ศบค.เผยพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่เพิ่ม 13 ราย ทั้งหมดเดินทางกลับจากต่างประเทศ แบ่งเป็นสหรัฐฯ 1 ราย บังกลาเทศ 1 ราย จอร์แดน 4 ราย เยอรมัน 1 ราย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 2 ราย ฝรั่งเศส 1 ราย รัสเซีย 1 ราย และสหราชอาณาจักร 2 ราย โดยมีเป็นชาวต่างชาติ 1 ราย รักษาหายเพิ่ม 10 ราย ส่วนทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อแล้ว 44.2 ล้านราย
วันนี้ (28 ต.ค.) ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ ว่า พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 13 ราย เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ และเข้าสถานกักกันที่รัฐจัดให้ (State Quarantine) ประกอบด้วย สหรัฐอเมริกา 1 ราย บังกลาเทศ 1 ราย จอร์แดน 4 ราย เยอรมนี 1 ราย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 2 ราย ฝรั่งเศส 1 ราย รัสเซีย 1 ราย และ สหราชอาณาจักร 2 ราย วันนี้มีผู้ป่วยรักษาหายเพิ่ม 10 ราย
ส่งผลให้มีจำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมล่าสุดอยู่ที่ 3,759 ราย เป็นผู้ป่วยที่ติดเชื้อภายในประเทศ 2,451 ราย และผู้ป่วยที่ตรวจพบในสถานกักกันที่รัฐจัดให้ 811 ราย ส่วนผู้ป่วยรักษาหายแล้วเพิ่มอีก 10 ราย รวมเป็น 3,561 ราย ยังมีผู้ป่วยรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 139 ราย ขณะที่ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม โดยยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 59 ราย
รายละเอียด ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 13 ราย
รายที่ 1 มาจากสหรัฐอเมริกา เป็นเพศชาย สัญชาติไทย อายุ 62 ปี อาชีพพนักงานขับรถส่งอาหาร เดินทางมาถึงไทย 15 ต.ค. 63 เดินทางจากฮ่องกง การตรวจหาเชื้อ วันที่ 26 ต.ค. 63 (Day 11) ผลพบเชื้อ ไม่มีอาการ เข้าพัก State Quarantine (SQ) กทม. หลังจากนั้นเข้ารักษาตัวโรงพยาบาลราชวิถี
รายที่ 2 มาจากบังกลาเทศ เป็นเพศชาย สัญชาติไทย อายุ 35 ปี อาชีพลูกเรือบรรทุกน้ำมัน เดินทางมาถึงไทย 16 ต.ค. 63 การตรวจหาเชื้อ วันที่ 26 ต.ค. 63 (Day 10) ผลพบเชื้อ มีอาการ มีเสมหะ เข้าพัก State Quarantine (SQ) กทม. หลังจากนั้นเข้ารักษาตัวสถาบันประสาทวิทยา
รายที่ 3-6 มาจากจอร์แดน เป็นเพศชาย 4 ราย สัญชาติไทย อายุ 21, 30, 25, 23 ปี อาชีพนักศึกษา เดินทางมาถึงไทย 21 ต.ค. 63 การตรวจหาเชื้อ วันที่ 25 ต.ค. 63 (Day 3) ผลพบเชื้อ ไม่มีอาการ เข้าพัก State Quarantine (SQ) ชลบุรี หลังจากนั้นเข้ารักษาตัวโรงพยาบาลแหลมฉบัง และโรงพยาบาลบางละมุง
รายที่ 7 มาจากเยอรมนี เป็นเพศหญิง สัญชาติไทย อายุ 51 ปี อาชีพแม่บ้าน เดินทางมาถึงไทย 21 ต.ค. 63 การตรวจหาเชื้อ วันที่ 25 ต.ค. 63 (Day 4) ผลพบเชื้อ ไม่มีอาการ เข้าพัก State Quarantine (SQ) ชลบุรี หลังจากนั้นเข้ารักษาตัวโรงพยาบาลเกาะจันทร์
รายที่ 8-9 มาจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นเพศหญิง 2 ราย สัญชาติไทย อายุ 22, 40 ปี อาชีพพนักงานนวด/สปา เดินทางมาถึงไทย 23 ต.ค. 63 การตรวจหาเชื้อ วันที่ 26 ต.ค. 63 (Day 3) ผลพบเชื้อ ไม่มีอาการ เข้าพัก State Quarantine (SQ) กทม. หลังจากนั้นเข้ารักษาตัวสถาบันทรวงอก
รายที่ 10 มาจากฝรั่งเศส เป็นเพศชาย สัญชาติฝรั่งเศส อายุ 49 ปี นักธุรกิจ เดินทางมาถึงไทย 23 ต.ค. 63 การตรวจหาเชื้อ วันที่ 26 ต.ค. 63 (Day 3) ผลพบเชื้อ ไม่มีอาการ เข้าพัก Alternative State Quarantine (ASQ) ชลบุรี หลังจากนั้น เข้ารักษาตัวโรงพยาบาลเอกชนใน กทม.
รายที่ 11 มาจากรัสเซีย เป็นเพศหญิง สัญชาติไทยอายุ 46 ปี อาชีพรับจ้าง เดินทางมาถึงไทย 26 ต.ค. 63 การตรวจหาเชื้อ วันที่ 26 ต.ค. 63 (Day 0) ผลพบเชื้อ ไอแห้ง หอบเหนื่อย เข้าพัก State Quarantine (SQ) สมุทรปราการ หลังจากนั้น เข้ารักษาตัวโรงพยาบาลบางเสาธง
รายที่ 12-13 มาจากสหราชอาณาจักร พระสงฆ์ 2 ราย สัญชาติไทย อายุ 28, 30 ปี เดินทางมาถึงไทย 26 ต.ค. 63 การตรวจหาเชื้อ วันที่ 26 ต.ค. 63 (Day 0) ผลพบเชื้อ รายที่ 12 มีอาการไอ รายที่ 13 มีอาการไข้ ไอ มีน้ำมูก เสมหะ เข้าพัก State Quarantine (SQ) สมุทรปราการ หลังจากนั้นเข้ารักษาตัวโรงพยาบาลบางจาก
สถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทั่วโลก วันพุธที่ 28 ตุลาคม 2563 เวลา 10.00 น. ยอดผู้ติดเชื้อรวม 44,236,745 ราย อาการรุนแรง 79,922 ราย รักษาหายแล้ว 32,444,043 ราย เสียชีวิต 1,171,308 ราย
อันดับประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด
1. สหรัฐอเมริกา จำนวน 9,038,030 ราย
2. อินเดีย จำนวน 7,988,853 ราย
3. บราซิล จำนวน 5,440,903 ราย
4. รัสเซีย จำนวน 1,547,774 ราย
5. ฝรั่งเศส จำนวน 1,198,695 ราย
ประเทศไทย อยู่ในอันดับที่ 147 จำนวน 3,759 ราย
นายแพทย์ธนรักษ์กล่าวว่า สถานการณ์ผู้ติดเชื้อทั่วโลกขณะนี้ยังคงพบการแพร่ระบาดอย่างรุนแรงโดยไม่มีแนวโน้มที่ดีขึ้น โดยในวันนี้มีรายงานผู้ป่วยรายใหม่ 459,020 ราย โดยเฉพาะประเทศในแถบยุโรปพบว่ามีการระบาดในระลอกที่ 2 รุนแรงกว่ารอบแรก
สำหรับประเทศไทยเมื่อเทียบกับทั่วโลกถือว่าสามารถควบคุมสถานการณ์ได้เป็นอย่างดี โดยเหตุการณ์สำคัญในช่วงนี้ได้แก่
สถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนแม่สอด จ. ตาก ที่พบผู้ติดเชื้อในช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา 11 ราย ติดตามผู้สัมผัสได้ทั้งหมด 93 ราย และได้ค้นหาเชิงรุกในชุมชนอย่างต่อเนื่องโดยได้เก็บตัวอย่างส่งตรวจแล้ว 12,713 ราย ยังไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มเติม นับว่าสถานการณ์ดีขึ้นแล้วสามารถควบคุมโรคในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี
การพบผู้ติดเชื้อชาวฝรั่งเศส ที่ อ.เกาะสมุย ขณะนี้ได้ดำเนินการสอบสวนโรค ติดตามผู้สัมผัสได้เกือบทั้งหมด แบ่งเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 46 ราย ได้ติดตามเก็บตัวอย่างส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการและเข้ารับการกักตัวแล้ว 41 ราย ไม่พบผู้ติดเชื้อ อยู่ระหว่างการติดตามอีก 5 ราย และผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 80 ราย ยังคงเฝ้าระวังติดตามอาการต่อเนื่อง จนครบ 14 วัน
อย่างไรก็ตามการพบผู้ติดเชื้อ 1- 2 ราย เช่นใน อ.แม่สอด หรือ อ.เกาะสมุย สามารถทำให้เกิดรูปแบบการระบาดได้ 3 แบบ ดังนี้
1.สถานการณ์ที่ป้องกันโรคได้ดี ไม่พบผู้ติดเชื้อตามมาหลังจากพบผู้ติดเชื้อรายแรก สิ่งสำคัญคือความร่วมมือของคนไทยที่ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคทั้งส่วนบุคคล และส่วนองค์กร ได้เป็นอย่างดีและต่อเนื่อง
2.สถานการณ์พบผู้ติดเชื้อแต่ควบคุมได้ โดยพบผู้ติดเชื้อตามมาอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งการควบคุมโรคจะช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับการพบผู้ติดเชื้อรายแรก และความร่วมมือ และวินัยในการปฏิบัติตามมาตรการป้องกัน ควบคุมโรคของคนในพื้นที่
3.สถานการณ์พบผู้ติดเชื้อแต่ควบคุมโรคได้ช้า เป็นการพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเป็นกลุ่มก้อนหลังพบผู้ติดเชื้อรายแรก ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิต เศรษฐกิจ สุขภาพกายและสุขภาพจิตของคนในประเทศ
แม้ว่าเป้าหมายการควบคุมโรคโควิด 19 ไม่ใช่ทำให้ผู้ติดเชื้อเป็นศูนย์ เนื่องจากมีโอกาสพบผู้ติดเชื้อได้ กระทรวงสาธารณสุขมีมาตรการสำคัญที่จะจัดการกับสถานการณ์ คือ ค้นพบผู้ติดเชื้อได้เร็วเข้าสอบสวนโรคอย่างละเอียดรอบคอบ และสิ่งสำคัญที่สุดคือความร่วมมือจากทุกภาคส่วน และการป้องกันตัวของประชาชนในการป้องกันควบคุมโรค เช่น หลีกเสี่ยงสถานที่แออัด สวมใส่หน้ากากผ้า/หน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ กินร้อน ใช้ช้อนกลางส่วนตัว หากพบว่ามีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ ร่วมกับมีประวัติเสี่ยงให้รีบพบแพทย์ จะทำให้ประเทศสามารถควบคุมโรคได้
“การที่กระทรวงสาธารณสุขสนับสนุนการเปิดเศรษฐกิจประเทศ ไม่ว่าการเปิดด่านชายแดนหรือ การเปิดรับนักท่องเที่ยว สิ่งสำคัญที่สุดความปลอดภัยของประชาชน โดยไม่ลดมาตรฐานการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรค” นายแพทย์ธนรักษ์กล่าว