xs
xsm
sm
md
lg

ความกลัวที่ไร้ตัวตน ที่ซ่อนอยู่กับปัจจุบัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ภาพ pixabay.com
คุณเคยรู้สึกกลัวไหมคะ?

ความกลัวมาในหลายรูปแบบ กลัวตาย กลัวล้มเหลว กลัวที่จะอยู่คนเดียว กลัวถูกปฏิเสธ ความกลัวเหมือนรอยรั่วเล็ก ๆ บนบ้านหลังใหญ่ บ้านเปรียบเสมือนชีวิตที่มีโอกาสมีรอยร้าวรอยรั่วจากลม ฝน พายุได้ทุกเมื่อ หากเจ้าของบ้านไปจดจ่อกับรอยรั่วที่ใดที่หนึ่งมากเกินไป มันจะทำให้เจ้าของบ้านเสียเวลาที่จะใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในบ้านนั้น มิหนำซ้ำแล้ว รอยรั่วอื่น ๆ ก็ไม่ได้รับการป้องกัน โดยที่บ้านอาจจะมีรอยรั่วใหม่เกิดขึ้นโดยที่เจ้าของบ้านไม่ได้ใส่ใจและไม่ทันตั้งตัว

ความกลัวมาจากแรงผลักดันสองอย่างคือ อดีตกับอนาคต เรากลัวว่า อดีตอันปวดร้าวจะเกิดขึ้นซ้ำ และก็กลัวว่าเรื่องร้ายจะเกิดขึ้นอีก ความกลัวกับความเป็นจริงเป็นสิ่งที่แยกจากกันเด็ดขาด เรากลัวในสิ่งที่ไม่มีตัวตน มันคือสิ่งที่อธิบายยาก และยังไม่เกิดขึ้น ความกลัวกับเรื่องราวหรือสิ่งร้าย ๆ จะไม่ก่อเป็นความจริงอย่างแน่นอน หากเราใช้สติแยกให้ออกว่าอะไรคิดไปเอง อะไรคือเรื่องจริง ดังนี้ค่ะ

ความรู้สึกกลัวถูกทอดทิ้ง เราอาจมีความเชื่อว่า เราเข้าใจความกลัวนั้นดี เราเจอเองกับตัว "ความเหงาเหรอ ฉันเคยเจอมาแล้ว ฉันเข้าใจดีว่ามันรู้สึกแย่แค่ไหน" เราอาจเข้าใจความรู้สึกเหงาหรือถูกทอดทิ้ง เมื่อยามที่เราเคยอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมาย แต่รู้สึกว่าเราเข้ากับใครไม่ได้เหมือนถูกทิ้งให้อยู่คนเดียว ซึ่งความว้าเหว่ในวันนั้น (อดีต) หากเราไม่ปล่อยวาง และแยกแยะ มันจะกระทบให้เรารู้สึกเศร้าในวันนี้ (ปัจจุบัน) อย่างไม่มีเหตุผล และมีผลให้เรากลัวว่าพรุ่งนี้เราจะลืมมันไม่ได้ (อนาคต) เหล่านี้มันเป็นวงจรพัวพันผูกมัดชีวิตเราแน่นขึ้นทุกวัน จนทำให้เราไม่กล้าจะเผชิญหน้าในการใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ บางคนกลัวจนไม่กล้าไปเจอคนใหม่ๆ ที่ใหม่ๆ

งานวิจัยเคยกล่าวไว้ว่า คนไข้ที่เสียชีวิตเกิดจากความกลัวมากกว่าเกิดจากปัญหาโดยตรงของโรคนั้น ความกลัวทำให้คนป่วยท้อแท้ ซึมเศร้า และไม่ดูแลตัวเอง แต่หากคนป่วยยอมรับความเป็นจริงที่เกิดขึ้น ใช้ชีวิตกับปัจจุบันของความเป็น "วันนี้" ให้เต็มที่ ก็จะเสริมสร้างความเข้มแข็ง ให้มีพลังคิด และกล้าสู้ชีวิตในแต่ละวันอย่างมีความสุข อาการโรคร้ายในคนไข้บางรายดีขึ้นจนหายขาดก็มี

