“เกรียงยศ” รองผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานคร ตรวจเยี่ยมโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร ภายหลังเปิดทำการเรียนการสอนเต็มรูปแบบ On Site เผย โรงเรียนมีการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันที่กรุงเทพมหานครกำหนดไว้ครบถ้วน นักเรียนทุกคนให้ความร่วมมือ
วันนี้ (14 ส.ค.) ณ โรงเรียนทุ่งสองห้อง (คุปตัษเฐียรอุทิศ) เขตหลักสี่ นายเกรียงยศ สุดลาภา รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร ภายหลังเปิดทำการเรียนการสอนเต็มรูปแบบ On Site วานนี้ (13 ส.ค. 63) โดยมี นายขจิต ชัชวานิชย์ รองปลัดกรุงเทพมหานคร นายประเสริฐ ฉวีอินทร์ รองผู้อำนวยการสำนักการศึกษา ผู้บริหารสำนักงานเขตหลักสี่ และผู้บริหารสถานศึกษา ร่วมลงพื้นที่พร้อมให้ข้อมูล
รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) โรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร ทั้ง 437 แห่ง ได้แบ่งทำการเรียนการสอน 2 รูปแบบ คือ แบบมาเรียนปกติ จำนวน 315 แห่ง และแบบสลับวันเรียนผสมกับการเรียนออนไลน์ 122 แห่ง และตั้งแต่วันที่ 13 ส.ค.เป็นต้นมา ได้จัดการเรียนการสอนตามปกติ ภายใต้มาตรการป้องกันและดูแลเพื่อไม่ให้เกิดการระบาดระลอกใหม่ ประกอบด้วย การตั้งจุดคัดกรองบริเวณทางเข้า การติดตั้งจุดทำความสะอาดมือด้วยสบู่และเจลแอลกอฮอล์ในบริเวณต่างๆ ของโรงเรียน การจัดให้มีการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล และการทำความสะอาดอุปกรณ์ สถานที่ที่มีการสัมผัสบ่อยๆ รวมถึงการดูแลให้นักเรียนและบุคลากรในโรงเรียนสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา
ทั้งนี้ ตามที่ได้รับมอบหมายจาก พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้ลงพื้นที่ตรวจสอบความพร้อมและการดำเนินการของโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร ในส่วนของโรงเรียนทุ่งสองห้อง (คุปตัษเฐียรอุทิศ) เขตหลักสี่ พบว่า เป็นโรงเรียนขนาดกลาง (มีจำนวนนักเรียนเกิน 400 คน) ทำการเรียนการสอนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล ถึงมัธยมศึกษาตอนต้น (ม.3) ปัจจุบันมีนักเรียน รวมทั้งสิ้น 540 คน โรงเรียนได้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันซึ่งกรุงเทพมหานครกำหนดไว้ครบถ้วน อย่างไรก็ดีได้กำชับให้ผู้บริหารสถานศึกษาบริหารจัดการเรื่องอาหารเช้า และอาหารกลางวันของเด็กให้เป็นไปอย่างเหมาะสม ถูกหลักโภชนาการ มีการสลับประเภทอาหารให้เกิดความหลากหลาย ดูแลอาหารในกลุ่มของเด็กอ้วนที่มีน้ำหนักเกิน และเด็กผอมให้นำอาหารบางส่วนกลับไปทานที่บ้านได้เพื่อแบ่งเบาภาระของผู้ปกครอง รวมทั้งกำชับให้นักเรียนทุกคนปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่างอย่างเคร่งครัด และจดบันทึกกิจกรรมที่ทำในแต่ละวันเพื่อประโยชน์ในการสอบสวนโรค หากเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดขึ้น