ปฏิเสธไม่ได้ว่า เส้นทางการศึกษาของเด็กพิเศษ ยากลำบากกว่าเด็กทั่วไป คนเป็นพ่อแม่ของเด็กกลุ่มนี้ต้องใช้ความพยายามมากกว่าพ่อแม่คนอื่นๆ หลายเท่า ทั้งการเตรียมความพร้อมลูก และการหาโรงเรียนดีๆ มีคุณภาพ ซึ่งมีให้เลือกอยู่ไม่มาก โดยเฉพาะการเรียนต่อในชั้น ม.1
“ระดับชั้นประถมศึกษา ผู้ปกครองส่วนใหญ่จะหาโรงเรียนให้ลูกเรียนร่วมได้ แต่พอขึ้นระดับชั้นมัธยมศึกษา ค่อนข้างมีข้อจำกัดหลายอย่าง ทั้งโรงเรียนมีน้อย และรับเด็กได้จำกัด กลายเป็นความหนักใจของพ่อแม่ว่าจะให้ลูกไปต่อที่ไหนดีหลังจบ ป.6 บางคนไม่มีที่ไปก็ให้ลูกอยู่บ้าน หรือหาที่เรียนอื่นๆ ให้ลูกได้มีสังคม แต่ตัวเด็กเองอาจไม่มีความพร้อมในเรื่องของการใช้ชีวิต”
ผศ.ดร.ประพิมพ์พงศ์ วัฒนะรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาการศึกษาพิเศษ คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ เผยถึงปัญหาหนักใจของพ่อแม่ในการมองหาที่เรียนให้ลูกคนพิเศษ ซึ่งปัจจุบันมีตัวเลือกน้อย รับเด็กได้จำกัด อีกทั้งยังต้องแข่งขันกับเด็กพิเศษด้วยกันเองอีก
ทางศูนย์ฯ จึงร่วมกับโรงเรียนสาธิต มศว ประสานมิตร ทำโครงการเตรียมความพร้อมสู่อนาคต รับเด็กพิเศษเข้าศึกษาต่อชั้น ม.1 ในรั้วโรงเรียนสาธิต มศว เพื่อเป็นอีกทางเลือกที่จะช่วยปูทาง และเตรียมความพร้อมเด็กพิเศษ เข้าเรียนต่อได้อย่างมีศักยภาพ และใช้ชีวิตในรั้วโรงเรียนอย่างมีความสุข
“โรงเรียนสาธิต มศว ฝ่ายมัธยม มีโครงการรับเด็กพิเศษอยู่แล้ว บวกกับ ผอ.ที่อยากจะพัฒนาเด็กกลุ่มนี้ จึงเปิดโครงการทำร่วมกันในชื่อโครงการเตรียมความพร้อมสู่อนาคต เพื่อรับเด็กพิเศษในระดับชั้น ป.5 และ ป.6 เข้าร่วมโครงการ เมื่อเด็กมีความพร้อมในระดับหนึ่งแล้ว ทั้งทักษะชีวิต วิชาการ ทักษะพื้นฐานทางสังคมด้านต่างๆ เราก็จะส่งต่อให้ศูนย์ศักยวิโรฒ โรงเรียนสาธิต มศว ฝ่ายมัธยม พูดง่ายๆ คือเด็กที่ผ่านโครงการนี้จะสามารถเข้าเรียนในชั้น ม.1 ได้เลย” ผอ.ศูนย์พัฒนาการศึกษาพิเศษ มศว เริ่มต้นเล่าถึงตัวโครงการ
สำหรับพ่อแม่ที่สนใจให้ลูกเข้าโครงการเตรียมความพร้อม นอกจากหลักฐาน เอกสารต่างๆ ที่ต้องมีให้ครบแล้ว ยังจะต้องผ่านการประเมินกันก่อนว่าเด็กมีความพร้อมหรือไม่ที่จะไปต่อในระดับชั้นมัธยมศึกษา เนื่องจากเด็กพิเศษแต่ละคนมีความแตกต่างกัน ต้องพิจารณาเป็นรายบุคคลไป
“ข้อจำกัดของโครงการนี้ คือ เราไม่รับเด็กที่เรียนโฮมสคูล เด็กจะต้องเรียนอยู่ในระดับชั้น ป.5 และ ป.6 ในโรงเรียนปกติ และมีใบรับรองจากทางโรงเรียน รวมถึงใบรับรองแพทย์มาแสดงเป็นหลักฐาน ซึ่งเด็กที่เรารับเข้ามาจะต้องมีความพร้อมในระดับหนึ่งแล้ว เช่น ช่วยเหลือตัวเองได้ ฟังคำสั่งได้ เข้าห้องน้ำได้ เขียนหนังสือ หรืออ่านพอได้บ้าง ไม่มีปัญหาทางพฤติกรรมที่รุนแรงจนครูไม่สามารถควบคุมได้”ผศ.ดร.ประพิมพ์พงศ์ เผยถึงคุณสมบัติในการรับเด็กเข้าโครงการ
ทั้งนี้ ทางโครงการเปิดรับสมัครถึงเดือนมีนาคม 2564 โดยเปิดรับนักเรียนที่มีความต้องการพิเศษ ชั้น ป.5 จำนวน 10 คน และป.6 จำนวน 10 คน เพื่อเตรียมความพร้อม และส่งต่อศูนย์ศักยวิโรฒ โรงเรียนสาธิต มศว.ฝ่ายมัธยมในปีการศึกษา 2565 และ 2566
