พบผู้ป่วยโควิด-19 ในไทยอีก 3 ราย เผย 2 รายติดเชื้อในที่ทำงานส่วนราชการใน กทม. กลุ่มนี้ติดแล้วรวม 6 คน ส่วนอีกรายเป็นชาวภูเก็ต เคยสัมผัสกับผู้ป่วยที่เดินทางออกจากภูเก็ตไปปราจีนบุรี กรมควบคุมโรคเร่งติดตามผู้สัมผัสเกี่ยวข้องเพิ่มเติม
วันนี้ (18 พ.ค.) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงข่าวประจำวันว่า วันนี้มีผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ จำนวน 3 ราย หายเพิ่ม 1 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม โดยยอดผู้ป่วยสะสม 3,031 ราย หายกลับบ้านรวม 2,857 ราย เสียชีวิตเท่าเดิม 56 ราย ยังรักษาตัวใน รพ. 118 ราย ทั้งนี้ ผู้ป่วยใหม่ 3 ราย มาจากการสัมผัสผู้ป่วยรายก่อนหน้า โดย 2 รายแรกเกี่ยวข้องกับกรณีการติดเชื้อในส่วนราชการใน กทม.ได้แก่ 1. หญิงไทยอายุ 29 ปี มีอาการถ่ายเหลว เข้ารับการตรวจหาเชื้อวันที่ 15 พ.ค. รักษาตัวต่อใน รพ. จ.นนทบุรี 2. ชายไทยอายุ 55 ปี สัมผัสที่ทำงานเดียวกันกับผู้ป่วยรายแรก ตรวจหาเชื้อวันที่ 15 พ.ค. รักษา รพ.เดียวกันกับรายแรก กลุ่มนี้เกิดในที่ทำงานเดียวกันรวมเป็น 6 ราย โดยกรมควบคุมโรค (คร.) เข้าไปติดตาม มีผู้ใกล้ชิดต้องรับการตรวจเพิ่มเติมอีก และจะขยายผลไปอีกต่างหาก
นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า รายที่ 3 เป็นผู้ป่วยหญิงไทยอายุ 27 ปี ภูมิลำเนา จ.ภูเก็ต มีอาชีพขายสินค้า ประวัติสัมผัสผู้ป่วยยืนยันในรายที่เดินทางออกจากภูเก็ตแล้วไปป่วยที่ จ.ปราจีนบุรี โดยรายนี้เข้ารับการตรวจหาเชื้อวันที่ 15 พ.ค. รักษาต่อ รพ.ใน จ.ภูเก็ต ทั้งนี้ การเดินทางออกจาก จ.ภูเก็ตแล้วไปพบว่าป่วยโควิด-19 ในจังหวัดต่างๆ พบว่า เดือน มี.ค.ออกจากภูเก็ตแล้วไปเจอผู้ป่วยจังหวัดอื่น 7 ราย ช่วง เม.ย.เจอ 5 ราย และ พ.ค.เจอ 2 ราย คือ ปราจีนบุรี และเชียงใหม่ เรียกว่าเชื่อมโยงกับการเดินทางข้ามจังหวัด เป็นเรื่องธรรมดาของโรคระบาดติดต่อ เรามีอิสรเสรีในการเดินทาง แต่ต้องเข้าใจความเสี่ยง พอมีอาการขึ้นมาให้รีบเข้ารับการรักษาและตรวจโดยเร็ว แค่จมูกไม่ได้กลิ่น ครั่นเนื้อครั่นตัว มีไข้ ก็ไปได้เลย เจอได้เร็วรักษาได้เร็ว
สำหรับการแพร่กระจายของเชื้อโควิด-19 นั้น จากวันที่ 1 มี.ค. 2563 ใช้เวลา 1 เดือน กลายเป็นติดเชื้อ เป็นสีแดงแทบทั้งประเทศ แต่จากวันที่ 26 มี.ค. มีการประกาศภาวะฉุกเฉิน ใช้เวลาเดือนกว่าๆ พื้นที่สีแดงลดลงก็กลับมาเขียวเกือบทั้งประเทศ