ศบค.แจงนักธุรกิจ “ปากีสถาน” ไม่ได้ลักลอบเข้า ชี้เอกสารครบ แต่ประสานงานภายในล่าช้า

ศบค.แจงนักธุรกิจ “ปากีสถาน” 8 คน มีเอกสารพกติดตัวครบถ้วน ยันไม่ได้ลักลอบ หรือหลบหนีเข้ามา แค่เอกสารประสานระหว่างหน่วยงานล่าช้าเท่านั้น ส่วนต่างชาติลอบเข้าเมืองช่องทางธรรมชาติ 3-4 พันคน เป็นตัวเลขสะสม หากพบก็ผลักดันออก คาดอยู่ในพื้นที่จริงไม่มาก

วันนี้ (13 ก.ค.) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) กล่าวถึงกรณีนักธุรกิจชาวปากีสถานที่เอกสารไม่ครบ แต่มาลงสนามบินสุวรรณภูมิว่า คนที่มาจากปากีสถานมีทั้งนักธุรกิจและนักเดินทางรวม 27 คน โดยเอกสารมี 2 ส่วน คือ เอกสารที่นำเข้ามาในการเดินทาง ทุกคนมีเอกสารครบถ้วนทั้งหมด แต่อีกส่วนคือ เอกสารที่ประสานระหว่างภายในหน่วยงานของไทยเพื่อให้ปรากฏชื่อคนเดินทาง พบว่ามีเอกสารส่งระหว่างหน่วยงาน 19 คน ขาดหายไป 8 คน ซึ่งเรื่องนี้เกิดจากการประสานกันล่าช้า ไม่ได้เป็นการลักลอบ หลบหนีหรืออะไร เพียงแค่เรื่องประสานชุดข้อมูลไม่ทันกาล หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็รับไปปรับปรุงแก้ไข ก็มีการพูดคุยกันว่าเพื่อลดข้อต่อต่างๆ ต้องเชื่อมประสานให้ดี เพื่อให้การเดินทางเรียบร้อย

นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ส่วนกรณีชาวต่างชาติหลบหนีโดยช่องทางธรรมชาติ ที่มีรายงาน 3-4 พันคน ตรงนี้เป็นตัวเลขสะสมตั้งแต่ มิ.ย. แต่เมื่อเราเจอเราผลักดันออกไป อยู่ในพื้นที่จริงๆ จึงไม่ได้มาก ซึ่งพรมแดนทางบก ชายแดนไทยเรากว้างไกลหลายพันกิโลเมตร ถ้าพบจะกักกันตัวและผลักดันออกไป ถ้าเข้ามาในตัวเมืองจะรับมากักขังอยู่ที่ส่วนกลางซึ่งมีพื้นที่รับคนได้หลักร้อยหลักพัน อย่างไรก็ตาม หลายรายพบว่าอยู่มานานแล้วก็ไม่ได้เป็นแหล่งเพาะเชื้อแต่อย่างใด รอเพียงผลักดันออกนอกประเทศเท่านั้น ทั้งนี้ การป้องกันปล่อยให้เป็นภารกิจฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ได้ ประชาชนทุกคนต้องฝากเป็นหูเป็นตาแทน อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ก็ได้รับมอบหมายช่วยกันดู ตรงนี้ประชาชนทุกคนช่วยกันได้ ถ้าไม่คุ้นหน้า ฝากบอกทางการเพื่อช่วยกันดูแล