xs
xsm
sm
md
lg

กรมควบคุมโรค เร่งติดตาม-ตรวจหารายละเอียดเพิ่มเติม กรณีผู้เดินทางจากไทยไปญี่ปุ่นติดเชื้อโควิด

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เร่งติดตามกรณีผู้เดินทางจากประเทศไทย ไปที่ประเทศญี่ปุ่น พบการติดเชื้อโควิด-19 โดยมีการประสานไปยังจุดประสานงานกฎอนามัยระหว่างประเทศ ของประเทศญี่ปุ่น  เพื่อสอบสวนโรคและตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมต่อไป         
วันนี้ (11 ก.ย.) นายแพทย์ สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า พบผู้เดินทางไปญี่ปุ่นติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หลังเดินทางกลับจากไทย นั้น กรมควบคุมโรค ขอให้ข้อมูลว่า หลังจากได้รับรายงานในเรื่องดังกล่าวแล้ว กรมควบคุมโรคได้ประสานไปยังจุดประสานงานกฎอนามัยระหว่างประเทศ (IHR national focal point) ของประเทศญี่ปุ่น เพื่อสอบสวนโรค ตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวแล้ว           
จากการตรวจสอบรายละเอียดในเบื้องต้น พบว่า ในช่วงที่ผ่านมา มีกรณีผู้เดินทางจากไทยไปญี่ปุ่น ตรวจพบการติดเชื้อโควิด 19 จำนวน 5 เหตุการณ์ (2 เหตุการณ์เดิมที่เคยรายงานไปแล้ว คือ เหตุการณ์ชายไทยอายุ 24 ปี และเหตุการณ์ชายญี่ปุ่นอายุ 47 ปี) โดยพบเพิ่มอีก 3 เหตุการณ์ ดังนี้ รายแรกเป็นเพศชาย สัญชาติญี่ปุ่น อายุ 64 ปี (เป็นรายที่ 730 ของญี่ปุ่น) อาชีพผู้จัดการทั่วไป บริษัทแห่งหนึ่งในเขตบางนา เดินทางเข้าประเทศไทย และพักที่คอนโดย่านสุขุมวิท กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 1 เม.ย. 59 เดินทางไปต่างประเทศครั้งสุดท้ายเมื่อเดือน ม.ค. 63 ซึ่งอาศัยอยู่คนเดียวไม่มีครอบครัว ในวันที่ 17 ส.ค. 63 ได้คืนห้องพักและย้ายไปพักไปที่โรงแรมย่านสุขุมวิท และได้เดินทางกลับญี่ปุ่นวันที่ 20 ส.ค. 63 เมื่อไปถึงสนามบินฮาเนดะได้มีตรวจหาเชื้อโดยตัวอย่างจากน้ำลาย พบผลบวก
 
โดยจากการสอบสวนโรคผู้สัมผัสใกล้ชิดในกรณีดังกล่าว ระหว่างวันที่ 21-23 ส.ค. 63 และวันที่ 9 ก.ย. 63 ที่ผ่านมา พบผู้สัมผัส จำนวน 76 คน ในบริษัทที่ทำงาน โรงแรมที่พัก และคอนโดมิเนียม โดยเป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูง 22 คน และเสี่ยงต่ำ 54 คน มีการตรวจหาเชื้อทางห้องปฏิบัติการในผู้สัมผัสทั้งหมด 50 คน ผลทั้งหมดไม่พบเชื้อแต่อย่างใด         

นายแพทย์ สุวรรณชัย กล่าวต่อไปว่า รายที่สองเป็นเพศชาย สัญชาติไทย อายุ 21 ปี (เป็นรายที่ 770 ของญี่ปุ่น) ที่อยู่เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร เป็นนักศึกษา กำลังเดินทางไปศึกษาที่ประเทศญี่ปุ่น จึงตรวจโควิด-19 ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ในวันที่ 27 ส.ค. 63 ให้ผลลบ เดินทางถึงญี่ปุ่นวันที่ 29  ส.ค. 63 ตรวจหาเชื้อโดยตัวอย่างจากน้ำลาย พบผลบวก จากการสอบสวนโรคในประเทศไทยไม่พบผู้สัมผัสเสี่ยงสูง  สำหรับรายที่สาม เป็นเพศชาย สัญชาติไทย อายุ 44 ปี (เป็นรายที่ 790 ของญี่ปุ่น) ที่อยู่ อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด เดินทางไปญี่ปุ่นทุก 3 เดือน เพื่อซื้ออะไหล่ โดยครั้งนี้เดินทางถึงญี่ปุ่นวันที่ 1 ก.ย. 63 ตรวจหาเชื้อโดยตัวอย่างจากน้ำลาย พบผลบวก ทั้งนี้ จากการสอบสวนโรคในประเทศไทย พบว่า ในช่วง 14 วันก่อนเดินทางไปญี่ปุ่น มีการเดินทางระหว่างที่ทำงานบริเวณถนนบางนา-ตราด และ จ.ร้อยเอ็ด และมีการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ก่อนเดินทางไปญี่ปุ่น ในวันที่ 28 หรือ 29 ส.ค. 63 ผลตรวจโควิด-19 เป็นลบ จึงมีการเดินทางในวันที่ 31 ส.ค. 63 ไปญี่ปุ่นกับเพื่อน 1 คน  ส่วนผู้สัมผัสใกล้ชิดร่วมบ้านที่ จ.ร้อยเอ็ด มี 4 คน ได้แก่ ยาย ภรรยา ลูกชาย และ หลานสาว ไม่มีใครป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจ อยู่ระหว่างการติดตามผู้สัมผัสรายอื่น และการตรวจหาเชื้อในผู้สัมผัสใกล้ชิด หากมีความคืบหน้าจะแจ้งให้ประชาชนทราบต่อไป         
ทั้งนี้ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้ปฏิบัติตามหลักสากลในการป้องกันควบคุมโรค ตามกฎอนามัยระหว่างประเทศ พ.ศ. 2548 (International Health Regulations : IHR 2005) ที่ได้รับความร่วมมือจากทุกประเทศที่มีระบบความร่วมมือและแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างประเทศ ทำให้มีการตรวจสอบติดตามและสอบสวนป้องกันโรคได้อย่างรวดเร็วทันที เมื่อได้รับแจ้งข่าว และขอให้ประชาชนมั่นใจในมาตรฐานการป้องกันควบคุมโรคของประเทศไทยที่มีความเข้มแข็งและดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง หากประชาชนมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลได้ที่สายด่วน


กำลังโหลดความคิดเห็น