกินแบบครบหมู่ และเลือกกินอาหารเสริมภูมิคุ้มกัน ซึ่งประกอบด้วย วิตามิน และสารอาหารต่างๆ เช่น อาหารที่มีวิตามินซี จะช่วยการทำงานของเม็ดเลือดขาวในการขจัดเชื้อโรค ช่วยต้านภูมิแพ้ พบได้ในผักและผลไม้ต่าง ๆ เช่น ฝรั่ง มะขามป้อม มะเขือเทศ คะน้า พริกเขียวหวาน ส่วนอาหารที่มีวิตามินอีซึ่งมีสารช่วยต้านอนุมูลอิสระ พบในน้ำมันดอกทานตะวัน น้ำมันดอกคำฝอย น้ำมันรำข้าว มะม่วง มะขามเทศ บรอกโคลี ผักโขม มะเขือเทศ เป็นต้น และอาหารที่วิตามินดี ช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน พบในน้ำมันตับปลา ปลา เช่น ปลาตะเพียน ปลานิล ปลาทับทิม ไข่แดง ตับ นม เห็ด
“สำหรับอาหารประเภทที่เก็บได้นาน เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป อาหารกระป๋อง อาหารหมักดอง และอาหารตากแห้งนั้นอาหารเหล่านี้มักจะมีโซเดียมสูง จึงควรงดการปรุงรสด้วยเครื่องปรุงรสในอาหารชนิดนี้เพิ่มในขณะที่ปรุงอาหารและกินในปริมาณที่ไม่มากเกินไป ส่วนเนื้อสัตว์แช่แข็งให้นำมาวางไว้ในช่องธรรมดาก่อนเพื่อให้มีการคลายความเย็น ไม่ควรนำอาหารแช่แข็งไปแช่น้ำร้อนจะทำให้คุณค่าทางอาหารลดลง เมื่อปรุงอาหารเสร็จแล้วควรกินภายใน 4 ชั่วโมง และต้องคอยอุ่นอาหารเพื่อป้องกันอาหารบูดเสีย แต่หากสั่งแบบเดลิเวอรี เตรียมภาชนะรองรับอาหารให้พร้อม เช่น กล่องหรือโต๊ะพับได้ ขณะออกจากบ้านต้องสวมหน้ากากทุกครั้ง ยืนห่างจากผู้ให้บริการเดลิเวอรีอย่างน้อย 1 เมตร เลือกจ่ายค่าบริการด้วยวิธี e-payment หรือเตรียมเงินสดให้พอดีเพื่อลดความเสี่ยงในสัมผัสเงินทอน และหมั่นล้างมือบ่อยๆ” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว