กทม.เร่งแก้น้ำท่วมจุดเสี่ยงพระราม 9 ซอย 7 ขยายบ่อสูบ-เครื่องสูบน้ำไฟฟ้า เพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ
ขอโทษชาวกรุง ยอมรับเหตุน้ำท่วมหลายจุดวานนี้ เหตุปริมาณน้ำฝนสูงสุดถึง 100 มม. เกินศักยภาพการระบายน้ำ
วันนี้ (24 ก.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น. ณ ศูนย์บริหารจัดการน้ำกรุงเทพมหานคร สำนักการระบายน้ำ กทม. 2 เขตดินแดง : นายณรงค์ เรืองศรี ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ กทม. พร้อมด้วย นายอนุชิต พิพิธกุล ผู้อำนวยการสำนักงานเขตห้วยขวาง เปิดเผยถึงกรณีมีฝนตกหนักและเกิดน้ำท่วมขังรอการระบาย ที่ส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เมื่อวานนี้ (23 ก.ย. 63) ว่า ในช่วงเวลา 15.00 น. สำนักการระบายน้ำได้ตรวจพบกลุ่มฝนก่อตัวด้านทิศเหนือของกรุงเทพมหานคร ในพื้นที่หลักสี่ จตุจักร บางซื่อ เคลื่อนตัวเข้าพื้นที่ชั้นกลาง โดยกลุ่มฝนมีขนาดปานกลางถึงหนักกระจายหลายจุด จากการตรวจวัดปริมาณฝน พบว่า พื้นที่ที่มีฝนตกสูงสุดตามลำดับ ได้แก่ เขตดินแดง ปริมาณฝน 100.0 มิลลิเมตร เขตพญาไท ปริมาณฝน 99.0 มิลลิเมตร และเขตห้วยขวาง ปริมาณฝน 83.0 มิลลิเมตร จากทั้งหมด 11 จุด โดยมี 2 จุดที่ใช้เวลาในการระบายไม่เกิน 2.30 ชั่วโมง ได้แก่ ถนนประชาสุข เขตดินแดง และถนนกำแพงเพชร 2 บริเวณหมอชิตใหม่ ที่เหลือใช่เวลาระบายไม่เกิน 2 ชั่วโมง ทั้งนี้ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร มีความห่วงใยในปัญหาที่เกิดขึ้น จึงมอบหมายให้สำนักการระบายน้ำและสำนักงานเขตพื้นที่เร่งระบายน้ำในพื้นที่ต่างๆ อย่างต่อเนื่องโดยเร็ว สำหรับพื้นที่เขตดินแดง ห้วยขวาง ราชเทวี กรุงเทพมหานคร มีอุโมงค์มักกะสันช่วยระบายน้ำ รวมถึงอุโมงค์บางซื่อที่ช่วยบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ดังกล่าวด้วย ส่วนจุดอื่น เช่น ถนนดินแดง กรุงเทพมหานครได้ก่อสร้างบ่อเก็บน้ำใต้ดินบริเวณซอยศิริพร จึงไม่พบปัญหามากนัก ซึ่งฝนได้หยุดตกทุกพื้นที่ในช่วง 03.00 น. ของเช้าวันนี้ (24 ก.ย. 63) อย่างไรก็ตาม ถนนตามตรอก ซอก ซอยต่างๆ ที่ยังมีน้ำเร่งระบายนั้นก็ได้เร่งดำเนินการอย่างเต็มที่ ส่วนใหญ่ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว แต่หากยังมีจุดน้ำรอระบายอยู่ขอให้ประชาชนแจ้งเพิ่มเติมได้ เพื่อที่ทางกรุงเทพมหานครจะรีบเข้าไปดำเนินการแก้ไขต่อไป
สำหรับสถานการณ์ฝนที่ตกวานนี้นั้น ถึงแม้ฝนจะตกหนักมาก โดยตกเป็นเวลาสั้นๆ แต่มีปริมาณฝนมากกว่า 100 มิลลิเมตร นอกจากนี้ ยังเกิดไฟดับที่บ่อสูบน้ำ 3-4 แห่ง ซึ่งสำนักการระบายน้ำได้ประสานการไฟฟ้านครหลวงเข้าแก้ไข เพื่อให้บ่อสูบสามารถดำเนินการระบายน้ำต่อได้ อย่างไรก็ดี ในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขัง หรือการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำในพื้นที่กรุงเทพฯ จำเป็นต้องมีความพร้อมในทุกๆ ด้าน ทั้งหน่วยงานที่รับผิดชอบ ภาคประชาสังคมในการสอดส่องและร่วมมือไม่ให้เกิดปัญหาในการระบายน้ำ
ด้านผู้อำนวยการเขตห้วยขวาง กล่าวว่า สำหรับกรณีน้ำท่วมขังบริเวณซอยพระราม 9 ซอย 7 (ซอยทวีมิตร อสมท) กรุงเทพมหานครได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 2 เครื่อง บริเวณปากซอย 7 เพื่อดึงน้ำเข้าสถานีสูบน้ำฝั่งตรงข้ามเพื่อลงคลองสามเสน ซึ่งในการทำงานมีปัญหาอุปสรรค คือ กรุงเทพมหานครไม่สามารถเข้าไปดำเนินการปรับปรุงระบบท่อและถนนได้ เนื่องจากพื้นที่อยู่ในความดูแลของหมู่บ้านจัดสรรซึ่งยังไม่ได้ยกให้กรุงเทพมหานครดูแล อีกทั้งเป็นระบบระบายน้ำเก่าที่ไม่ได้บำรุงรักษา และบางบ้านมีการสร้างทางขึ้นทางลาดเข้าบ้านทับทางระบายน้ำ ส่งผลให้น้ำที่ไหลจากจุดที่ต่ำที่สุดไปสู่บ่อสูบน้ำได้ล่าช้า ประกอบกับลักษณะของถนนต่ำกว่าถนนพระราม 9 บริเวณกลางซอยมีระดับต่ำกว่าพื้นที่ทั่วไป 90 เซนติเมตร เวลาฝนตกมักมีปัญหาน้ำไหลไปรวมตัวและท่วมขังบริเวณดังกล่าว ซึ่งสำนักงานเขตห้วยขวางได้เดินเครื่องสูบน้ำตั้งแต่เวลา 15.00 น. สำหรับการแก้ไขปัญหานั้นจะต้องดำเนินการปรับปรุงระบบท่อระบายน้ำทั้งหมด แต่กรุงเทพมหานครยังไม่สามารถเข้าไปดำเนินการได้ เนื่องจากเป็นพื้นที่ของเอกชน