“ลิรากลูไทด์” ปากกาฉีดลดน้ำหนัก ต้องปรึกษาแพทย์ก่อนใช้

โดย...นพ.บุญเลิศ อิมราพร อายุรแพทย์โรคระบบทางเดินอาหาร รพ.เวชธานี

หลายคนอาจจะประสบปัญหา ยิ่งพยายามลดน้ำหนักมากเท่าไร ก็ยิ่งอ้วนขึ้นเท่านั้น สาเหตุอาจมาจากการลดน้ำหนักผิดวิธี เช่น อดมื้อเย็น งดแป้งและโปรตีน รับประทานเพียงผักและผลไม้ หรือบางคนอดอาหารตั้งแต่หลังเที่ยง ก็อาจทำให้ร่างกายยิ่งโหยหาและอยากอาหารเพิ่มขึ้น ที่สำคัญเป็นการทำให้กระบวนการเผาผลาญพลังงานในร่างกายต่ำลง ส่งผลให้สลายไขมันยากขึ้น

นอกจากนี้ ในระยะยาว ร่างกายจะมีการปรับตัวเข้าสู่สภาวะของการจำศีล จนกลายเป็นว่าเมื่อไหร่ที่เรารับประทานอาหารเข้าไป ร่างกายจะสั่งให้ทำการเผาผลาญลดลง แต่จะสั่งให้เก็บสะสมไขมันเพิ่มขึ้น จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมยิ่งอดอาหาร ถึงยิ่งอ้วน

ความอ้วนนอกจากจะส่งผลต่อบุคลิกภาพและความมั่นใจแล้ว ยังทำให้เกิดความเสี่ยงโรคต่างๆ ได้อีกด้วย เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจขาดเลือด และโรคมะเร็ง เป็นต้น

ปัจจุบันมีวิวัฒนาการทางการแพทย์หลากหลาย ที่ช่วยให้การลดน้ำหนักเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดโรค ไม่ว่าจะเป็นการกินยา การฉีดยา การใส่บอลลูนลดน้ำหนัก หรือการผ่าตัดรัดกระเพาะ ซึ่งแต่ละวิธีควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เฉพาะทางอย่างใกล้ชิด

สำหรับวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัดและได้รับความนิยมมากขึ้นในปัจจุบัน ได้แก่ การใส่บอลลูนลดน้ำหนัก และการใช้ปากกาฉีดลดน้ำหนัก Liraglutide (ลิรากลูไทด์) ซึ่งผ่านการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และ US FDA Approved

ในส่วนของปากกาลดน้ำหนัก 1 ด้าม จะมีสารออกฤทธิ์ Liraglutide ซึ่งสารนี้มีลักษณะคล้ายฮอร์โมนในร่างกายของคนเราถึง 97% นั่นคือ Glucagon like peptide-1 (GLP-1 receptor agonist) ซึ่งเป็นกลุ่มฮอร์โมนในทางเดินอาหารที่มีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือด เพราะฉะนั้นผลที่ได้จากการใช้ยานี้ คือ จะรู้สึกอิ่มนานขึ้น ไม่ค่อยหิวบ่อย ช่วยลดการผลิตน้ำตาลที่ตับ เพิ่มความไวของอินซูลินที่ตับอ่อนและที่กล้ามเนื้อ รวมถึงลดการเคลื่อนไหวของกระเพาะอาหาร จึงทำให้อาหารอยู่ท้องนานขึ้น

ปากกาฉีดลดน้ำหนัก Liraglutide เป็นยาที่ใช้ฉีดเข้าใต้ชั้นผิวหนัง ฉีดทุกวัน วันละ 1 ครั้ง ก่อนหรือหลังอาหารและสามารถฉีดเองที่บ้านได้ โดยขนาดยาที่ใช้ แพทย์เฉพาะทางที่ดูแลจะเป็นผู้กำหนด

ทั้งนี้ มีข้อมูลจากงานวิจัยเกี่ยวกับการใช้ปากกาฉีดลดน้ำหนัก Liraglutide พบว่า หากฉีดจนครบ 12 สัปดาห์ หรือ 3 เดือน ในขนาด 3.0 มิลลิกรัม/วัน จะสามารถลดน้ำหนักได้อย่างน้อย 5% ของน้ำหนักตั้งต้น โดยสามารถใช้ได้กับคนไข้ในกลุ่มที่อ้วนเกินมาตรฐาน BMI, กลุ่มคนที่ชอบกินจุกจิก, กลุ่มคนที่ชอบกินของหวาน มัน และมีความเสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน

หากต้องการใช้ปากกาฉีดลดน้ำหนัก Liraglutide ควรเข้ามารับคำปรึกษาจากแพทย์เฉพาะทาง เพื่อแพทย์จะได้สอบถามประวัติและตรวจร่างกายก่อนเริ่มฉีด ทั้งนี้ ระหว่างการรักษา จะมีการติดตามอาการและประเมินผลอย่างใกล้ชิด เพื่อให้คนไข้ลดน้ำหนักได้อย่างปลอดภัยและมีสุขภาพที่ดี

นอกจากนี้ การลดน้ำหนักที่ได้ผล และไม่ต้องผ่าตัดอีกหนึ่งวิธี คือการใส่บอลลูนลดน้ำหนัก ซึ่งเป็นวิธีที่ปลอดภัย และสามารถลดน้ำหนักได้มากถึง 24 กิโลกรัม ภายใน 1 ปี และยังสามารถใช้ควบคู่กับปากกาฉีดลดน้ำหนักเพื่อให้ได้ผลที่ดียิ่งขึ้น