และอีกความกลัวอีกหนึ่งที่พบบ่อย ๆ คือ ความกลัวถูกปฏิเสธ

ลองนึกดูนะคะ เราถูกปฏิเสธครั้งแรกตอนอายุเท่าไร การถูกปฏิเสธล้วนแล้วมาจากพลังบวกที่แรงกล้าที่เรามีในตอนแรก ในวันนั้นเราคิดดี เราตั้งใจ พลังที่จะผลักดันชีวิตที่แรงกล้ามากับการคาดหวัง เมื่อไม่เป็นตามที่หวังเรารู้สึกเสียใจ เคยมีนักวิชาการจีนบรรยายในรายการ Ted Talk ว่า ตัวเขาเองจำความรู้สึกถูกเพื่อน ๆ ในห้องปฏิเสธเค้าทั้งห้องได้ดี ตอน 8 ขวบ มันทำให้เค้ากลัวกับการที่ต้องเจอเหตุการณ์คล้าย ๆ กัน ในวันที่อายุ 30 ความกลัวของเด็ก 8 ขวบนั้นยังซ่อนอยู่ในตัวเขาเสมอ และเขาก็ถูกปฏิเสธงาน ปฏิเสธในสิ่งที่เขาตั้งใจนับครั้งไม่ถ้วน เพียงแต่เขาไม่หนีจากมัน เขาสามารถประสบความสำเร็จเป็นนักวิชาการที่มีชื่อเสียงระดับโลก เป็นเจ้าของเว็บไซต์ Wuju Learning ที่มีผู้เข้าเรียนทั่วโลก เพียงเพราะเลือกที่ใช้ชีวิตต่อไป และยอมรับความกลัวนั้นอย่างมีสติ

เราล้วนได้รู้จักบุคคลระดับโลกมากมาย ที่นำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ ที่เปลี่ยนความคิด การใช้ชีวิตของมวลมนุษยชาติไม่ว่าจะเป็น มาร์ติน ลูเธอร์ คิง มหาตมะคานธี เนลสัน เมนเดลลา พระเยซูคริสต์ หรือองค์พระศาสดาต่าง ๆ ทุกคนล้วนแล้วแต่เคยประสบกับการถูกปฏิเสธอย่างรุนแรงทั้งสิ้น เพียงแต่ท่านเหล่านี้เมื่อถูกปฏิเสธแล้ว ท่านยังคงรักษาพลังชีวิตได้ดี ไม่ได้ขลาดกลัวหรือหนี แต่ตั้งสติ ใช้ชีวิตเผชิญความจริงของชีวิตต่อไป จนพลังบวกนั้นมันแรงกล้าและส่งถึงคนอื่นในเวลาต่อมา

การที่เรามองเห็นความเป็นปัจจุบัน และไม่ยึดติดกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นไปแล้วมากจนเกินไป รวมถึงการไม่ถือตัวตนของเรามากนัก เราก็จะสามารถใช้ชีวิตแบบปล่อยวาง ซึ่งการปล่อยวางนั้นไม่ได้หมายถึงเราไม่สู้ แต่มันคือใช้ชีวิตของวันนี้อย่างมีสติ ที่จะมองว่าปัญหา ความเจ็บปวด หรือการถูกปฏิเสธ เป็นเรื่องปรกติที่เกิดขึ้นได้ เราไม่ได้เกิดมาโชคร้าย เพียงแต่เราคือ มนุษย์ที่เกิดมาเพื่อต้องมีชีวิตต่อไป

ทุกคนมีการวางแผน วาดภาพในอนาคตของตัวเองต่างๆนานา แต่แปลกที่หลายคนไม่ยอมใส่ใจกับการใช้ชีวิตในปัจจุบัน ซึ่งเป็นตัวต่อระหว่างอดีตกับวันพรุ่งนี้ ถ้าวันนี้เราใช้ชีวิตที่มีสติ เรื่องราวปัญหาต่างๆในอดีตก็เบาลงอย่างแน่นอน เราปล่อยให้ความกลัวเข้ามาครอบงำชีวิตเรามากเกินไป สองสิ่งที่วันนี้เราไม่สามารถทำได้แน่ ๆ คือ การกลับไปแก้ไขอดีต กับการรู้เหตุการณ์ในอนาคต แม้กระทั่งหมอดู ผู้หยั่งรู้อนาคตที่แม่นที่สุดระดับโลก ยังพลาดในการพยากรณ์กับเหตุการณ์มากมายในชีวิต แล้วจะประสาอะไรที่เราจะไปจดจ่อกับอนาคตว่ามันจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ความกลัวไม่ช่วยให้ชีวิตเราดีขึ้นเลยค่ะ มันทำให้เราขยาด ไม่กล้าออกไปเผชิญชีวิต George Bernard Shaw กล่าวไว้ว่า ชีวิตที่แท้จริงต้องมีตัวแปรสำคัญคือตัวเราเป็นตัวขับเคลื่อน ตราบใดที่เรายังมีชีวิต ขอให้เราตั้งใจใช้ชีวิต ยอมรับการถูกปฏิเสธ ยอมรับข้อผิดพลาดเหล่านั้น ให้เป็นพลังบวกในการดำเนินชีวิตต่อไป

ครูฮ้วง

-----------------

ครูฮ้วง-เสาวลักษณ์ ลี้รุ่งเรืองพร เจ้าของสถาบัน Campus Genius Center ผู้สอนหลักสูตรติวเข้มเพื่อการสอบ SAT ด้วยแนวคิดแบบ Critical Thinking ที่ช่วยให้นักเรียนสามารถยื่นคะแนนเข้าเรียน และประสบความสำเร็จในการเรียนคณะอินเตอร์ทั้งในและต่างประเทศ



กำลังโหลดความคิดเห็น