อว.เผยคนกรุงการ์ดตกมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม 2564 เพิ่งมาเริ่มดีขึ้นหลังเกิดคลัสเตอร์ตลาดบางแค แต่ยังต้องเร่งสวมหน้ากากอนามัยเพิ่มขึ้นอีก ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ของไทย สะสมรวมแล้วจะทะลุ 30,000 ราย
วันนี้ (8 เม.ย.) ศาสตราจารย์ ดร.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยว่า จากการที่ อว.ติดตามประเมินการใส่หน้ากากอนามัยโดยใช้ระบบปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) มาตั้งแต่เดือนมกราคมเป็นต้นมานั้น ข้อมูลบ่งชัดเจนว่า คนกรุงเทพฯ ได้การ์ดตกมาเรื่อยๆ ในช่วง 3 เดือนนี้ โดยในวันที่ 22 มกราคม 2564 ที่เริ่มใช้ระบบเอไอนั้น มีผู้ที่ไม่ใส่หน้ากากอนามัยหรือใส่ไม่ถูกต้องเพียง 3.42% แต่เมื่อติดตามต่อเนื่องทุกวันพบอัตราการไม่ใส่หรือใส่หน้ากากไม่ถูกต้องเพิ่มสูงขึ้นเป็นลำดับ จนสูงถึง 8.38% (เพิ่มขึ้นถึง 2.5 เท่า) เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2564 ซึ่งเป็นวันที่มีการประกาศการระบาดจากคลัสเตอร์ตลาดบางแค
หลังจากที่พบการระบาดจากคลัสเตอร์ตลาดบางแค และต่อมาจากคลัสเตอร์สถานบันเทิง ประชาชนได้กลับมาใส่หน้ากากอนามัยสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีการไม่ใส่หรือใส่หน้ากากไม่ถูกต้องต่ำลงเป็น 3.59%
“ในวันนี้ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมรวมกันตั้งแต่เริ่มต้นจะทะลุระดับ 30,000 ราย ซึ่งภาพโดยรวมแล้ว พฤติกรรมของประชาชนในช่วง 2 สัปดาห์ล่าสุดนั้นมีแนวโน้มดีขึ้น แต่จากการพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากเหตุการณ์สถานบันเทิงและมีโอกาสจะกระจายในวงกว้างนั้น จึงอยากเน้นย้ำให้ระมัดระวังมากขึ้นอีก ใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือ และหลีกเลี่ยงการอยู่รวมกันมากๆ” ศ.นพ.ดร.สิริฤกษ์กล่าวย้ำ
“หลังจากที่ได้ใช้เทคโนโลยีเอไอประเมินมาได้ 3 เดือนตั้งแต่เดือนมกราคม เราพบว่าการใส่หน้ากากอนามัยลดลงชัดเจน ขณะนี้พบการติดเชื้อจำนวนมากในหลายๆที่ ทั้งในตลาดและสถานบันเทิง อย่างไรก็ตาม ใน 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาประชาชนได้ระมัดระวังมากขึ้น ให้ความร่วมมือมากขึ้น” ศ.ดร.ธนารักษ์ ธีระมั่นคง หัวหน้าทีมพัฒนาเอไอมาสค์กล่าวสมทบ