ไทยพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 5 ราย เป็นคนสัญชาติอินเดียเดินทางมาจากประเทศอินเดีย 4 ราย สาวไทยเดินทางมาจากสวิตเซอร์แลนด์ 1 ราย พักในสถานที่กักกันของรัฐ รักษาผู้ป่วยหายเพิ่ม 1 ราย โดยขณะนี้มีผู้ป่วยกำลังรักษาอยู่ 109 ราย
วันนี้ (22 ก.ย.) ที่ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ว่า พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่เพิ่มเติมอีก 5 ราย โดยเป็นผู้ที่เดินทางมาจากประเทศอินเดีย 4 ราย และสวิตเซอร์แลนด์ 1 ราย
สำหรับจำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมล่าสุดอยู่ที่ 3,511 คน เป็นผู้ป่วยที่ติดเชื้อภายในประเทศ 2,445 คน และผู้ป่วยที่ตรวจพบในสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ 573 คน และวันนี้มีผู้ป่วยรักษาหายแล้ว 1 คน รวมเป็น 3,343 คน ยังมีผู้ป่วยรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 109 คน ยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 59 คน
โดยผู้ป่วยรายใหม่มาจากอินเดีย 4 ราย โดย 3 รายแรกเป็นครอบครัว สัญชาติอินเดีย คือ มารดาและบิดา อายุ 30 และ 36 ปี พร้อมบุตรหญิงวัย 7 เดือน และอีกรายเป็นชาย สัญชาติอินเดีย อายุ 62 ปี อาชีพธุรกิจส่วนตัว ทั้งหมดเดินทางมาถึงไทยเมื่อวันที่ 16 ก.ย. เข้าพัก Alternative State Quarantine (ASQ) ใน กทม. และตรวจหาเชื้อครั้งที่ 1 ในวันที่ 19 ก.ย. ผลตรวจพบเชื้อ ทั้งหมดไม่มีอาการ
มาจากสวิตเซอร์แลนด์ 1 ราย เป็นหญิงไทย อายุ 44 ปี อาชีพแม่บ้าน เดินทางมาถึงไทยเมื่อวันที่ 16 ก.ย. เข้าพัก State Quarantine ในจังหวัดชลบุรี และตรวจหาเชื้อครั้งที่ 1 ในวันที่ 19 ก.ย. ผลตรวจพบเชื้อ ไม่มีอาการ
นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากรายงานผู้ติดเชื้อโควิด 19 สะสมของประเทศไทยตั้งแต่เริ่มมีรายงานผู้ติดเชื้อพบว่า กลุ่มวัยรุ่น วัยทำงาน ที่อยู่ในช่วงอายุ 20-39 ปี มีการติดเชื้อรวมกันมากกว่าร้อยละ 50 และส่วนมากจะเป็นผู้ที่ไม่แสดงอาการ ที่สำคัญกลุ่มนี้จะใช้ชีวิตประจำวันอยู่นอกบ้านเพื่อเรียน ทำงาน ถือว่ามีความเสี่ยงสูงที่จะนำเชื้อไปแพร่ให้กับผู้อื่นหรือคนในครอบครัวโดยไม่รู้ตัว ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้ย้ำเสมอว่าการที่ไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อในประเทศ ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีผู้ติดเชื้อปะปนอยู่ในสังคม ขอให้ทุกคนอย่าประมาท เคร่งครัดการปฏิบัติตัวตามมาตรการป้องกันตนเอง ด้วยการสวมหน้ากากอนามัย/หน้ากากผ้า ล้างมือบ่อยๆ เว้นระยะห่างระหว่างผู้อื่นเท่าที่จะทำได้ และลงทะเบียนเข้าออกสถานที่ที่ใช้บริการผ่าน “ไทยชนะ” ทุกครั้ง เพราะหากพบผู้ติดเชื้อจะง่ายต่อการติดตามผู้สัมผัสมาตรวจและเฝ้าระวังโรค
นอกจากนี้ กระทรวงสาธารณสุขยังมีความห่วงใยสุขภาพของผู้ที่เข้าร่วมการชุมนุมเมื่อวันที่ 19-20 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งนับว่ายังมีความเสี่ยงเนื่องจากเป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรง เมื่อป่วยอาจไม่แสดงอาการ จึงขอให้เฝ้าระวังสังเกตอาการตนเองเป็นเวลา 14 วัน หากมีอาการ ไข้ ไอเจ็บคอ น้ำมูก การรับรส/ กลิ่นลดลง อย่าปล่อยไว้ให้รีบไปรับการตรวจวินิจฉัยที่โรงพยาบาลใกล้บ้านทันที และหลีกเลี่ยงการใกล้ชิดผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง เนื่องจากกลุ่มนี้หากป่วยจะมีอาการรุนแรงและอาจเสียชีวิตได้
สถานการณ์ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทั่วโลก
วันอังคารที่ 22 กันยายน 2563 เวลา 10.00 น.
ยอดผู้ติดเชื้อรวม 31,480,517 ราย
อาการรุนแรง 61,808 ราย
รักษาหายแล้ว 23,109,592 ราย
เสียชีวิต 969,290 ราย
อันดับประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด
1. สหรัฐอเมริกา จำนวน 7,046,216 ราย
2. อินเดีย จำนวน 5,560,105 ราย
3. บราซิล จำนวน 4,560,083 ราย
4. รัสเซีย จำนวน 1,109,595 ราย
5. เปรู จำนวน 772,896 ราย
ประเทศไทย อยู่ในอันดับที่ 134 จำนวน 3,511 ราย