xs
xsm
sm
md
lg

พบติดเชื้อโควิดเพิ่ม 3 ราย เดินทางมาจาก “อังกฤษ-ตุรกี” รักษาหายดีกลับบ้าน 15 ราย

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศบค.เผยพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่เพิ่ม 3 ราย เดินทางมาจากต่างประเทศ และตรวจพบเชื้อในสถานกักกันที่รัฐจัดให้ มาจากสหราชอาณาจักร 2 ราย ตุรกี 1 ราย เป็นชาวต่างชาติ 1 ราย ที่เหลือเป็นคนไทย ผู้ป่วยรักษาหาย 15 ราย 
วันนี้ (11 พ.ย.) ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ ว่าพบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 3 ราย เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ และตรวจพบเชื้อในสถานกักกันที่รัฐจัดให้ (State Quarantine) ประกอบด้วย สหราชอาณาจักร 2 ราย และตุรกี 1 ราย ซึ่งวันนี้มีผู้ป่วยรักษาหายเพิ่ม 15 ราย

ส่งผลให้มีจำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมล่าสุดอยู่ที่ 3,847 ราย เป็นผู้ป่วยที่ติดเชื้อภายในประเทศ 2,453 ราย ผู้เดินทางจากต่างประเทศ 1,394 ราย และผู้ป่วยที่ตรวจพบในสถานกักกันที่รัฐจัดให้ 889 ราย ส่วนผู้ป่วยรักษาหายแล้วเพิ่มอีก 15 ราย รวมเป็น 3,685 ราย ยังมีผู้ป่วยรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 102 ราย ขณะที่ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม โดยยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 60 ราย


รายละเอียดผู้ป่วยรายใหม่ทั้ง 3 ราย

รายที่ 1 มาจากตุรกี เป็นเพศหญิง สัญชาติไทย อายุ 40 ปี เป็นแม่บ้าน เดินทางมาถึงไทย 4 พ.ย. 63 การตรวจหาเชื้อ วันที่ 9 พ.ย. 63 (Day 5) ผลพบเชื้อ ไม่มีอาการ เข้าพัก Alternative State Quarantine (ASQ) กทม. หลังจากนั้นเข้ารักษาตัวโรงพยาบาลเอกชน

รายที่ 2 มาจากสหราชอาณาจักร เป็นเพศหญิง สัญชาติอังกฤษ เดินทางถึงไทยวันที่ 8 พ.ย. 63 การตรวจหาเชื้อ วันที่ 8 พ.ย. 63 (Day 0) ผลพบเชื้อ มีอาการไข้ ไอ และน้ำมูก เข้าพัก PUI ด่านสุวรรณภูมิ หลังจากนั้นเข้ารักษาตัวโรงพยาบาลเอกชน

รายที่ 3 มาจากสหราชอาณาจักร เป็นเพศหญิง สัญชาติไทย อายุ 58 ปี เดินทางมาถึงไทย 9 พ.ย. 63 การตรวจหาเชื้อ วันที่ 9 พ.ย. 63 (Day 0) ผลพบเชื้อ ไม่มีอาการ เข้าพัก Alternative State Quarantine (ASQ) กทม. หลังจากนั้นเข้ารักษาตัวโรงพยาบาลเอกชน


สถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทั่วโลก วันพุธที่ 11 พฤศจิกายน 2563 เวลา 10.00 น. ยอดผู้ติดเชื้อรวม 51,805,339 ราย อาการรุนแรง 94,967 ราย รักษาหายแล้ว 36,392,065 ราย เสียชีวิต 1,279,184 ราย

อันดับประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด
1. สหรัฐอเมริกา จำนวน 10,559,184 ราย
2. อินเดีย จำนวน 8,635,754 ราย
3. บราซิล จำนวน 5,701,283 ราย
4. ฝรั่งเศส จำนวน 1,829,659 ราย
5. รัสเซีย จำนวน 1,817,109 ราย

ประเทศไทย อยู่ในอันดับที่ 149 จำนวน 3,847 ราย




กำลังโหลดความคิดเห็น