xs
xsm
sm
md
lg

กทม.เปิดไทม์ไลน์ผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่ม พบสาวโรงงานย่านบางหว้าป่วย แต่ยังไปม็อบหน้ายูเอ็น 28 ก.พ.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กทม.เปิดไทม์ไลน์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่ม 20 คน เป็นรายที่ 947-966 จากจำนวนผู้ติดเชื้อสะสม 1,006 ราย พบชายอเมริกัน พัก รร.ย่านสีลม ทราบผลยืนยันติดเชื้อหลังกลับประเทศแล้ว อีกรายเป็นชายค้าขายในตลาดบางแค ส่วนอีกเป็นสาวโรงงานย่านบางหว้า มีอาการป่วย แต่ยังนั่งแท็กซี่ไปชุมนุมหน้ายูเอ็น 28 ก.พ.

วันนี้ (11 มี.ค.) สำนักงานประชาสัมพันธ์กรุงเทพมหานคร สรุปผู้ป่วยโควิด-19 ระบุ กทม. พบผู้ติดเชื้อ ตั้งแต่วันที่ 20 ธ.ค. 63 - 11 มี.ค. 64 รวม 1,006 ราย ไทม์ไลน์แถลงไปแล้ว 946 ราย สำหรับวันนี้ มีไทม์ไลน์ผู้ติดเชื้อที่อยู่ใน กทม. ซึ่งได้สอบสวนโรคแล้วเสร็จเพิ่มอีก 20 คน เป็นรายที่ 947-966

ทั้งนี้ การแจ้งข้อมูลการสอบสวนโรค จะรายงานข้อมูลที่ไม่พาดพิงถึงบุคคลก่อนที่จะได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล ซึ่งเป็นไปตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 มาตรา 10

