คนไทยกลับมาไฟลต์เดียวกับลูกทูตซูดาน ติดโควิดอีก 3 ราย หลังก่อนหน้านี้ติดเชื้อไป 11 ราย รวมแล้ว 15 ราย ผู้ป่วยสะสมในไทยรวม 3,239 ราย ขยับลงมาอันดับที่ 101 ของโลก ทั่วโลกป่วย 13.9 ล้านราย บราซิลแตะ 2 ล้านราย อินเดียทะลุ 1 ล้านรายแล้ว ศบค.ย้ำอย่าคาดหวังเป็น 0 ไปตลอด ติดเชื้อเกิดขึ้นได้ แต่ขอให้รับมือทางการแพทย์ได้ อย่าตื่นตระหนก
วันนี้ (17 ก.ค.) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงข่าวสถานการณ์ประจำวันว่า วันนี้มีผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 จำนวน 3 ราย อยู่ในสถานเฝ้าระวังที่รัฐจัดให้ หายป่วยเพิ่ม 1 ราย ไม่มีเสียชีวิตเพิ่มเติม โดยผู้ป่วยสะสมรวม 3,239 ราย รักษาหายรวม 3,096 ราย เสียชีวิตรวม 58 ราย ยังรักษาใน รพ.85 ราย
นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ผู้ป่วยรายใหม่มาจากซูดานทั้ง 3 ราย เป็นไฟลต์เดียวกับกรณี ด.ญ.ซูดาน เดินทางถึงไทยวันที่ 10 ก.ค. ซึ่งไฟลต์นี้มี 245 คน โดยตรวจพบเข้าเกณฑ์สอบสวนโรค (PUI) 47 ราย ติดเชื้อไปแล้ว 12 ราย ก่อนหน้านี้รวม ด.ญ.ซูดานด้วย โดย 3 รายใหม่ คือ 1. หญิงไทยอายุ 22 ปี อาชีพนักศึกษา ตรวจครั้งแรกแรก วันที่ 14 ก.ค. พบยืนยันแต่ไม่มีอาการ 2. หญิงไทยอายุ 23 ปี อาชีพนักศึกษา ตรวจวันที่ 14 ก.ค. พบเชื้อไม่มีอาการ และ 3. หญิงไทยอายุ 28 ปี ตรวจครั้งแรกไม่พบเชื้อ มาเก็บครั้งที่ 2 วันที่ 15 ก.ค. พบมีเชื้อและมีอาการไข้ ไอ เสมหะ ทำให้ซูดานที่มีการเดินทางมา 450 คน พบติดเชื้อ 21 คน
นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า สถานการณ์ทั่วโลกติดเชื้อ 13.9 ล้านราย โดยติดเชื้อในวันเดียว 2.55 แสนราย โดยสหรัฐอเมริกายังเป็นอันดับ 1 ของโลก ผู้ป่วยรวม 3.69 ล้านราย เป็นรายใหม่ 7.3 หมื่นราย ถือว่าวิกฤตเพราะว่าเตียงไม่พอ ไอซียูก็แน่น ส่วนบราซิลป่วยรวม 2.01 ล้านราย ถึง 2 ล้านรายเป็นวันแรก เช่นเดียวกับอินเดียป่วยหลักล้านวันแรก ส่วนประเทศไทยอันดับลดลงมาที่ 101 ของโลก
“เราทำได้ดี แต่ความเป็น 0 นอกจากทำให้เราสบายใจ แต่ไม่ใช่ต้องยึดติดเป็น 0 ไปตลอด เราปล่อยให้มีตัวเลขบวกได้ อย่างจีนมี 10 ราย หรือเป็นหลักหลายสิบเรายังพอไหว การเกิดการติดเชื้อขึ้นได้ เป็นเรื่องธรรมดา อย่าคาดหวังว่าจะต้องเป็น 0 ไปตลอด เพราะฉะนั้น เมื่อมีขึ้นมาแล้วขอให้เพียงพอกับระดับของการบริการทางการแพทย์ ซึ่งเมื่อวานกระทรวงสาธารณสุขออกมาแถลงการณ์ถึงความพร้อม ทั้งเตียง ยา บุคลากร แพทย์แผนไทย สุขภาพจิต อนามัย การควบคุมโรค เรื่องแล็บ ทั้งนี้ เราไม่อยากให้ป่วย แต่ถ้าตัวเลขไม่เป็น 0 ได้ไหม คือได้ จะเกิดเมื่อไหร่ไม่รู้ แต่ถึงตอนนั้นต้องไม่ตื่นตระหนกแพนิคกันมากเกินไป ตัวเลขต่างประเทศเราจะเรียนรู้อย่างมีสติ โดยที่ไม่ใช้อารมณ์ เหมือนที่เราเผชิญโรคภัยไข้เจ็บในครอบครัวเราก็เป็นเรื่องที่เราต้องเจอพบกัน อยู่ที่จะมีสติกับการจัดการกับโรคนั้นอย่างไรเท่านั้น อยากให้เชื่อมั่นเรื่องของระบบสาธารณสุขของไทยที่เราวางไว้อย่างดี” นพ.ทวีศิลป์กล่าว