“วิธีการเรียน เด็กที่เข้าร่วมโครงการเตรียมความพร้อม เขาจะเรียนในโรงเรียนปกติของเขาไป แต่จะมาเรียนกับโครงการฯ เฉพาะเสาร์ อาทิตย์เท่านั้น เรียน 09.30-14.30 น. ที่ศูนย์พัฒนาการศึกษาพิเศษ ชั้น 1 อาคาร 28 สำนักทดสอบทางการศึกษาและจิตวิทยา มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ โดยเทอม 1 จะเริ่มเรียนเดือนมิถุนายน-กันยายน 2564 และเทอม 2 จะเริ่มเรียนเดือนมกราคม 2565-เมษายน 2565”
ด้านค่าใช้จ่ายเข้าโครงการ ผศ.ดร.ประพิมพ์พงศ์ บอกว่า อยู่ที่ 210,000 บาทต่อปี โดยทางโครงการมีครูการศึกษาพิเศษที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ มีโปรแกรมการพัฒนาเด็กหลากหลายด้าน เช่น ทักษะวิชาการ สังคม ศิลปะ การดำรงชีวิต การเคลื่อนไหว การประกอบอาหาร และไอที นอกจากนั้น ยังมีแพทย์เข้ามาพูดคุยกับพ่อแม่ผู้ปกครองอย่างน้อยเทอมละ 2 ครั้ง เพื่อส่งเสริมพัฒนาการ และศักยภาพของเด็ก
“แนะนำให้พาเด็กมาตั้งแต่ชั้น ป.5 ค่ะ เพราะการจะพัฒนาเด็กพิเศษนั้น ควรจะต่อเนื่องอย่างน้อย 2 ปี ก่อนหน้านี้ มีผู้ปกครองโทร.เข้ามาสอบถามก็โอเคในระดับหนึ่ง ประมาณ 4-5 คน มีความพร้อมให้ลูกเข้าสาธิต มศว โดยจากการสัมภาษณ์พูดคุย การส่งลูกไปฝึกตามโรงพยาบาล ตามสถานที่ต่างๆ หาครูพิเศษมาประกบ รวมๆ แล้วต้องจ่ายมากกว่า 30,000 บาทต่อเดือน แต่โครงการนี้เรามีพร้อม ทั้งครู แพทย์ และการพัฒนาเด็กในทุกๆ ด้าน ตอบโจทย์พ่อแม่ที่มีอยากให้ลูกเข้าเรียน ม.1 ที่สาธิต มศว”
สำหรับเด็กที่ผ่านโครงการนี้แล้ว ก่อนจะส่งต่อให้ศูนย์ศักยวิโรฒ โรงเรียนสาธิต มศว ประสานมิตร (ฝ่ายมัธยม) จะมีการประเมินร่วมกับครูการศึกษาพิเศษในโรงเรียนอีกครั้งว่าเด็กจะอยู่ในกลุ่มไหน โดยค่าเทอมเด็กพิเศษของสาธิต มศว จะแบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกสำหรับห้องเรียนคู่ขนาน คือ เด็กไม่สามารถไปเรียนวิชาการกับเพื่อนๆ ได้ ต้องอยู่ในห้องกับครูการศึกษาพิเศษ ได้เรียนกับเพื่อนๆ แค่เฉพาะวิชาพลศึกษา ดนตรี ศิลปะ ค่าเทอมจะอยู่ที่ 300,000 บาทต่อปี กับอีกกลุ่มที่สามารถไปเรียนกับเพื่อนๆ ได้เต็มเวลา ค่าเทอมจะลดลงมาเหลือ 250,000 บาทต่อปี
ปัจจุบัน “ศูนย์ศักยวิโรฒ” ของสาธิต มศว มีทั้งนักเรียนที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้, บกพร่องทางสติปัญญา, บกพร่องทางการได้ยิน ระดับหูตึงและสื่อสารด้วยการพูด, นักเรียนที่มีภาวะสมาธิสั้น และนักเรียนที่มีภาวะออทิสซึม จัดการศึกษาแบบเรียนร่วม เด็กพิเศษจะเข้าร่วมกิจกรรมกับนักเรียนทั่วไป โดยมีครูการศึกษาพิเศษ และอาจารย์ประจำวิชาร่วมกันดูแลอย่างใกล้ชิด รวมทั้งมีการวัดและประเมินผลตามเกณฑ์ปกติ
นับเป็นอีกทางเลือกของพ่อแม่ที่มีความพร้อม และอยากให้ลูก “คนพิเศษ” มีศักยภาพที่จะเรียนร่วม รู้จักปรับตัว ใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่นในรั้วโรงเรียนที่เข้าใจธรรมชาติของพวกเขา มีเพื่อนที่คอยช่วยเหลือ และครูที่ใส่ใจดูแลอย่างใกล้ชิด สามารถอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข สำหรับผู้ปกครองที่สนใจส่งลูกเข้าโครงการเตรียมความพร้อมสู่อนาคต สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 081-752-7117 หรือ 089-066-3300