สำหรับไทม์ไลน์ผู้ป่วยโควิด-19 รายที่ 947-966 รวม 20 คน ที่สอบสวนโรคเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยผู้ป่วยทั้ง 20 คน มีหลากหลายอาชีพ ทั้งค้าขาย พนักงานบริษัท พ่อค้าขายไก่สด พนักงานร้านขายของ พนักงานโรงงานในเขตภาษีเจริญ โดยผู้ป่วยรายที่มีประวัติที่น่าติดตามดังนี้
ผู้ป่วยชาย รายที่ 951 สัญชาติอเมริกัน
- สัปดาห์ที่ 2 ของเดือน ม.ค. 64 เดินทางมาจากสหรัฐอเมริกา เข้ากักตัวและตรวจหาเชื้อโควิด-19 จำนวน 2 ครั้ง ผลไม่พบเชื้อ
- วันที่ 26 ม.ค.- 15 ก.พ. 64 พักอยู่ที่พักย่านสีลม บางรัก ไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อใกล้ที่พักในบางวัน
- วันที่ 17 ก.พ. 64 เดินทางไปจังหวัดภูเก็ต ด้วยสายการบินแอร์เอเชีย เข้าพักที่โรงแรมศรีพันวา จังหวัดภูเก็ต โดยมีรถของโรงแรมมารับ
- วันที่ 18 ก.พ. 64 อยู่ภายในโรงแรมทั้งวัน
- วันที่ 19 ก.พ. 64 เดินทางกลับกรุงเทพฯ โดยสายการบินแอร์เอเชีย และกลับที่พักด้วยรถยนต์ส่วนตัว
- วันที่ 20-28 ก.พ. 64 พักอยู่ที่พักย่านสีลม บางรัก ไปซื้อของร้านสะดวกซื้อใกล้ที่พัก
- วันที่ 1 มี.ค. 64 ไปเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 เพื่อจะเดินทางกลับประเทศสหรัฐอเมริกา
- วันที่ 2 มี.ค. 64 ทราบผลจากโรงพยาบาล ว่า พบเชื้อโควิด-19 จึงไปตรวจครั้งที่ 2 ผลตรวจไม่พบเชื้อ จึงเดินทางกลับที่พักโดยรถส่วนตัว
- วันที่ 3 มี.ค. 64 เดินทางกลับสหรัฐอเมริกา
- วันที่ 4 มี.ค. 64 เนื่องจากผลตรวจโควิด-19 ไม่ชัดเจน กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จึงนำตัวอย่างจากโรงพยาบาลมาตรวจหาเชื้ออีกครั้ง ผลตรวจพบเชื้อโควิด-19
อีกราย คือ ผู้ป่วยหญิง รายที่ 956 พนักงานบริษัททำเครื่องประดับ มีไทม์ไลน์เดินทางไปห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล อีสต์วิลส์ ไปซื้อของที่ซูเปอร์มาร์เก็ต ไปร้านสุกี้ตี๋น้อย สาขาเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา จนกระทั่งทราบว่า เพื่อนของสามีติดเชื้อโควิด-19 จึงไปตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาลพร้อมสามี และกักตัว จนทราบผลว่าติดเชื้อโควิด-19 และโรงพยาบาลส่งรถมารับเพื่อไปรักษาตัว
อีกรายเป็นผู้ป่วยชาย รายที่ 966 อาชีพค้าขาย
- วันที่ 24 ก.พ.- 4 มี.ค. 64 ไปตลาดบางแคเพื่อขายอาหารแห้ง โดยรถส่วนตัว และไปวัดไผ่โรงวัว จังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อรับของมาขาย
- วันที่ 5 มี.ค. 64 ไปขายของที่ตลาดบางแค ทราบว่า ผู้ขายร้านใกล้กันติดเชื้อ (ผู้ป่วยรายที่ 963)
- วันที่ 6 มี.ค. 64 ไปขายของที่ตลาดบางแค เริ่มมีอาการคัดจมูก และจมูกไม่ได้กลิ่น
- วันที่ 7-8 มี.ค. 64 ไปขายของที่ตลาดบางแค และในช่วง 15.00 น.ของวันที่ 8 มี.ค. 64 ไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่โรงพยาบาล โดยนั่งแท็กซี่ แต่จำทะเบียนไม่ได้ แพทย์รับไว้ที่โรงพยาบาลเพื่อสังเกตอาการ
- วันที่ 9 มี.ค. 64 ทราบว่าติดเชื้อและเข้ารับการรักษา
ส่วนกลุ่มผู้ป่วยรายที่ 958-962 ที่เป็นพนักงานในโรงงานแห่งหนึ่ง ในแขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ ได้เข้ารับการตรวจหาเชื้อกับหน่วยบริการเชิงรุก และพบว่าติดเชื้อโควิด-19 ขณะนี้เข้ารับการรักษาแล้ว ในกลุ่มนี้ มีผู้ป่วยหญิง รายที่ 960 พนักงานโรงงานดังกล่าว ไปร่วมชุมนุมทางการเมืองด้วย มีไทม์ไลน์ดังนี้
ผู้ป่วยหญิง รายที่ 960 อาชีพพนักงานโรงงาน
- วันที่ 17-20 ก.พ. 64 ไปทำงานที่โรงงาน แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ โดยรถสองแถวเล็ก แวะซื้ออาหารหน้าโรงงาน
- วันที่ 21 ก.พ. 64 อยู่ที่พัก แขวงบางแค เขตบางแค
- วันที่ 22-27 ก.พ. 64 ไปทำงาน เริ่มมีอาการปวดศีรษะ มีไข้ วันที่ 27 ก.พ. 64
- วันที่ 28 ก.พ. 64 ไปร่วมชุมนุมที่ถนนราชดำเนิน หน้าองค์การสหประชาชาติ UN กับเพื่อน โดยนั่งแท็กซี่ จำเลขทะเบียนไม่ได้
- วันที่ 1-2 มี.ค. 64 ไปทำงานตามปกติ
- วันที่ 3 มี.ค. 64 ไปทำงานและเข้ารับการตรวจหาเชื้อกับหน่วยบริการเชิงรุกที่โรงงาน
- วันที่ 4 มี.ค. 64 ทราบผลตรวจว่าติดเชื้อ

ทั้งนี้ หากสงสัยหรือกังวลว่าตนติดหรือยัง? ตนมีความเสี่ยงอยู่ในระดับใด? สามารถประเมินความเสี่ยงได้ที่ http://bkkcovid19.bangkok.go.th/ หรือติดต่อขอคำปรึกษาได้ที่ สายด่วน “สำนักอนามัย” โทร. 0 2203 2393 หรือ 0 2203 2396












































กำลังโหลดความคิดเห็น