วันนี้ (21 ธ.ค.63) เมื่อเวลา 14.00 น. นางวัลยา วัฒนรัตน์ รองปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมชี้แจงหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการทำการค้าในพื้นที่จัดกิจกรรมถนนคนเดินคลองโอ่งอ่าง ฝั่งเขตพระนคร โดยมี นายโกสิน เทศวงษ์ ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายสุรเดช อำนวยสาร ผู้อำนวยการเขตพระนคร พร้อมด้วยคณะผู้บริหารและข้าราชการสำนักงานเขตพระนคร ผู้ค้าคลองโอ่งอ่าง ผู้ครอบครองอาคาร รวมจำนวน 200 คน และผู้ที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ณ ห้องอบรมสงฆ์ วัดสามพระยา เขตพระนคร
รองปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ในวันนี้กรุงเทพมหานคร โดยสำนักงานเขตพระนครได้ประชุมร่วมกับผู้ค้าถนนคนเดินคลองโอ่งอ่าง ฝั่งเขตพระนคร เพื่อชี้แจงหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการทำการค้าบริเวณดังกล่าว รวมทั้งขอความร่วมมือผู้ค้าให้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กรุงเทพมหานครกำหนด เพื่อให้การทำการค้าในพื้นที่จัดกิจกรรมถนนคนเดินคลองโอ่งอ่าง ฝั่งเขตพระนคร เป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีความเป็นระเบียบ และคงความสวยงามไว้อย่างยั่งยืน โดยกำหนดหลักเกณฑ์เงื่อนไขการทำการค้าในพื้นที่ให้ผู้ค้าถือปฏิบัติ ดังนี้ 1. วันเวลาพื้นที่ทำการค้าและการตั้งวาง สามารถทำการค้าได้ในวันศุกร์ วันเสาร์ และวันอาทิตย์ ระหว่างเวลา 16.00-22.00 น. 2. พื้นที่ทำการค้า คือ บริเวณสะพานดำรงสถิต-สะพานภาณุพันธ์-สะพานหัน-สะพานบพิตรพิมุข ฝั่งริมคลองและฝั่งอาคาร 3. ร้านค้าฝั่งริมคลองต้องมีขนาดไม่เกิน 3 ตารางเมตร (กว้าง 2 เมตร ลึก 1.5 เมตร) และมีลักษณะชั่วคราว ห้ามตอก เจาะพื้นถนน หรือแขวน ผูก ตอก เกี่ยวอุปกรณ์ใดๆ กับต้นไม้ หรือราวกันตก 4. ร้านค้าฝั่งอาคารสามารถตั้งแผงค้ายื่นออกมาจากตัวอาคารได้ไม่เกิน 1.5 เมตร หรือตามที่คณะกรรมการดำเนินงานกิจกรรมถนนคนเดินคลองโอ่งอ่างกำหนด และต้องไม่กีดขวางแนวกำแพงอาคารที่มีภาพวาดและไม่กีดขวางเส้นทางสัญจร 5. กรณีผู้ครอบครองอาคารยินยอมให้มีการตั้งร้านค้าหน้าอาคาร ให้ผู้ครอบครองอาคารแจ้งจำนวน และรายละเอียดของร้านค้าให้เจ้าหน้าที่สำนักงานเขตพระนครทราบเพื่อรวบรวมเป็นข้อมูล 6. ร้านค้าอาจมีเต็นท์หรือร่มขนาดที่เหมาะสมได้ 7. ผู้ค้าต้องจัดเก็บสินค้าและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องเมื่อเสร็จสิ้นการค้าในแต่ละวัน และ 8. เมื่อแจ้งประเภทสินค้าที่ประสงค์จะจำหน่ายแล้ว ไม่สามารถเปลี่ยนประเภทของสินค้าก่อนได้รับการอนุญาตจากสำนักงานเขตพระนคร
รองปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวอีกว่า สำหรับแนวทางในการทำการค้า มีดังนี้ 1. ผู้ทำการค้าต้องเป็นผู้ที่ได้รับอนุญาตจากสำนักงานเขตพระนคร หรือผู้ครอบครองอาคาร หรือผู้ที่ได้รับความยินยอมจากผู้ครอบครองอาคารเท่านั้น 2. กรณีผู้ได้รับอนุญาตให้ทำการค้าจากสำนักงานเขตพระนครไม่ประสงค์จะทำการค้าต่อ ให้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตพระนครเพื่อคืนสิทธิ์ดังกล่าว 3. ห้ามมิให้มีการเช่าช่วง หรือให้ผู้ที่ไม่ได้รับอนุญาตจากสำนักงานเขตพระนครมาทำการค้า 4. ห้ามมิให้ใช้แรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายในการช่วยทำการค้า 5. ห้ามจำหน่ายสินค้าผิดกฎหมาย สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ ผลิตภัณฑ์ยาสูบ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สัตว์เลี้ยง หรือสินค้าที่ขัดต่อศีลธรรมอันดีของประชาชน 6. ห้ามจำหน่ายอาหารประกอบปรุงที่ก่อให้เกิดมลพิษ ความเดือดร้อนรำคาญ ตลอดจนสร้างความสกปรกต่อพื้นที่ทำการค้า 7. กรณีจำหน่ายอาหาร ต้องสวมถุงมือ หมวกคลุมผม ผ้ากันเปื้อน และดูแลเครื่องมือ เครื่องใช้ อุปกรณ์อื่นๆ ให้สะอาดอยู่เสมอ 8.ห้ามล้างเครื่องมือ ภาชนะ อุปกรณ์ทุกชนิดในบริเวณที่ทำการค้า หรือบนทางเท้า 9. ใช้ภาชนะ หรือบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม หลีกเลี่ยงการใช้วัสดุที่ทำจากโฟมและพลาสติก 10. จัดให้มีที่รองรับมูลฝอยประจำร้านค้าที่ถูกสุขลักษณะและเพียงพอ เมื่อเสร็จสิ้นการค้าในแต่ละวัน ให้รวบรวมมาวางไว้ในจุดที่สำนักงานเขตพระนครกำหนด 11. ไม่ทิ้งมูลฝอย เศษวัสดุที่เหลือจากการจำหน่ายสินค้าไว้ในบริเวณที่ทำการค้า ท่อระบายน้ำ บริเวณที่ปลูกต้นไม้ หรือในคลอง และให้ผู้ค้าดูแลรักษาความสะอาดบริเวณที่ทำการค้าและบริเวณใกล้เคียงให้เรียบร้อยเมื่อเสร็จสิ้นการค้าในแต่ละวัน 12. ดูแลรักษาตันไม้ในบริเวณที่ทำการค้าและบริเวณใกล้เคียงให้เรียบร้อยและสวยงาม 13. ห้ามผู้ค้าสูบบุหรี่ หรือดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตลอดระยะเวลาที่ทำการค้า 14. ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) โดยสวมหน้ากากอนามัยตลอดระยะเวลาที่ทำการค้า และควรจัดให้มีเจลหรือแอลกอฮอล์สำหรับล้างมือไว้ประจำร้านค้า และ 15. ปฏิบัติตามคำแนะนำอื่นๆ ของเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตพระนคร
ทั้งนี้ ผู้ได้รับสิทธิ์ในการทำการค้า ผู้ครอบครองอาคาร หรือผู้ค้าที่ได้รับความยินยอมจากผู้ครอบครองอาคาร ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดข้างต้นทุกประการ หากฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตพระนคร จะถูกห้ามไม่ให้ทำการค้าเป็นเวลา 2 สัปดาห์ กรณีฝ่าฝืนเกินกว่า 2 ครั้ง คณะทำงานกิจกรรมถนนคนเดินคลองโอ่งอ่าง สำนักงานเขตพระนคร จะพิจารณายกเลิกสิทธิ์ในการทำการค้าและดำเนินการตามระเบียบ กฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป ซึ่งการพิจารณาของคณะทำงานฯ ถือเป็นที่สุด