ศบค. เตือนอย่าเพิ่งผ่อนคลายมาตรการทำงานที่บ้าน หลังเห็นตัวเลขผู้ป่วยใหม่ลดลงต่อเนื่อง ย้ำ ทุกคนยังต้องร่วมรักษามาตรการไปอีกยาว เพราะหากหย่อนยาน ผู้ป่วยมีโอกาสกลับมาพุ่งอีกแน่ ส่วนจะผ่อนคลายมาตรการใดจะมีทีมวิชาการพิจารณา
วันนี้ (13 เม.ย.) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) กล่าวถึงกรณีภาคเอกชนหลายแห่งเริ่มยกเลิกการทำงานที่บ้าน (Work From Home) เพราะเห็นตัวเลขผู้ป่วยรายใหม่เริ่มมีแนวโน้มลดลง ว่า ยังไม่อยากให้ผ่อนคลายมาก เพราะเห็นตัวเลขแล้วดีใจ และทำตัวเหมือนปกติ สิ่งที่เราต้องเน้นย้ำ คือ สถานการณ์ในประเทศเราล้อมรั้วภายในอย่างดี แต่ต่างประเทศผู้ป่วยยังเพิ่มขึ้น สถานการณ์ยังไม่น่าไว้วางใจ เรายังต้องร่วมมือกันคงมาตรการไว้อยู่ คือ ต้องทำให้ได้ 90% ตัวเลขถึงจะลดลง เพราะหากการ์ดตกลง ทำได้แค่ 80% หรือลงมา 70% ตัวเลขก้จะกลับมาพุ่งพรวด
“ตัวเลขผู้ป่วยใหม่ 28 ราย ไม่ใช่เพราะว่าช่วงสงกรานต์เราทำได้ดี แต่ตัวเลขนี้เกิดขึ้นจากที่ 5-7 วันก่อนเราทำดี ถึงปรากฏวันนี้เป็นอย่างนี้ ถ้าวันนี้เราผ่อนคลาย ผลไม่ได้ไปเกิดในวันพรุ่งนี้ แต่จะเกิดขึ้นใน 5-7 วันข้างหน้า เพราะเชื้อเขาอยู่ร่างกายเรา 5-7 วัน ถึงมีอาการ การ์ดตกไม่ได้ ยังต้องร่วมมือ 90% กันต่อไปเรื่อยๆ” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ทุกท่านต้องช่วยกันและร่วมมือกันยาวด้วย อาจถึงสิ้นเดือน หรือต้นเดือนหน้า เพราะพยากรณ์ว่าโรคนี้อยู่กับเรา 3-4 เดือน อย่างไรก็ตาม การคลายมาตรการบางอย่างลง จะมีคณะกรรมการวิชาการภายใต้ พ.ร.บ.โรคติดต่อ ประชุมพิจารณา ดูให้รอบทิศทางว่ามีผลกระทบอย่างไร แล้วผ่อนคลายออกมาบางอาชีพ บางพื้นที่ บางกิจกรรม แต่ยังไม่รู้ว่าจะผ่อนคลายในส่วนใดบ้าง เพราะเพิ่งลดลงไม่กี่วัน
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ส่วนเรื่องบางพื้นที่จะเปิดร้านตัดผมวันที่ 16 เม.ย.นั้น ต้องตรวจสอบข้อมูลก่อน โดยต้องยึดจากคำสั่งส่วนกลางเป็นหลัก ถ้าส่วนกลางไม่ได้บอกแต่จะทำเข้มกว่าก็ทำได้ แต่ทำอ่อนกว่าไม่ได้ อย่างไรก็ตาม การตัดผมต้องใกล้ชิดกันมาก ถ้าเป็นผู้ชายก็อาจมีการขนจมูก ใช้กรรไกรต่างๆ โกนหนวด เจอกับเรื่องของอาจมีเลือดบ้าง เป็นสิ่งมีโอกาสปนเปื้อนกับเชื้อถ้ากระบวนการทำความสะอาดไม่ดี